แคมเปญการตลาดที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี MarTech หรือ AI ที่ซับซ้อนแต่อย่างไร แต่พวกเขาใช้หลักการง่ายๆ อย่างการสะกดจิตที่เป็นศาสตร์ทางด้านจิตวิทยา หรือ Psychology Marketing จากนั้นก็เอามาประยุกต์ใช้กับแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า Marmite Mind Control ภายใต้แบรนด์สโลแกนที่ว่า “You either love it or hate it” หรือผมขอแปลเป็นไทยว่า “ปากบอกเกลียดแต่ถ้าได้ลองแล้วคุณจะรัก”
และนั่นก็เลยเป็นที่มาของแคมเปญการตลาดที่ชื่อว่า Marmite Mind Control ที่ทำมาเพื่อสะกดจิตเปลี่ยนใจคนเกลียดให้กลายเป็นคนรัก แต่ก่อนจะไปถึงรายละเอียดของแคมเปญการตลาดนี้ เราลองมาทำความรู้จัก Marmite กันหน่อยมั้ยครับ
Marmite เป็นหนึ่งในสินค้า FMCG ที่ถือว่าอยู่ในตลาดแบบ Red Ocean แบบสุดๆ เพราะตัว Marmite เองเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทาลงบนหน้าขนมปังที่มีหน้าตาคล้ายแยมแต่ไม่ใช่แยม มีสีเหมือนช็อคโกแลตแต่ไม่ใช่ช็อคโกแลต เนื้อครีมของ Marmite มีความเหนียวข้นกว่ามาก มีสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ มีความมันวาวเล็กน้อย เมื่อทา Marmite แล้ววางทิ้งไว้มันจะซึมเข้าไปในเนื้อขนมปัง ส่วนรสชาติจะออกเค็มๆ มันๆ คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไหร่ (เอาจริงผมก็เพิ่งมารู้จักจากการเขียนแคมเปญนี้แหละ) บวกกับกลิ่นที่แปลกในแบบที่ว่าถ้าไม่รักก็เกลียดไปเลย สมกับสโลแกนของแบรนด์จริงๆ ที่ว่า “You either love it or hate it”
ทีนี้เรากลับมาที่แคมเปญการตลาดแบบสะกดจิตของ Marmite Mind Control อีกครั้ง สิ่งที่แคมเปญนี้ทำนั้นเรียบง่ายมาก พวกเขาทำการท้าทายคนที่เกลียด Marmite ทั้งหลาย ไม่ว่าจะจากกลิ่น จากสี หรือจากรสชาติ ให้มาลองดูคลิปวิดีโอของแคมเปญนี้แล้วจะพบว่าคุณอาจจะเปลี่ยนใจมารัก Marmite แบบไม่รู้ตัวก็ได้นะ