เมื่อ MarTech จะกลายเป็นสินค้าส่งออกชิ้นใหม่ของประเทศไทย สมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาดประเทศไทย (MarTech Association) จึงประกาศเดินเกมครั้งใหญ่ เพื่อผลักดันแพลตฟอร์ม MarTech ไทย ให้ก้าวสู่เวทีโลก โดยตั้งเป้าสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ GDP ประเทศกว่า 1 แสนล้านบาท ที่ไม่ใช่แค่ฝันลอย ๆ แต่คือแผนยุทธศาสตร์ที่เริ่มขับเคลื่อนจริงจังแล้ว ในยุคที่การตลาดขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ความเร็ว และ ROI ทุกบาท MarTech ไม่ใช่แค่เครื่องมือยิงแอดอีกต่อไป แต่คือหัวใจของธุรกิจที่ขยายตัวได้ไว และวัดผลได้จริง ตั้งแต่ SME ไปจนถึงบริษัทข้ามชาติ และถ้าไทยสามารถปั้นแพลตฟอร์มของตัวเองให้ไปได้ไกล ก็อาจกลายเป็น Soft Power ทางเศรษฐกิจในแบบที่โลกยังไม่เคยเห็นมาก่อน
AI-Generated by Shutterstock (Prompt: a modern Thai MarTech startup presenting to global investors, cinematic lighting, confident young Thai entrepreneur on stage, high-tech visuals on screen, global map graphics, professional atmosphere, shallow depth of field)
เมื่อ MarTech อาจจะกลายเป็น Soft Power ใหม่
เมื่อ MarTech กลายเป็นสินค้าส่งออกชิ้นใหม่ของประเทศ GDP ประเทศอาจเพิ่ม 1 แสนล้านบาท อาจจะฟังดูเว่อร์ แต่นี่คือเป้าหมายของ สมาคม MarTech แห่งประเทศไทย ที่กำลังเดินเกมใหญ่ ดันแพลตฟอร์มไทยไปโกอินเตอร์ให้ได้
เพราะในโลกยุคดิจิทัลที่การตลาดขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และความเร็ว MarTech ไม่ใช่แค่เครื่องมือยิงแอด แต่คือหัวใจของการขยายธุรกิจทุกระดับครับ ตั้งแต่ SME ไปจนถึงบริษัทใหญ่ ๆ และถ้าหากประเทศไทยสามารถปั้น MarTech ไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลได้ ก็ไม่ต่างจากการสร้าง Soft Power ทางเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ ที่ไม่ได้ส่งออกแค่สินค้า แต่ส่งออก Ecosystem แห่งการเติบโตทางธุรกิจ ให้ทั่วโลกได้เห็นว่าไทยก็มี Tech ที่ทั้งฉลาด คล่องตัว และคุ้มค่า เหมาะกับยุคที่ทุกบาทของงบการตลาดที่ต้องตอบ ROI อย่างชัดเจนครับ
โจทย์ใหม่ของประเทศ เปลี่ยน Tech เพื่อขายของ ให้เป็นของที่ขายได้
ถ้า Software อย่าง Omise, Page365, หรือ AI Chatbot ไทย ๆ ที่ช่วย SME ไทย ให้ยิงแอดได้ตรงกลุ่ม กดซื้อได้ไววันนี้สมาคม MarTech มองว่าของพวกนี้แหละครับ คือ ทรัพยากรแห่งชาติในยุคดิจิทัล ที่เราส่งออกได้ ไม่ต่างจากทุเรียนหรือชิ้นส่วนรถยนต์ โดยสมาคม MarTech เผย 5 Strategy หลักเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสมาชิก
5 Strategy หลักเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสมาชิก
MarTech Roundtable – เวทีความร่วมมือเพื่อขยายตลาดในและต่างประเทศ
Investor Readiness Program – เตรียมความพร้อมในการระดมทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ
MarTech Expert Certification (MTEC) – การรับรองความเชี่ยวชาญด้าน MarTech
MarTech Inspirational Use Case – รายงานประจำปี รวบรวมกรณีศึกษา MarTech ที่ประสบความสำเร็จ
MarTech Integration Day – งานประจำปีแสดงผลงานสมาชิกสู่สาธารณะ
หากมองในเชิงของกลไก จะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางความน่าเชื่อถือ ให้กับอุตสาหกรรม MarTech ไทยอย่างเป็นระบบครับ เพราะการจะไปสู่ตลาดโลก ไม่ใช่แค่มีของดี แต่ต้องมี ความพร้อม MarTech Roundtable คือการรวมพลังและมุมมอง, Investor Program คือการปูทางสู่แหล่งทุน, Certification คือการตั้งมาตรฐานมืออาชีพ, Use Case คือการยืนยันผลลัพธ์, และ Integration Day คือเวทีสื่อสารคุณค่า นี่ไม่ใช่เพียงการผลักดันแพลตฟอร์มไทยเพียงอย่างเดียว แต่คือการสร้างความเชื่อมั่นทั้งในและนอกประเทศ ให้พร้อมส่งออกในฐานะเทคโนโลยีที่น่าไว้วางใจระดับโลกครับ
โดยตลาดเป้าหมายหลักเบื้องต้น คือ จีน สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ เพราะเป็นตลาดที่ไว ต้องการ Tech ที่ยืดหยุ่น และคุ้มทุนแบบไทยครับ
ในยุคที่หลายประเทศเริ่มตัดไขมัน ด้านงบการตลาด และหันมาโฟกัสที่ผลลัพธ์จริงมากกว่า MarTech ไทยจึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะส่วนใหญ่พัฒนาโดย Startup ที่ผ่านสนามจริง เจอโจทย์จริง และแก้ปัญหาแบบ Resource จำกัดมาโดยตลอด
ทำให้แพลตฟอร์มไทยส่วนใหญ่มีความ Lean ในแง่ของระบบ แต่ไม่ Lean ความสามารถ คือ ฟีเจอร์ครบ ตอบโจทย์เร็ว ราคาเข้าถึงได้ และยังปรับตามวัฒนธรรมหรือรูปแบบธุรกิจในประเทศต่าง ๆ ได้ดี ต่างจากหลายเจ้าในโลกที่อาจเน้นระบบใหญ่แต่เทอะทะครับ จึงทำให้ MarTech ไทยจึงเหมาะกับตลาดเกิดใหม่ ที่ต้องการของที่เร็ว คล่อง และวัดผลได้จริงครับ
สรุป พามาดู 5 Strategy ผลักดัน MarTech ไทย สู่เวทีโลก จากสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาดประเทศไทย
การผลักดัน MarTech ไทยสู่เวทีโลกในวันนี้ จึงไม่ใช่แค่การพาแพลตฟอร์มไทยไปโกอินเตอร์ แต่คือการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศได้จริงในอนาคต ด้วยจุดแข็งที่ Lean, ปรับตัวไว และเข้าใจโจทย์ของโลกธุรกิจยุคใหม่ MarTech ไทยกำลังเปลี่ยนบทบาทจากผู้ช่วยแบรนด์ ให้กลายเป็นสินค้าส่งออกที่ทรงพลัง หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างจริงจัง บทต่อไปของ Soft Power ไทยอาจไม่ได้มาในรูปของศิลปะหรืออาหารเพียงอย่างเดียว แต่อาจมาในรูปของเทคโนโลยีที่ทำให้ขายของเก่งขึ้นก็เป็นได้
บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ