The Tampon Book Grand Prix PR Cannes 2019
Female

The Tampon Book หนังสือยัดใส้ผ้าอนามัยเพื่อตั้งใจปฏิวัติกฏหมาย จนคว้า Grand Prix สาขา PR ที่ Cannes ปีล่าสุด

The Tampon Book ที่ไม่ได้ทำมาเพื่อตบตาเลี่ยงภาษี แต่ทำมาเพื่อเอามาตบหน้ากฏหมายที่เก็บภาษีไม่ยุติกับผู้หญิงมานาน เพราะนักการเมืองที่ออกกฏหมายบอกว่าผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยเลยต้องเก็บภาษีแพงกว่าไข่ปลาคาเวียร์ จนคว้า Grand Prix สาขา PR ที่ Cannes ปีล่าสุด

งาน Cannes ล่าสุดในปี 2019 นี้ มีหนึ่งงานที่ถูกใจผมมากจนต้องขอลัดคิวเอามาเล่า เพราะเป็นงานที่ตั้งใจขบถต่อกฏหมายการเก็บภาษีที่ช่างไม่ยุติธรรมต่อผู้หญิงเอาเสียเลย เมื่อกฏหมายในหลายประเทศส่วนใหญ่บนโลกเลือกที่จะตีความว่าผ้าอนามัยของผู้หญิงนั้นเป็นของฟุ่มเฟือย ทั้งที่จริงมันเป็นของจำเป็นในชีวิตต่างหากเล่าคุณผู้ชายที่ออกกฏหมายเอ๋ย

The Tampon Book

จากข้อมูลพบว่าหลายประเทศในโลกอย่าง รัสเซีย เยอรมัน สวีเดน และจีน นั้นเก็บภาษีจากของใช้จำเป็นของผู้หญิงอย่างเช่นผ้าอนามัยสูงมาก เพราะถูกตีความว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยอีกชนิดนึง ทั้งที่สินค้าอย่างเห็ดทรัฟเฟิล หรือภาพวาดงานศิลปะ นั้นกลับถูกเก็บภาษีแค่ 7% เท่านั้น แต่กับผ้าอนามัยของใช้จำเป็นกลับถูกเก็บภาษีถึง 19% เลยทีเดียวครับ

ทางบริษัท The Female Company เลยไม่ขออยู่เฉยอีกต่อไป แต่ต้องลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่างเพื่อให้สังคมรับรู้ถึงปัญหา เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฏหมายตามมาในที่สุด

The Tampon Book Grand Prix PR Cannes 2019

จนพบว่าหนังสือเป็นอะไรที่เหมาะมาก ทั้งด้วยรูปทรงที่สามารถบรรจุของอย่างผ้าอนามัยเข้าไปได้ และเมื่อถูกนำขายในรูปแบบหนังสือก็สามารถลดภาษีเหลือแค่ 7% ได้ทันที ง่ายๆตามภาพแค่นี้เลยครับ เจาะหนังสือให้เป็นรู จากนั้นก็ใส่ตัวหนังสือจริงๆซักเล็กน้อย ก็สามารถวางขายและเสียภาษีแค่ 7% แบบหนังสือทั่วไปได้แล้ว

หนังสือสอดใส้ผ้าอนามัย The Tampon Book เล่มนี้กลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของคุณผู้หญิงอย่างมาก นอกจากจะทำให้สามารถขายผ้าอนามัยได้ถูกลงทันทีแล้ว ยังทำให้ประชาชนเข้าใจถึงปัญหาการเก็บภาษีที่ไม่เป็นธรรมมานานได้ในเสี้ยววินาทีที่เห็นหนังสือเล่มนี้อีกด้วย

The Tampon Book Grand Prix PR Cannes 2019

และแคมเปญนี้ยังไม่จบแค่นั้น เพราะเนื้อหาในเล่มนอกจากมีการเล่าเรื่องแบบเสียดสีผู้ชายที่ออกกฏหมายภาษีไร้สาระแบบนี้หน่อยๆ ยังมีการเชิญชวนให้ประชาชนชาวเยอรมันเข้าไปลงชื่อที่ Change.org เพื่อกดดันให้รัฐบาลเยอรมันรับรู้ว่าพวกเราไม่ยอมอีกต่อไป และคุณจะต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อแก้ไขเรื่องนี้ให้ถูกต้องทันทีด้วย

ผลคือเรื่องภาษีผ้าอนามัยและของใช้จำเป็นของผู้หญิงอื่นๆ ที่ถูกตีความว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยจนถูกเก็บภาษีในอัตราสูงมานาน กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในสภาเยอรมันว่าจะทำให้มันถูกต้องและเข้ากับยุคสมัยอย่างไร

พอรู้ทั้งหมดแบบนี้แล้วก็ไม่น่าแปลกใจเลยครับว่า ทำไม The Tampon Book เล่มนี้ถึงถูกใจกรรมการจนได้ Grand Prix สาขา PR ที่งาน Cannes ในปีนี้ ก็ไอเดียทั้งดีและทั้งโดน จนกลายเป็นกระแสและส่งผลต่อสังคมได้ขนาดนี้ ผมเชื่อว่าถ้ามีรางวัลที่ใหญ่กว่านี้ก็คงจะเป็น The Tampon Book นี่แหละครับที่ได้

แบรนด์ในวันนี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจที่จะเอาแต่กอบโกยผลกำไรอีกต่อไป แต่แบรนด์ที่จะอยู่ต่อไปได้ในอนาคต คือแบรนด์ที่ใส่ใจกับปัญหาชีวิตหรือสังคมของผู้คนในวันนี้ครับ

เว็บของแคมเปญนี้ที่ขายหนังสือ The Tampon Book ครับ https://www.thefemalecompany.com/tampon-book-en/

อ่านเคสการตลาดที่ใช้ Social Issue เพื่อสร้างแบรนด์เพิ่มเติม https://everydaymarketing.co/tag/social-issue/

The Tampon Book Grand Prix PR Cannes 2019

Source:
https://www.adweek.com/creativity/the-tampon-book-which-protests-taxes-on-menstrual-products-wins-pr-grand-prix-at-cannes/
https://adage.com/article/special-report-cannes-lions/tampon-book-subversive-attack-unfair-tax-rates-wins-pr-grand-prix-cannes-lions/2178971

Activation, Female, NGO

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Marmite Mind Control Psychology Marketing

Marmite Mind Control การตลาดสะกดจิต เปลี่ยนคนเกลียดให้กลายเป็นรัก

FacebookFacebookXXLINELineแคมเปญการตลาดที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี MarTech หรือ AI ที่ซับซ้อนแต่อย่างไร แต่พวกเขาใช้หลักการง่ายๆ อย่างการสะกดจิตที่เป็นศาสตร์ทางด้านจิตวิทยา หรือ Psychology Marketing จากนั้นก็เอามาประยุกต์ใช้กับแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า Marmite Mind Control ภายใต้แบรนด์สโลแกนที่ว่า “You either love it or hate it” หรือผมขอแปลเป็นไทยว่า “ปากบอกเกลียดแต่ถ้าได้ลองแล้วคุณจะรัก” สินค้าประเภท FMCG ที่ย่อมาจาก Fast Moving Consumer Goods หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ก็คือของกินของใช้ อุปโภคบริโภคทั่วไปนี่แหละครับ และด้วยความที่มันเป็นของกินของใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน นั่นก็หมายความว่าใครๆ ก็อยากเข้ามามีเอี่ยวในตลาดนี้กันทั้งนั้น และนั่นก็เลยทำให้ตลาด FMCG เป็นอะไรที่มีการแข่งขันกันสูงมาก บวกกับความยากในการที่ผู้บริโภคจะยอมเปิดใจเปลี่ยนไปซื้อแบรนด์ใหม่ที่ไม่คุ้นเคยก็เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะจากการวิเคราะห์ Insight จาก Data ก็ทำให้พบว่าแท้จริงแล้วผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เดิมซ้ำๆ ไปโดยไม่คิด นั่นทำให้ธุรกิจ FMCG จึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องมีการแข่งขันในการทำ Marketing แบบสุดๆ นั่นเองครับ และนั่นก็เลยเป็นที่มาของแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า Marmite Mind […]

Nattapon Muangtum
Read more

การตลาด Parkrun โปรโมตงานวิ่งการกุศลในรูปแบบใบสั่งยา

FacebookFacebookXXLINELineในยุคที่คนไม่ได้วิ่งออกกำลังกันแค่เพียงเพราะหวังสุขภาพทางร่างกาย แต่เรื่องของสุขภาพจิตก็สำคัญไม่แพ้กัน บทความนี้พามาส่อง การตลาด Parkrun องค์กรการวิ่งการกุศลที่ไม่ได้ PR งานแบบธรรมดา ๆ แต่เรียกความสนใจผ่านสื่อ OOH ในรูปแบบของ ‘ใบสั่งยา’ จะแปลกตาแค่ไหน มีอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันต่อค่ะ ที่มาที่ไปของแคมเปญ Just What the Doctor Ordered ต้องเกริ่นกันก่อนว่าจากรายงานของ National Running Report ในปี 2023 ที่ผ่านมา ที่ทำโดย Running Industry Alliance (RIA) และ England Athletics (EA) พบว่าจำนวนนักวิ่งประจำปีในประเทศอังกฤษเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน รวมเป็น 10.9 ล้านคนในปี 2023 ซึ่งแน่นอนว่า Parkrun องค์กรสำคัญด้านการวิ่งที่เป็นผู้จัดกิจกรรมวิ่งชุมชนฟรี ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับประโยชน์ในตรงนี้ จากการที่มีคนวิ่งเยอะขึ้น Community ก็ขยายเติบโตมากขึ้น จากกิจกรรมวิ่งเล็ก ๆ ตอนปี […]

Fern Panassaya
Read more
Launch Strategy - Nike Next% ซื้อไม่ได้ถ้าเร็วไม่พอ

Launch Strategy – Nike Next% ซื้อไม่ได้ถ้าเร็วไม่พอ

FacebookFacebookXXLINELineแคมเปญการตลาดที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ เป็น Launch Strategy ของ Nike ที่ประเทศจีน เมื่อพวกเขาต้องการจะเปิดตัวสินค้าใหม่อย่าง Nike Next% ที่เป็นรองเท้าวิ่งที่จะช่วยทำให้คุณเป็นนักวิ่งชั้นนำ แต่ปัญหาสำคัญคือบรรดานักวิ่งชั้นนำตัวจริงเค้าเบื่อกับคำว่าการซื้อรองเท้าคู่นี้ไปใส่จะทำให้วิ่งได้เร็วขึ้นจนกลายเป็นนักวิ่งชั้นนำจริงๆ แล้วสิ พวกเขาเลยต้องหากลยุทธ์หรือ Strategy ใหม่ที่จะทำให้นักวิ่งตัวจริงอยากได้กันจริงๆ ทางเอเจนซี่ที่ดูแล Nike ประเทศจีนอย่าง Mindshare China เลยต้องทำการบ้านหนักมาก เพราะสถานการณ์ของ Nike ที่ประเทศจีนนั้นถูก Adidas ตีคู่มาสูสีด้วย Market share ที่ห่างกันแค่ 2% เรียกได้ว่าหายใจรดต้นคอยังน้อยไป น่าจะต้องเรียกว่าหายใจข้างรูหูทำเอาขนหัวลุกเช้าเย็นก็ว่าได้ว่าชั่วโมงไหนที่จะถูกแซงจนกลายเป็นเบอร์สองครับ ดังนั้นกลยุทธ์การจะทำให้ Nike ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดจีนที่ทิ้งห่างเบอร์สองอย่าง Adidas คงไม่ใช่การแค่ทำให้สินค้าขายได้มากขึ้น แต่ต้องเป็นการปกป้องตำแหน่งของผู้นำหรือ Top of mind ในแง่ของ Perception ที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ว่าถ้าอยากเป็นเบอร์หนึ่งในการแข่งขันฉันต้องใส่ Nike เท่านั้นนะ และการที่จะทำให้คนคิดหรือมี Brand perception แบบนั้นได้ก็ไม่ได้มาจากการพูดเองเออเองของแบรนด์เหมือนอย่างที่ชอบทำๆ กัน แต่ต้องมาจากบรรดา Influencer หรือ […]

Nattapon Muangtum
Read more