ทุกคนรู้ไหมคะว่า “การท่องเที่ยว” เป็นกระจกสะท้อนเทรนด์ผู้บริโภคได้ชัดมากค่ะ จากที่เราเคยคุ้นชินกับแพ็กกระเป๋าออกนอกประเทศ กลับกลายเป็นว่าคนไทยหลายคนเริ่ม “อยากเที่ยวในบ้านเรามากขึ้น” แถมยังหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเลือกที่พักหรือกิจกรรมที่สะท้อนความยั่งยืนอย่างจริงจังด้วย แนวโน้มใหม่นี้ไม่ใช่แค่เรื่องของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ยังเป็นโอกาสใหญ่สำหรับนักการตลาดและผู้บริหารทุกคนที่จะปรับกลยุทธ์เพื่อคว้าใจผู้บริโภคกลุ่มนี้ให้ได้ค่ะ วันนี้ผู้เขียนจะพาทุกคนไปเจาะ 5 เทรนด์การท่องเที่ยว 2025 ที่จะมาเปลี่ยนเกมและสร้างโอกาสอย่างคาดไม่ถึง
ทำไมนักการตลาดควรเกาะเทรนด์การท่องเที่ยวตอนนี้?
เพราะการท่องเที่ยวไม่ใช่แค่เรื่องของ “โรงแรมหรือสายการบิน” เท่านั้นนะคะ แต่ยังพ่วงไปถึงธุรกิจอีกหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นรีเทล อีคอมเมิร์ซ หรือการจัดอีเวนต์ต่าง ๆ ซึ่งทุกครั้งที่ผู้คน (รวมถึงตัวเราเอง) แพ็กกระเป๋าไปเที่ยว ย่อมมีการใช้จ่ายหลายรูปแบบ ตั้งแต่ค้นหาข้อมูล ซื้อของเตรียมทริป จองตั๋ว จองที่พัก ไปจนถึงรีวิวและแชร์ประสบการณ์หลังเดินทาง นี่ล่ะค่ะคือจุดที่นักการตลาดเข้ามาเสียบโอกาส ต่อยอดและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้อย่างเต็มที่
AI image generated by Shutterstock (Prompt : a cinematic shot of an Asian tourist sitting on the floor next to an open suitcase, holding a travel itinerary while packing clothes and essentials, a map and camera placed nearby, sunlight streaming through the window, creating a warm and excited atmosphere of preparation)
ล่าสุด Traveloka ได้ร่วมกับ YouGov สำรวจ “เสียงของนักท่องเที่ยว” กว่า 12,000 คน ใน 9 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก โดยมีชาวไทยกว่า 2,000 คนร่วมด้วย ภายใต้หัวข้อ “Travel Redefined: Understanding and Catering to the Diverse Needs of APAC Travellers” หรือ “การท่องเที่ยวในมิติใหม่: ทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” งานวิจัยนี้เผยให้เห็นว่าความคิดและพฤติกรรมของผู้เดินทางกำลังเปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติ ซึ่งพออ่านแล้วต้องบอกว่าน่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ
5 เทรนด์การท่องเที่ยว 2025 ที่นักการตลาดควรรู้
การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักสุด ๆ แล้วนะคะ อย่าปล่อยโอกาสทองหลุดมือ เรามาส่องกันว่า 5 เทรนด์เด่นในปี 2025 นี้ จะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจและตอบโจทย์พฤติกรรมนักท่องเที่ยวได้อย่างไรบ้างค่ะ
1. Nature & Sustainability นักท่องเที่ยวไทยหลงรัก “ธรรมชาติ” และแคร์ความยั่งยืนมากขึ้น
ไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราวนะคะ แต่คนไทยตอนนี้เริ่มสนุกกับการเที่ยวแนวรักษ์โลกอย่างจริงจัง จากผลสำรวจ พบว่า 85% ของคนไทยยอมเทใจให้ที่พักหรือบริการที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก แถมยังมี 72% ที่อยากไปภูเขา-อุทยานแห่งชาติ และอีก 65% ที่ชอบทะเล บอกเลยว่าใครที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับธรรมชาติ หรือ “Eco-friendly” อาจถึงเวลาปรับตัวออกโปร “Green” เอาใจลูกค้าสายอนุรักษ์แล้วล่ะค่ะ
2. Domestic Travel เที่ยวในประเทศมาแรง สบายใจแถมประหยัด
หลายคนอาจเคยชินกับการบินลัดฟ้าไปญี่ปุ่น เกาหลี แต่ตอนนี้กระแส “เที่ยวไทย” กำลังบูมสุด ๆ ค่ะ มีคนไทยกว่า 70% บอกว่าอยากเที่ยวในประเทศ เพราะว่าประหยัดค่าใช้จ่ายและไม่ต้องยุ่งยากกับเอกสารต่าง ๆ พอเที่ยวในประเทศนี่ที่เที่ยวสวย ๆ ก็เพียบ ทั้งภูเก็ต เชียงใหม่ กาญจนบุรี นักการตลาดที่อยากปั้นสินค้าท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จัก หรือทำแคมเปญโชว์เสน่ห์แบบไทย ๆ ตอนนี้คือจังหวะเหมาะสุด ๆ เลยค่ะ
3. Affordable Experience ราคาโดนใจ คือไม้ตายมัดใจ
ข้อนี้แทบไม่ต้องบรรยายเพิ่มเลยค่ะ เพราะ 41% ของคนไทยจ้องหา “ราคาสุดคุ้ม” เป็นอันดับแรกเวลาเลือกที่พักหรือบริการท่องเที่ยว และมีถึง 32% ที่บอกว่าพร้อมลองที่ใหม่ ๆ หากมีโปรโมชันพิเศษ นี่แหละค่ะ “ดีลเด็ด” สามารถเป็นกุญแจไปสู่การค้นพบสถานที่ใหม่ ๆ สำหรับลูกค้า อย่าลืมออกแพ็กเกจหรือโปรที่ทำให้คนร้องว้าว แล้วแชร์ต่อกันรัว ๆ บนโซเชียลนะคะ
4. Social Media Influence โซเชียลมีเดียคือตัวจริงในการวางแผนท่องเที่ยว
ใครกำลังมองข้ามโซเชียลอยู่ บอกเลยว่าเสี่ยงตกขบวนค่ะ เพราะ 46% ของคนไทยใช้โซเชียลเป็นหลักในการดูรีวิว วางแผนทริป และอีก 37% ใช้แพลตฟอร์มจองอย่าง Traveloka งานนี้ถ้าแบรนด์ไหนทำคอนเทนต์สวย ๆ บอกเล่าโปรโมชั่นน่าโดน หรือมีภาพรีวิวจริงจากลูกค้า ก็จะยิ่งดึงดูดสายตาได้ดีกว่าค่ะ
5. Cash is Still King ถึงยุคดิจิทัล แต่เงินสดยังครองใจ
แม้จะมี e-Wallet บัตรเครดิต หรือ QR Code กันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่คนไทยส่วนใหญ่ (72%) ก็ยังถนัดจ่ายสด อยู่ดีค่ะ อย่างไรก็ตาม มีอีก 43% ที่หันมาใช้บัตรเครดิตกันบ้างแล้ว ทางที่ดีคือธุรกิจควรเตรียมช่องทางชำระเงินที่หลากหลาย เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้า และปิดการขาย ได้ทุกสถานการณ์
กลยุทธ์ที่นักการตลาดควรติดอาวุธให้ตัวเอง
เห็นแล้วใช่ไหมคะว่าเทรนด์การท่องเที่ยวเป็นยังไง แต่ ๆ ไม่ใช่แค่นั่งมองแล้วปล่อยผ่านนะคะ นักการตลาดอย่างเราต้องตั้งรับให้ไวและคิดกลยุทธ์ให้เด็ด ผู้เขียนเลยสรุป 5 กลยุทธ์สำคัญ ที่จะช่วยให้ธุรกิจมัดใจลูกค้าอยู่หมัดได้ในปีนี้ บอกเลยว่าแต่ละข้อเอาไปปรับใช้ได้ทันทีค่ะ
1. Green & Sustainability กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ “ต้องทำ”
สิ่งนี้ผู้เขียนมองว่าสำคัญมากค่ะ ในยุคนี้เรื่องรักษ์โลกและความยั่งยืนไม่ใช่แค่เทรนด์ชั่วคราวแล้วนะคะ แต่กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ลูกค้าจะคำนึงถึงเวลาตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการ โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวก็ยิ่งต้องใส่ใจให้มากขึ้น ซึ่งเราควรสื่อสารชัดเจนว่าตัวเองมีส่วนร่วมในการลดขยะหรือดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง เช่น การใช้พลังงานสะอาด การร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่นในการปลูกป่า หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนนโยบายใช้บรรจุภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมค่ะ
และที่สำคัญมาก ๆ คือต้องทำจริง ไม่ใช่แค่ “Greenwashing” หรือการฟอกเขียวสร้างภาพลักษณ์เฉย ๆ เพราะผู้บริโภคยุคนี้จับสังเกตเก่งมากนะคะ ถ้าแบรนด์ทำจริงแล้วเล่าเรื่องได้สนุก พาให้คนเห็นภาพขั้นตอนแบบลึกซึ้งว่าเราลงมือรักษ์โลกยังไง นอกจากลูกค้าจะยิ่งประทับใจระยะยาวแล้ว พวกเขายังรู้สึกด้วยว่าการสนับสนุนเราเท่ากับได้ช่วยโลกไปพร้อมกันค่ะ
2. Value-Driven Promotions ใช้โปรโมชันมัดใจ และเน้น “คุ้มค่า” เข้าไว้
หลายครั้งการมัดใจลูกค้าให้อยากลองบริการใหม่ ๆ ก็ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นที่โดนใจ ด้วยนะคะ การแจกดีลเด็ดหรือส่วนลดพิเศษจะช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้เร็วขึ้น และยังรู้สึกว่าได้รับความคุ้มค่าจริง ๆ ยิ่งถ้ามีหลายระดับราคาให้เลือก เพื่อให้คนงบไม่เท่ากันก็ยังเข้าถึงได้ ก็จะยิ่งดีค่ะ
ในการสื่อสารออกไปบนโซเชียล ก็อย่าลืมเล่าให้ครบว่าโปรโมชั่นนั้นดีอย่างไร เที่ยวแล้วได้อะไรบ้าง และมีเงื่อนไขอะไรเล็กน้อยไหม ควรบอกให้ชัดที่สุดเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด เท่านี้ก็จะกระตุ้นให้เกิดการแชร์ต่อแบบปากต่อปากได้ไม่ยากค่ะ
3. Local Experience เล่าเรื่อง “ประสบการณ์ท้องถิ่น” ให้เต็มอิ่ม
เรื่องนี้ผู้เขียนมองว่าน่าสนใจและไม่ควรมองข้ามค่ะ หลายครั้งเราอาจคิดว่าต้องสร้างสิ่งใหม่ ๆ ให้คนว้าวเท่านั้น แต่การดึงดูดนักท่องเที่ยวในยุคนี้ไม่จำเป็นต้องสร้างอะไรใหม่เสมอไปนะคะ บางครั้ง “เสน่ห์ท้องถิ่น” ที่มีอยู่แล้วนี่แหละคือสมบัติล้ำค่าที่ดึงดูดใจได้ไม่แพ้แลนด์มาร์กดัง ๆ เลย
เพราะนักเดินทางยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y ไม่ได้แค่มองหาที่ถ่ายรูปสวย ๆ แต่พวกเขาต้องการ “ประสบการณ์” ที่ทำให้รู้สึกว่าได้เชื่อมโยงกับชุมชนจริง ๆ อยากเรียนรู้และสัมผัสชีวิตแบบที่คนในพื้นที่ใช้ชีวิต กันค่ะ เราเลยมักจะเห็นพวกเขาออกเดินทางไปยังที่แปลกใหม่ สำรวจตลาดเช้าที่คนไม่พลุกพล่าน หรือร่วมทำกิจกรรมท้องถิ่นแบบลงมือจริง
คุณกิตติพัทธ์ ชลารักษ์ หรือ “กอล์ฟ เทยเที่ยวไทย” เคยให้คำแนะนำไว้ว่า ถ้าอยากทำให้ชุมชนเป็นที่รู้จักและน่าสนใจ ควรเริ่มจากการ “หาไฮไลต์ของชุมชนให้เจอ” เพราะหลายชุมชนอาจมีวิถีชีวิตที่คล้ายกัน เช่น การทำผ้ามัดย้อม แต่ถ้าชุมชนของเรามีเอกลักษณ์เฉพาะ เช่น ผ้ามัดย้อมจากกลีบบัวของจังหวัดอุดรธานี ซึ่งหายากและไม่เหมือนใคร ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกว่าได้สัมผัสสิ่งพิเศษที่มีแค่ที่นี่ และอยากแชร์ประสบการณ์เหล่านี้ต่อบนโซเชียลค่ะ
4. Social Media Optimization จัดการโซเชียลมีเดียให้เป๊ะปัง
ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าโซเชียลมีเดีย คือ จุดเริ่มต้นของการวางแพลนทริป ในยุคนี้ นักเดินทางส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z จะเริ่มต้นด้วยการดูรีวิวจากเพจท่องเที่ยวหรือ Influencer ที่ไว้ใจ ถ้ารูปสวย เรื่องเล่าเพลิน บรรยากาศโดนใจ ไม่ว่าจะจองตั๋วหรือที่พักก็พร้อมกดแบบไม่ลังเลเลยค่ะ
นักการตลาดจึงต้องทำคอนเทนต์ที่ครบจบในโพสต์เดียว ไม่ว่าจะเป็นภาพมุมสวย ๆ วิธีการเดินทาง ราคา และสิ่งที่ต้องรู้ก่อนเที่ยว ผู้เขียนมองว่ายิ่งเล่าเหมือนเพื่อนบอกต่อ ยิ่งเข้าถึงใจได้ง่าย และถ้าได้ Influencer ที่ตรงกับสไตล์แบรนด์มาร่วมรีวิว ยิ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดให้คนแชร์ต่อ ปังทั้งยอดไลก์และยอดจองแน่นอนค่ะ
5. Flexible Payment Options เตรียมหลายช่องทางจ่ายเงิน
แม้เราจะเข้าสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มตัวแล้ว แต่คนไทยยังคงใช้เงินสดกันเยอะมากนะคะ อย่างไรก็ตาม การเปิดกว้างให้มีทั้งบัตรเครดิต โอนผ่านแอป หรือ e-Wallet ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะยิ่งเรามีช่องทางรับชำระเงินหลากหลายเท่าไร โอกาสที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อหรือจองบริการก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
ยิ่งหากแบรนด์ไหนมีโปรผ่อน หรือสะสมแต้มได้ด้วย ก็จะเป็นการจูงใจให้คนหันมาใช้วิธีจ่ายที่สะดวกอีกทาง ทำให้ลู่ทางการปิดการขายเปิดกว้างและรองรับลูกค้าทุกแบบได้จริง ๆ ค่ะ
สรุป 5 เทรนด์การท่องเที่ยว 2025 สายรักษ์โลกมาแรง เที่ยวไทยแชร์ได้ไม่เอาท์
จะเห็นได้เลยว่า พฤติกรรมการท่องเที่ยวกำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการตัดสินใจที่หลากหลายและซับซ้อนขึ้น อย่างไรก็ตาม นี่คือโอกาสทองของนักการตลาดและผู้บริหารที่สามารถนำข้อมูลเชิงลึกมาออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ และแคมเปญโดนใจได้อย่างแท้จริงค่ะ
5 แนวโน้มที่เล่าไปข้างต้นเป็นเหมือนสัญญาณที่เตือนเราว่าต้องรีบปรับแผนแล้วนะคะ เช่น ใส่ใจเรื่องความยั่งยืนให้มากขึ้น ออกโปรเด็ดที่ตรงใจกว่าเดิม หรือเน้นสร้างคอนเทนต์โซเชียลให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ผู้เขียนเชื่อว่า ถ้าทำถูกจุดและทำอย่างจริงใจ ธุรกิจของเราจะสามารถสร้างประสบการณ์น่าประทับใจให้กับผู้บริโภค แถมยังสร้างการเติบโตในระยะยาวได้อย่างยั่งยืนแน่นอนค่ะ
อย่าลืมว่า นักการตลาดที่พร้อมปรับตัว จะมองเห็นโอกาสก่อนใคร เทรนด์การท่องเที่ยวปี 2025 ที่เพิ่งเริ่มต้น ยังมีช่องว่างอีกมากรอให้เราเข้าไปเติมเต็มนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ :0)
Source
อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่