โลกโซเชียลมีเดียกำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในคอนเทนต์อาหารครับ จากเดิมที่เราคุ้นตากับภาพสวย ๆ ชวนหิว กำลังถูกแทนที่ด้วยเทรนด์ระดับโลกที่เรียกว่า “Food Entertainment” ซึ่งเป็นการผสมผสานเรื่องราวของอาหารเข้ากับความบันเทิง ความเป็นตัวตน อารมณ์ขัน และความเรียล หรือ Authenticity อย่างลงตัว
คลื่นลูกนี้กำลังเคลื่อนอยู่ในประเทศไทยโดยที่เราไม่รู้ตัว และกลายเป็นมิติใหม่ที่น่าจับตาของการสร้างสรรค์คอนเทนต์และเชื่อมต่อกับผู้ชมในยุคปัจจุบัน บทความนี้ผมจะพาทุกคนไปสำรวจปรากฏการณ์ Food Entertainment โดยเฉพาะในไทยไทย ตั้งแต่พฤติกรรมผู้บริโภคที่สนับสนุน แพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อน ตัวอย่างสุดครีเอทจากแบรนด์และครีเอเตอร์ ไปจนถึงความท้าทายและโอกาสที่รออยู่ ณ พรมแดนใหม่แห่งนี้
เจาะลึก “Food Entertainment” เมื่ออาหารไม่ใช่แค่เรื่องของ “รสชาติ” อีกต่อไป
เทรนด์นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในไทยนะครับ แต่เป็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่แบรนด์และครีเอเตอร์ต่างได้เริ่มทดลองใช้กลยุทธ์ใหม่ ๆ ตัวอย่างชัดเจนจากต่างประเทศคือ Emily English (@emthenutritionist) อินฟลูเอนเซอร์สายโภชนาการ ที่ร่วมงานกับแบรนด์ผลิตภัณฑ์ล้างจาน Fairy
ในคอนเทนต์ของเธอ เธอแชร์เทคนิค ‘Batch Cooking’ (การทำอาหารทีละมาก ๆ) ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์ปกติของเธอ แล้วเธอก็ชี้ให้เห็นปัญหาที่ตามมาคือ ‘กองทัพจานชาม’ ที่รอการล้าง ก่อนจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ Fairy เป็นทางออกที่ช่วยให้การล้างจานหลังทำอาหารง่ายขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการเชื่อมโยงสินค้าที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกันกับ Content ของเธอ แต่มันกลับตอบโจทย์ Pain Point ที่เกิดขึ้นจริงได้อย่างเนียนสุด ๆ และยังมีประโยชน์ต่อผู้ชมอีกด้วย
ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เป็นตัวอย่างในการสร้าง Content ในกลุ่ม Food Entertainment ได้เป็นอย่างดี โดยการสร้าง Content ลักษณะนี้ก็เป็นการผสมผสานองค์ประกอบต่าง ๆ อย่างสร้างสรรค์ โดยมีหัวใจสำคัญ ได้แก่
ความจริงใจ (Authenticity) การนำเสนอความเป็นมนุษย์ ความไม่สมบูรณ์แบบที่เข้าถึงง่าย
ความเป็นตัวตน (Personality) ใส่คาแรคเตอร์ อารมณ์ขัน สไตล์เฉพาะตัวของครีเอเตอร์
การเล่าเรื่อง (Storytelling) บอกเล่าที่มา ความรู้สึก หรือเบื้องหลัง ไม่ใช่แค่สูตรหรือผลลัพธ์
วัฒนธรรม (Culture) เชื่อมโยงกับบริบทท้องถิ่น วิถีชีวิต หรือเกร็ดน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง
ปฏิสัมพันธ์ (Engagement) ออกแบบให้เกิดการมีส่วนร่วม ชวนคุย ชวนแชร์ หรือทำกิจกรรมตาม
การผสมผสานองค์ประกอบเหล่านี้อย่างลงตัว คือสิ่งที่ทำให้เทรนด์นี้มีพลังในการสร้างความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งกว่าคอนเทนต์อาหารแบบเดิม ๆ เลยทีเดียว
ถอดรหัสพฤติกรรมคนไทย ทำไม เทรนด์นี้ถึง “ใช่” สำหรับที่ ไทย
พลังในการสร้างความเชื่อมโยงของ Food Entertainment จากที่เราได้พูดในตอนแรกนั้น มันยิ่งมีความน่าสนใจมากขึ้น เมื่อพิจารณาในบริบทของประเทศไทยโดยเฉพาะ รู้ไหมครับว่ามีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากทั้งพฤติกรรมการใช้สื่อดิจิทัลและวัฒนธรรมการกินอยู่ที่เป็นเอกลักษณ์ของคนไทย
AI-Generated by Shutterstock (Prompt: hands holding a smartphone, colorful 3D social media icons floating around, clear blue sky background, low-angle shot, sparkles and bright sunlight, hands in a yellow jacket, modern digital concept, representing social media engagement, content creation, influencer marketing, and digital communication, portrait photography –ar 3:4)
จากข้อมูลล่าสุดของ DataReportal ในรายงาน Digital 2025: Thailand ระบุว่าคนไทยใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียเฉลี่ยสูงถึง 3 ชั่วโมง 14 นาทีต่อวัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกที่ 2 ชั่วโมง 23 นาที ทำให้ประเทศไทยติดอันดับ Top 10 ประเทศที่ใช้โซเชียลมีเดียมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ ข้อมูลจากรายงานภาพรวมดิจิทัลต่าง ๆ ยังชี้ให้เห็นภาพรวมที่น่าสนใจว่า
คนไทยยังคงใช้เวลาบนโลกออนไลน์และโซเชียลมีเดียสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เฉลี่ยหลายชั่วโมงต่อวัน ทำให้แพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นช่องทางสำคัญในการรับข้อมูลข่าวสารและความบันเทิง
คอนเทนต์วิดีโอสั้น (Short-form Video) บน TikTok, Instagram Reels และ YouTube Shorts ยังคงเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยเฉพาะ TikTok
ประเภทคอนเทนต์ที่คนไทยชื่นชอบมากที่สุดยังคงเป็น ความบันเทิง (Entertainment) ตามมาด้วยเนื้อหาที่ให้ความผ่อนคลาย ตลกขบขัน และคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์
อิทธิพลของ อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ยังคงแข็งแกร่ง โดยคนไทยส่วนใหญ่ยอมรับว่าการตัดสินใจซื้อของพวกเขาได้รับอิทธิพลจากรีวิวหรือคำแนะนำของอินฟลูเอนเซอร์
พฤติกรรมเหล่านี้ช่วยผลักดันให้ Food Entertainment มีแนวโน้มที่จะเติบโตในไทย เพราะคอนเทนต์แนวนี้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทั้งรูปแบบวิดีโอสั้นที่ย่อยง่าย การเน้นความบันเทิงและอารมณ์ขัน การเปิดโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้แสดงความเป็นตัวตนและความจริงใจ ด้วยการใช้ “อาหาร” ที่เป็น Soft Power สุดแข็งแกร่งของคนไทย ในการเป็นแกนกลางในการสร้างสรรค์เรื่องราวนั่นเอง
TikTok และ Reels สมรภูมิแจ้งเกิดของ Food Entertainment
ถึงแม้คอนเทนต์ Food Entertainment จะอยู่บนหลายแพลตฟอร์ม แต่รู้ไหมครับว่า TikTok และ Instagram Reels ถือเป็นสมรภูมิหลักและเป็นปัจจัยเร่งสำคัญที่ทำให้เทรนด์นี้ระเบิดความนิยมขึ้นมา ด้วยลักษณะเฉพาะตัวที่เหมาะสมกับ Content ประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็น
อัลกอริธึมที่เน้นการค้นพบ (Discovery Algorithm) ที่เปิดโอกาสให้คอนเทนต์ที่มีความสดใหม่และสร้างสรรค์จากครีเอเตอร์ทุกคน สามารถเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างได้ ถ้าคอนเทนต์นั้นมีคุณภาพและสร้าง Engagement ได้ดี
รูปแบบวิดีโอสั้น (Short-form Video) เพราะตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความรวดเร็ว ย่อยง่าย เหมาะกับการนำเสนอโมเมนต์เด็ด ๆ เคล็ดลับสั้น ๆ หรือเรื่องราวที่กระชับแต่น่าติดตาม
เครื่องมือสร้างสรรค์ (Creative Tools) มีฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การใช้เสียงประกอบยอดนิยม, เพลงประกอบ, ฟิลเตอร์, เอฟเฟกต์, สติกเกอร์ ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและลูกเล่นให้คอนเทนต์ได้อย่างไม่จำกัด
บรรยากาศของแพลตฟอร์ม ซึ่งถูกมองว่าเป็นพื้นที่สำหรับความบันเทิง ความคิดสร้างสรรค์ และความเป็นธรรมชาติ ทำให้คอนเทนต์สไตล์ Food Entertainment สามารถเข้าถึงและได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ได้ง่ายนั่นเอง
ตัวอย่างในไทย เมื่ออินฟลูฯ และแบรนด์ไทยปรุงรส Food Entertainment ให้มีบรรยากาศที่แปลกใหม่
ปรากฏการณ์ Food Entertainment ในไทยไม่ได้เป็นแค่แนวคิดนะครับ แต่มีการนำไปปฏิบัติจริงอย่างแพร่หลายและสร้างสรรค์ ทั้งจากมุมของอินฟลูเอนเซอร์ผู้สร้างคอนเทนต์ และจากมุมของแบรนด์ที่ใช้เทรนด์นี้เป็นเครื่องมือทางการตลาด
ฝั่งอินฟลูเอนเซอร์ สร้างสรรค์ด้วย Character และไอเดียสุดปัง
เราเห็นอินฟลูเอนเซอร์ชาวไทยจำนวนมากหันมาสร้างสรรค์คอนเทนต์ Food Entertainment โดยเน้นการใส่ความเป็นตัวเองลงไปอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอแบบสนุกสนาน เข้าถึงง่าย หรือเน้นความสวยงามและความคิดสร้างสรรค์ที่แตกต่าง
@mmfuwongg มีใครเคยเห็นเค้กวันเกิดสูง 2.2m กันบ้างมั้ยคะ ต้องขอบคุณคุณฮวง ที่ทำให้มีโอกาสได้ทำเค้กวันเกิดสุดปังจริงๆนะคะ สำหรับโพสนี้ mm จะมาแจกเค้กสุดอลังการค่ะ ใครอยากได้เค้กแบบไหน comment กันมาเลยนะคะ idea ไหนถูกใจ มมจะทักไปทำให้เป็นของขวัญนะคะ แค่คิดก็สนุกแล้ว มาสนุกด้วยกันนะค้า เค้ก Honey Avocado Chocolate เป็นรสชาติที่อร่อยมากเลย ไม่แน่ใจว่าควรทำขายไหม มีใครอยากทานบ้างคะ หรือมีใครอยากได้สูตรไปทำทานเองไหมคะ ปล. ตอนอัพไปแล้วรู้สึกว่าเสียงเพลงดังไป ขออภัยในความรีบตัดต่อนะค้า 😅
♬ original sound – mmfuwong – mmfuwong
ตัวอย่างอินฟลูเอนเซอร์สายครีเอทีฟ เช่น คุณฟิว (@mmfuwongg) บน TikTok เป็นครีเอเตอร์ที่โดดเด่นในการนำเสนอคอนเทนต์อาหารผ่านมุมมองที่แปลกใหม่และเน้นภาพลักษณ์ (Visual) ที่น่าสนใจ เขามักจะทดลองทำเมนูที่ท้าทาย หรือสร้างสรรค์กิมมิคที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสะท้อนถึงเทรนด์ที่อินฟลูเอนเซอร์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำอาหารตามสูตร แต่คือการสร้าง “โชว์” หรือ “ประสบการณ์” ที่น่าจดจำให้กับผู้ชม
ฝั่งแบรนด์ กลยุทธ์ Food Entertainment แบบใหม่ แบบ Cross-market
แบรนด์ต่างๆ ในไทยเริ่มมองเห็นศักยภาพของ Food Entertainment มากขึ้น และกล้าที่จะทดลองใช้กลยุทธ์ที่ฉีกกรอบเดิม ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ที่ไม่ได้อยู่ในอุตสาหกรรมอาหารโดยตรง
Breeze (ผลิตภัณฑ์ซักผ้า) ถือเป็นกรณีศึกษาคลาสสิกของการใช้ Food Entertainment ข้ามอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้ โดย Breeze ได้ร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์สายครีเอทีฟอย่าง คุณฟิว (@mmfuwongg) ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการทำคอนเทนต์อาหารที่เน้นภาพลักษณ์และความแปลกใหม่ ในการสร้างสรรค์เมนูอาหาร/ขนมให้มีหน้าตา เลียนแบบ Packaging หรือโลโก้ของผลิตภัณฑ์บรีส บอกเลยว่าแปลกแต่เก๋
@mmfuwongg วันนี้มาขจัดคราบหนักโดยการกิน บรีสสูตรเซรั่มเข้มข้น!! ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเสกเสื้อสะอาดได้ด้วยการกิน เอ้ย การใช้ บรีสค่ะ! เค้ามาพร้อมกับอัลติเมตเซรั่ม ที่ประกอบไปด้วยสารทำความสะอาดเข้มข้น และน้ำหอมพรีเมียม ทั้งซักสะอาด และทำให้ผ้าหอมหรูหรา ยาวนาน 45 วัน ตั้งแต่ซักจนใส่ไปเลยค่ะ ทำรสชาติ น้ำยา เอ้ย น้ำเชื่อม ตามกลิ่นหอมของบรีส ฟีลดอกไม้นานาชนิด หอมแบบลักชู ฟีลคุณหนูกำลังจะไปออกงาน! หอมนาน ลดกลิ่นอับ มั่นใจแบบพร้อมไปเฉิดฉายค่ะ 🤭 ไปลองกิน เอ้ย ลองใช้กันนะค้า 🫶🏻 #บรีสสูตรเซรั่มเข้มข้น #กล้าเลอะกล้าใช้ชีวิต #BreezeExcel ปล. คลิปทำเพื่อความบังเทิง ของจริงกินไม่ได้นะคะ อย่าเข้าใจผิดกันน้า 😅
♬ original sound – mmfuwong – mmfuwong
กลยุทธ์นี้ใช้ความคอนทราสต์ระหว่างอาหารกับผลิตภัณฑ์ซักผ้า สร้าง Surprise และ Humor ในการดึงดูดความสนใจพร้อมสร้างไวรัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นว่า Food Entertainment สามารถเป็นเครื่องมือสร้าง Brand Awareness แม้สินค้าจะดูไม่เกี่ยวข้องกับอาหารเลยก็ตาม
Ingu (สกินแคร์) ใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป โดยเชื่อมโยงคุณค่าของแบรนด์เข้ากับ Food Entertainment อย่างลงตัว แบรนด์นี้เน้น ส่วนผสมจากธรรมชาติ จึงสามารถสร้างคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงส่วนผสมเหล่านั้นเข้ากับวัตถุดิบเพื่อสุขภาพในอาหาร หรือทำงานร่วมกับ Food/Lifestyle Creator
เพื่อนำเสนอแนวคิด Wellness ที่ครอบคลุมทั้งการดูแลตัวเองจากภายใน (อาหาร) และภายนอก (สกินแคร์) เรียกได้ว่าเป็นการใช้ Food Entertainment เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว
กลยุทธ์ต่าง ๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Food Entertainment ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่เปิดกว้างให้กับการตีความและสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด และชี้ให้เห็นถึงโอกาสสำหรับอินฟลูเอนเซอร์ หรือแบรนด์ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่จะเข้ามา “ร่วมเล่น” ในพื้นที่ที่น่าตื่นเต้นนี้ได้นั่นเอง
ความท้าทายในสนาม เมื่อลงมือทำ Food Entertainment
แน่นอนว่าทุกโอกาสย่อมมาพร้อมกับความท้าทาย การสร้างสรรค์คอนเทนต์ Food Entertainment ให้ประสบความสำเร็จและยั่งยืนก็เหมือนกัน ประเด็นที่ครีเอเตอร์และแบรนด์ต้องพิจารณา เช่น
สมดุลระหว่างความจริงใจกับการค้า การสอดแทรก Sponsored Content ต้องทำอย่างระมัดระวังและโปร่งใส เพื่อไม่ให้เสียความน่าเชื่อถือและความรู้สึกที่ผู้ชมมอบให้
การสร้างความแตกต่าง ในวันที่ใคร ๆ ก็ทำคอนเทนต์แนวนี้ การหาเอกลักษณ์ มุมมอง หรือรูปแบบการนำเสนอที่สดใหม่และโดดเด่นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
การวัดผลที่แท้จริง นอกเหนือจากยอดวิวหรือไลค์แล้ว การวัดผลความสำเร็จควรพิจารณาถึงระดับ Engagement ที่มีความหมาย (เช่น คอมเมนต์ การแชร์ การบันทึก) หรือผลกระทบต่อแบรนด์ (เช่น Brand Sentiment, Leads, Sales) ซึ่งอาจต้องใช้เครื่องมือและการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนขึ้นตามไปด้วย
การรับมือกับ Feedback และดราม่า โลกโซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยความคิดเห็นที่หลากหลาย การเตรียมพร้อมรับมือกับคำวิจารณ์ หรือประเด็นอ่อนไหวที่อาจเกิดขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น
การเลือกและบริหารจัดการครีเอเตอร์ (สำหรับแบรนด์) การหาอินฟลูเอนเซอร์ที่มีสไตล์ ค่านิยม และกลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับแบรนด์ รวมถึงการบริหารความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันให้ราบรื่น ถือเป็นปัจจัยสำคัญเหมือนกัน
Source , Source
สรุป
ผมมองว่า Food Entertainment อาจจะไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราว แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราสร้างและบริโภคคอนเทนต์อาหารในยุคนี้ การผสมผสานระหว่างเรื่องราวของอาหารกับความบันเทิง ความเป็นตัวตน อารมณ์ขัน และความจริงใจ กำลังสร้างมิติใหม่ให้กับวงการคอนเทนต์อาหาร
สำหรับประเทศไทย ปรากฏการณ์นี้ค่อนข้างจะเข้ากันได้ดีกับทั้งวัฒนธรรมอาหารที่และพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียที่สูงของคนไทย โดยเฉพาะความนิยมในแพลตฟอร์ม TikTok และ Reels ที่เป็นสมรภูมิหลักของเทรนด์นี้
ความท้าทายสำคัญของเทรนด์นี้คือ อยู่ที่การรักษาสมดุลระหว่างความจริงใจกับการขาย การสร้างความแตกต่างท่ามกลางคอนเทนต์ที่คล้ายกัน และการวัดผลความสำเร็จที่แท้จริง ผู้ที่จะเติบโตในพื้นที่นี้ได้ต้องเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้งและกล้าทดลองแนวทางใหม่ ๆ
ท้ายที่สุด Food Entertainment คือการเปลี่ยน “อาหาร” ให้กลายเป็น “ประสบการณ์” แบบอื่นที่นอกเหนือจากรสชาติ และผู้บริโภคต้องเข้าถึงได้ ทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์ที่เข้าใจแก่นแท้ของเทรนด์นี้จะสามารถสร้างความผูกพันที่ยั่งยืนกับกลุ่มเป้าหมายได้นั่นเอง
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่