จากบทความแรกที่พาไปรู้จักที่มาที่ไปของ Digital & Social Trends 2025 ที่ออกมาเป็น 5R และเราก็อธิบายเทรนด์โซเชียลแรกที่มีชื่อว่า Rawlity Trend ที่มีจากการรวมตัวของสองคำนั่นก็คือ Raw + Reality ที่บอกให้รู้ว่าผู้บริโภคยุคใหม่โดยเฉพาะชาวเน็ต Gen Z กับ Alpha กำลังมองหาคอนเทนต์แบบไม่ปรุงแต่งติดแกรมกันมากขึ้น แบรนด์ไหนตั้งใจประดิษฐ์ประดอยคอนเทนต์ให้ดูดีเกินจริง หรือตามขนบธรรมเนียมเดิมมากเกินไป จะไม่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคยุคใหม่แน่นอน
ทำให้เทรนด์การใช้ Emoji รูปปลาโลมาและรุ้งกินน้ำได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่น หรือคนรุ่นใหม่ Gen Z และ Alpha อย่างมาก อีโมจินี้ถูกใช้บน TikTok อย่างมหาศาล มันสะท้อนถึงการได้ปลดปล่อยความคิด อารมณ์ ความรู้ ผ่อนคลายสมองด้วยการเอาสิ่งที่สะท้อนถึงความสุข ความสนุกแม้จะแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็ทำให้ชาวเน็ตได้รู้สึกว่าได้หลบหนีจากความเครียดในชีวิตจริงแปบนึง จะเรียกว่าพวกเขาต้องการหลุมหลบภัยทางอารมณ์ของชาวโซเชียลยุคใหม่ก็ว่าได้ครับ
อีกด้านหนึ่ง Gen Z ก็เริ่มหนีไปเล่นโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มใหม่สำหรับพวกเขา แต่อาจจะเก่าสำหรับ Gen Y และ Gen X อย่างเราๆ ไปแแล้วอย่าง Pinterest
Pinterest เป็นที่นิยมของ Gen Z 2025
น่าสนใจว่าชาวเน็ตวัยรุ่น Gen Z จำนวนมากเริ่มย้ายจากโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มเดิมที่คุ้นเคยไปยัง Pinterest โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มเก่าแก่ที่มีไว้สำหรับ Pin ภาพสร้างแรงบันดาลใจที่เคยเป็นที่นิยมของบรรดาเหล่า Designer วันวาน
ในแง่หนึ่งเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์ของโซเชียลมีเดียแบบเดิมๆ ที่ก่อให้เกิดคำว่า Attention Economy มาเป็นระยะเวลาสิบกว่าปีในช่วงเวลาของ Gen X กับ Gen Y แต่ดูเหมือนว่า Gen Z จะพอและเบื่อหน่ายกับการถูกกระตุ้นด้วยโซเชียลมีเดียมากเกินไป พวกเขาจึงเริ่มไปมองหาอะไรที่ลดความเครียดทำให้ตัวเองไม่กดดัน และที่สำคัญต้องสามารถสร้าง Inspiration ให้ตัวเองแทน
The Raised of Positive Content ยุคของคอนเทนต์สุขนิยม เมื่อไหร่ได้ชมต้องอมยิ้ม
บนโซเชียลมีเดียอย่าง TikTok ก็เกิดเทรนด์แฮชแท็กขึ้นมากมายที่สะท้อนถึงคอนเทนต์หรือคลิปวิดีโอแนวไม่ประดิษฐ์ ไม่แกรม ไม่หรู ไม่อวดรวยที่ได้รับความนิยมจาก Gen Z กันมากขึ้น เริ่มต้นจากกระแสแฮชแท็ก #LittleTreat ที่สะท้อนถึงการหาความสุขจากสิ่งละอันพันละน้อยในชีวิตประจำวัน ของเล็กๆ น้อยๆ ใกล้ตัวว่าสามารถทำให้เกิดคุณค่าหรือความแปลกใหม่ได้ขนาดไหน
เทรนด์นี้สอดคล้องกับกระแสค่าครองชีพแพงที่ใครอวดรวยได้ในวันนี้ถือว่าดูแปลก เพราะอินฟลูสายนั้นก็จะเริ่มไม่ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตยุคใหม่ Gen Z กับ Alpha ในวันนี้ครับ
อีกหนึ่งเทรนด์ที่เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่ม Gen Z บน TikTok คือ #HopeCore ที่สะท้อนถึงคนรุ่นใหม่กำลังมองหาสิ่งที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
ดูเหมือนสิ่งนี้จะเริ่มกลับมาได้รับความนิยมในกลุ่มชาวโซเชียล Gen Z อีกครั้ง ก็อย่างที่ย้ำไปหลายครั้งครับว่าเพราะโลกวันนี้เต็มไปด้วยความเครียด ส่วนโซเชียลมีเดียเองก็เต็มไปด้วยความกดดัน พวกเขาไม่อยากไปแข่งขันกับใครบนโซเชียลให้ได้ยอดไลก์มากขึ้นอีกแล้ว พวกเขาอยากได้กำลังใจที่เพิ่มขึ้นจากการใช้โซเชียลมีเดียแทน
นี่คือประเด็นทั้งหมดของ Social Media Trend 2025 ที่ 2 นั่นก็คือ Relaxable Content โซเชียลเพื่อชูใจ ลองมาดูว่ามีตัวอย่างแบรนด์ไหนทำการตลาดกับเรื่องนี้ได้ดีจนควรเอาไปศึกษาต่อกันครับ
Optimism Your Feed แคมเปญการตลาดจาก LG ที่ต้องการให้เราได้เห็นแต่โพสดีๆ บนหน้าฟีดโซเชียลของเราด้วยการ Crack Social Media Algorithm
ในแง่หนึ่งเหมือนแบรนด์ไม่ได้อะไรจากการทำสิ่งนี้ แต่ถ้าคิดให้ลึกซึ้งกว่าเปลือกภายนอกมันคือการสร้าง Top of Mind ให้แบรนด์ในระยะยาว แถมยังทำให้คนจำนวนมากที่เบื่อ Social Toxic ในปัจจุบันหันมาติดตาม LG ด้วยตัวเองมากขึ้นเพราะอยากให้ LG ช่วยปรับปรุงหน้าฟีดให้ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็สอดคล้องกับ Brand Purpose คือ Life’s Good อยากช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคุณให้ดีขึ้นนั่นเอง
Bonding Before Branding การตลาดสร้างสุขก่อนสร้างภาพ
ทำคอนเทนต์ตามกระแสแบบไม่ต้องคราฟคอนเทนต์หรือการตลาดจนเกินไป เราเห็นแล้วว่าคนชอบอะไรแปลกใหม่ในแบบที่คาดเดาไม่ได้ว่าแบรนด์เราจะกล้าทำแบบนี้ มันคือการกล้าฉีกตำรา Brand Identity ออกมาว่าโลกของแบรนด์ไม่ได้เหมาะกับการทำ Social Media Marketing สำหรับคนรุ่นใหม่ Gen Z และ Alpha อีกต่อไป
และการจะตามกระแสนั้นได้ทันก็ต้องรู้จักใช้เครื่องมืออย่าง Social Listening ให้เป็นด้วยตัวเองแล้ว เมื่อคุณมี Social Listening ใช้เองในทีมก็ทำให้การจะรู้เท่าทันกระแสเป็นเรื่องง่ายแบบไม่ต้องรอใครสรุปมาให้
จากตัวอย่างของ LG กับแคมเปญการตลาด Optimism Your Feed คงพอเห็นภาพแล้วว่าผู้คนวันนี้เบื่อหน่ายวิถีของโซเชียลมีเดียแบบเดิมๆ เราถูก Algorithm หล่อหลอมให้เราเป็นคนที่เราไม่อยากเป็น คิดในสิ่งที่ไม่อยากคิด มันพยายามหลอกล่อเราให้ติดกับหน้าจอจมดิ่งไปเรื่อยๆ จนหมดวัน ด้วยการเอาโพสแย่ๆ ส่วนใหญ่มาใส่สมองป้อนความคิดให้เราดาวน์เป็นส่วนใหญ่
แบรนด์ต้องพยายามโพสอะไรในแง่บวก โพสในสิ่งที่เป็นกำลังใจให้คน สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ติดตาม เป็นคนส่งคลื่นพลังดีๆ ออกไปเพราะนี่คือสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ Gen Z และ Alpha ต้องการคอนเทนต์และการตลาดแบบนี้จากแบรนด์มากขึ้นเรื่อยๆ