Marmite Mind Control Psychology Marketing

Marmite Mind Control การตลาดสะกดจิต เปลี่ยนคนเกลียดให้กลายเป็นรัก

แคมเปญการตลาดที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี MarTech หรือ AI ที่ซับซ้อนแต่อย่างไร แต่พวกเขาใช้หลักการง่ายๆ อย่างการสะกดจิตที่เป็นศาสตร์ทางด้านจิตวิทยา หรือ Psychology Marketing จากนั้นก็เอามาประยุกต์ใช้กับแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า Marmite Mind Control ภายใต้แบรนด์สโลแกนที่ว่า “You either love it or hate it” หรือผมขอแปลเป็นไทยว่า “ปากบอกเกลียดแต่ถ้าได้ลองแล้วคุณจะรัก”

สินค้าประเภท FMCG ที่ย่อมาจาก Fast Moving Consumer Goods หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ก็คือของกินของใช้ อุปโภคบริโภคทั่วไปนี่แหละครับ และด้วยความที่มันเป็นของกินของใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน นั่นก็หมายความว่าใครๆ ก็อยากเข้ามามีเอี่ยวในตลาดนี้กันทั้งนั้น และนั่นก็เลยทำให้ตลาด FMCG เป็นอะไรที่มีการแข่งขันกันสูงมาก บวกกับความยากในการที่ผู้บริโภคจะยอมเปิดใจเปลี่ยนไปซื้อแบรนด์ใหม่ที่ไม่คุ้นเคยก็เป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะจากการวิเคราะห์ Insight จาก Data ก็ทำให้พบว่าแท้จริงแล้วผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เดิมซ้ำๆ ไปโดยไม่คิด นั่นทำให้ธุรกิจ FMCG จึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องมีการแข่งขันในการทำ Marketing แบบสุดๆ นั่นเองครับ

และนั่นก็เลยเป็นที่มาของแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า Marmite Mind Control ที่ทำมาเพื่อสะกดจิตเปลี่ยนใจคนเกลียดให้กลายเป็นคนรัก แต่ก่อนจะไปถึงรายละเอียดของแคมเปญการตลาดนี้ เราลองมาทำความรู้จัก Marmite กันหน่อยมั้ยครับ

Marmite เป็นหนึ่งในสินค้า FMCG ที่ถือว่าอยู่ในตลาดแบบ Red Ocean แบบสุดๆ เพราะตัว Marmite เองเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทาลงบนหน้าขนมปังที่มีหน้าตาคล้ายแยมแต่ไม่ใช่แยม มีสีเหมือนช็อคโกแลตแต่ไม่ใช่ช็อคโกแลต เนื้อครีมของ Marmite มีความเหนียวข้นกว่ามาก มีสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ มีความมันวาวเล็กน้อย เมื่อทา Marmite แล้ววางทิ้งไว้มันจะซึมเข้าไปในเนื้อขนมปัง ส่วนรสชาติจะออกเค็มๆ มันๆ คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไหร่ (เอาจริงผมก็เพิ่งมารู้จักจากการเขียนแคมเปญนี้แหละ) บวกกับกลิ่นที่แปลกในแบบที่ว่าถ้าไม่รักก็เกลียดไปเลย สมกับสโลแกนของแบรนด์จริงๆ ที่ว่า “You either love it or hate it”

ทีนี้เรากลับมาที่แคมเปญการตลาดแบบสะกดจิตของ Marmite Mind Control อีกครั้ง สิ่งที่แคมเปญนี้ทำนั้นเรียบง่ายมาก พวกเขาทำการท้าทายคนที่เกลียด Marmite ทั้งหลาย ไม่ว่าจะจากกลิ่น จากสี หรือจากรสชาติ ให้มาลองดูคลิปวิดีโอของแคมเปญนี้แล้วจะพบว่าคุณอาจจะเปลี่ยนใจมารัก Marmite แบบไม่รู้ตัวก็ได้นะ

แคมเปญการตลาดนี้เริ่มจากการปล่อย TVC ออกไปเพื่อท้าให้คนที่เคยได้กลิ่นแล้วเกลียดได้เข้ามาลองดูคลิปวิดีโอนี้ เพราะคลิปวิดีโอนี้จะเปลี่ยนใจให้คุณมารัก Marmite ได้แบบที่ไม่เคยคิดมาก่อน

จาก TVC โฆษณาที่เป็นภาพการทดลองของคนที่เคยเกลียด Marmite แล้วพอดูคลิปจบได้ลองดม ลองชิม หรือลองกินอีกครั้งก็จะพบว่าพวกเขาทุกคนล้วนเปลี่ยนใจได้ง่ายๆ แบบไม่น่าเชื่อ และนั่นก็ยิ่งเป็นการวาง Strategy เพื่อกระตุ้นให้คนที่เกลียดหรือแม้แต่ไม่ได้เกลียดแต่อยากจะรู้ว่า “ถ้าชั้นดูเจ้าคลิปนี้จบเหมือนกันแล้วมันจะอร่อยขึ้นอย่างคนในโฆษณาจริงหรือ?”

เมื่อผู้คนพิมพ์คำค้นหาตามท้าย TVC ที่ว่า Search: Marmite Mind Control สิ่งที่คนจะได้เห็นก็คือคลิปวิดีโอสะกดจิตยาว 2 นาทีกว่า ซึ่งคลิปนี้จะไม่ได้มีเทคนิคอะไรซับซ้อน แต่จะเป็นการค่อยๆ บรรยายคุณสมบัติของวิดีโอไปเรื่อยๆ ช้าๆ จากนั้นก็จะมีการบอกว่าจริงๆ แล้วคุณไม่ได้ชอบผลิตภัณฑ์คู่แข่งอย่างแยมหรือช็อคโกแลตหรอก จริงๆ แล้วคุณชอบ Marmite ต่างหาก

จากการดูคลิปสะกดจิตก็เข้าสู่คำถามเพื่อชี้นำความคิดเพิ่ม เป็นคำถามเพื่อวัดว่าคุณมีความเกลียด Marmite มากเท่าไหร่ แต่พอดูในเนื้อคำถามก็พบว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คุณจะบอกว่าคุณเกลียดสิ่งที่ Marmite เป็น เพราะเช่นเมื่อคุณถูกถามคำถามว่า คุณชอบกลิ่นใดมากกว่ากัน ระหว่างกลิ่น Marmite กับกลิ่นผ้าอ้อมเด็กใช้แล้ว ก็แหม ใครมันจะไปชอบกลิ่นผ้าอ้อมเด็กที่ใช้แล้วมากกว่ากันถ้าคนนั้นไม่ได้มีปัญหาเรื่องประสาทการรับรู้กลิ่นจริงมั้ยครับ

ดังนั้นทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลให้ทุกคนเริ่มหันมารู้สึกว่า จริงๆ แล้วตัวเขาไม่ได้เกลียด Marmite อย่างที่เคยคิดนิ เพราะจากคลิปและการตอบคำถามก็บอกให้รู้ว่าจริงๆ แล้วพวกเขาชอบ Marmite โดยไม่รู้ตัวมากกว่าที่คิดเลยแฮะ

แล้วผลลัพธ์ที่ได้จากการทำแคมเปญการตลาดแบบสะกดจิตนี้ก็ดีกว่าที่คิดกันไว้ไม่ใช่เล่น เพราะแคมเปญนี้สามารถทำให้คนรู้จัก Marmite ได้เพิ่มขึ้นกว่า 400% ที่สำคัญคือยังได้ลูกค้าใหม่ซื้อ Marmite ไปลองมากกว่า 100,000 หลัง ที่สำคัญที่สุดคือคะแนนความชอบ Marmite สูงขึ้นถึง 80% หรือถ้าจะสรุปส่งท้ายว่าสุดท้ายแล้วคนที่เคยเกลียดก็หันมารัก Marmite กันถ้วนหน้าก็ว่าได้ครับ

เป็นอย่างไรครับกับแคมเปญการตลาดแบบสนุกๆ แต่ได้ผลลัพธ์จริงที่ใช้ Psychology Marketing ด้วยการสะกดจิตให้คนรู้สึกว่าจริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้เกลียดหรอก แต่พวกเขารักมันมากกว่า ดังนั้นถ้าสินค้าหรือแบรนด์ของคุณกำลังประสบปัญหาแบบนี้อยู่ คุณลองเอาวิธีการวางกรอบความคิดให้ผู้คนเอาไว้ บวกกับการค่อยๆ ทำให้พวกเขาคิดว่าพวกเขาชอบมันมากกว่าสิ่งอื่นโดยไม่รู้ตัว สุดท้ายแล้วคุณก็จะได้กลุ่มคนที่เคยเกลียดมาเป็นลูกค้า และแน่นอนว่าคนกลุ่มนี้นี่แหละที่จะอยู่กับแบรนด์คุณไปอีกนาน

เพราะขั้นสุดของการทำกลยุทธ์คือการเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร เพราะถ้าเราสามารถเปลี่ยนกระทั่งศัตรูให้กลายเป็นมิตรได้ การจะผูกมิตรกับคนแปลกหน้าก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วครับ

คลิปการทดลองว่าคลิปสะกดจิตนี้จะได้ผลจริงมั้ย และที่น่าสนใจคือมันได้ผลจริงๆ ครับ

อ่านบทความที่เกี่ยวกับการตลาดจิตวิทยาต่อ > https://everydaymarketing.co/?s=%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2

Source
https://www.marmite.co.uk/videoedit.html
https://atkitchenmag.com/marmite-product-food-bread/

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *