ลองมาดูตัวอย่าง CSR จาก 3 Global Brand กันว่ามีอะไรที่แบรนด์ต้องเก็บรายละเอียดบ้าง
บทความวันนี้นุ่นมาในหัวข้อที่ทุกคนคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เกี่ยวกับการทำ corporate social responsibility นั้นการตลาดวันละตอนก็เคยแชร์ให้นักการตลาดและแบรนด์ไปหลายเคสวันนี้นุ่นเลยจะไม่เกริ่นเยอะ เพียงแต่จะมาทบทวนสิ่งที่แบรนด์ต้องคำนึงให้รอบคอบค่ะ เป็นการรีเช็คกับแคมเปญที่ผ่านมาและที่กำลังจะเกิดไปในตัวเลย
จริงๆ การทำ CSR มีหลายแบบตั้งแต่ ด้านการพัฒนาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม การกุศล งานภายในองค์กร งานอาสาสมัคร ความสำคัญของการแสดงความรับผิดต่อสังคมอาจแตกต่างกันไปแล้วแต่จุดประสงค์ของบริษัทนั้นๆ ทั้งนี้มีรายงานด้านการศึกษาออกมาด้วยว่า มีลูกค้า 90% ที่อยากจ่ายให้แบรนด์ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมค่ะ และมีโอกาสสูงมากที่แบรนด์จะทำให้ลูกค้าหลุดมือไปจากความเพิกเฉยต่อสังคม หรือขาดความรับผิดชอบ
CSR มีความสำคัญขนาดนั้นเลยหรอ?
ในโลกที่ภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ แล้วล่ะก็สำคัญแน่นอนค่ะ เราจะเห็นแคมเปญจากแบรนด์ใหญ่ๆ คลอดออกมาทุกไตรมาสทั้งเล็กและใหญ่ เหมือนเป็นปัจจัยที่เสริมรากฐานองค์กรให้มั่นคงระดับนึงเลยก็ว่าได้
- เสริมสร้างให้แบรนด์มีความแข็งแรง: หลายแบรนด์ใช้เป็นตัวช่วยที่จะดันตัวเองให้มีความแกร่งในอุตสาหกรรม สร้างค่านิยมให้แข็งแกร่งทั้งภายนอกและภายใน
- ดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพ: บุคลากรที่เป็นกลไกสำคัญของการเติบโตองค์กร เพื่อดึงดูดคนเก่งๆ โปรไฟล์ล้ำๆ มาทำงานด้วยบางทีแบรนด์ก็ต้องมีภาพลักษณ์ที่สามารถมอบความมั่นคงให้แก่พนักงานได้ เพราะชีวิตการทำงานสำคัญสำหรับหลายคนคือการฝากชีวิตช่วงหนึ่งไว้กับองค์กรเลยก็ว่าได้ค่ะ
- ลดช่องหว่างระหว่างลูกค้ากับแบรนด์: น้อยมากๆ เลยค่ะที่แบรนด์จะไม่เอาอกเอาใจลูกค้า พยายามใกล้ชิดลูกค้าแล้วประสบความสำเร็จได้โดยง่าย
- ทำให้แบรนด์ดูแตกต่าง จากเจ้าอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน: เราไม่มีทางเป็นเจ้าแรก หรือเจ้าเดียวในตลาดได้ตลอดไปแน่นอนค่ะ เพราะฉนั้นลองทำให้แบรนด์มีอะไรที่แตกต่างจากคนอื่น คนอาจจะพูดถึงเราว่าเป้นกระเป๋าผ้าที่ช่วยสร้างคาเฟ่แมวจรก็ได้
ตัวอย่างจาก 3 Global Brand ที่แบรนด์ควรเก็บรายละเอียดไว้
สำหรับแบรนด์ที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี จะนำไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดและกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ในรูปแบบไหนได้บ้าง ลองเริ่มจากศึกษาจากคู่แข่งใน industry เดียวกันก่อน เพื่อเก็บข้อดีและข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และมาปรับให้เข้ากับแบรนด์ของเราโดยอย่าทิ้งตัวตนแบรนด์ไปเด็ดขาดนะคะ
วันนี้นุ่นนำเคสซีเอสอาร์มาฝากถึง 3 แบรนด์เพื่อแชร์เป็นไอเดียให้นักการตลาดและแบรนด์กันค่ะ
Nestlé
บริษัทที่มีชื่อเสียงด้านเครื่องดื่มและอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างเนสท์เล่ คงไม่มีใครไม่รู้จักเพราะเป้นแบรนด์ที่นอกจากจะคุ้นหูคุ้นตาแล้วยังมีภาพลักษณ์ที่ดี ตรงกับสโลแกน Good Food, Good Life อีกด้วยค่ะ โดยเนสท์เล่เนี่ยจะมุ่งเน้นไปด้านการพัฒนาสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีค่ะ ซึ่งเนสท์เล่จริงจังมากทำให้มีถึง 42 โครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่น่าสนใจมากคือเนสท์เล่พยายามไม่ให้มีสีเทียมในผลิตภัณฑ์อาหารของตัวเองเลย และยังมีการลดระดับน้ำตาลและโซเดียม รวมทั้งไขมันอื่มตัวทั้งหลายลง เพื่อขายแต่สินค้าที่มีคุณค่าทางโภชนาการให้แก่สังคม เท่านี้ก็ถือเป็นการรับผิดต่อสังคมที่ได้ซื้อใจลูกค้าหลายๆ คนทั่วโลกไปเป็นที่เรียบร้อยค่ะ
Shell
เชลล์คือหนึ่งในแบรด์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงและน้ำมันมาอย่างยาวนาน และแน่นอนว่าในอุตสาหกรรมนี้แบรนด์ต่างมีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกับสิ่งแวดล้อมมากนัก รวมถึงมีบ่อยครั้งที่มี crisis เกิดขึ้น เชลล์จึงพยายามที่จะทำซีเอสอาร์ที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม พลังงานจำเป็นแก่สังคม โดยต้องให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เชลล์ประเทศไทยมุ่งเน้นไปที่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับชุมชน มีหลายโครงการที่ทำขึ้นเพื่อสร้างความใกล้ชิดกับชุมชน พยายามบริหารจัดการผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินงานทางธุรกิจอีกด้วยค่ะ
Apple
Apple เป็นหนึ่งในบริษัทที่จำหน่ายสินค้าเทคโลโนยีที่ได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักทั่วโลก ดังนั้นนุ่นคิดว่านักการตลาดหรือเจ้าของธุรกิจหลายคนคงอยากรู้ว่าแอปเปิ้ลมีแนวคิดเรื่องนี้อย่างไรบ้าง คำตอบคือแอปเปิ้ลให้ความสำคัญกับแผนความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างจริงจังสุดๆค่ะ
ความมุ่งเน้นจะเป็น “asking less of the planet” เพราะธุรกิจเทคโนโลยีมีการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนอยู่ไม่น้อยเลย ทั้งยังสร้างขยะพลาสติกและอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากด้วยค่ะ
แต่ปัจจุบันบรรจุภัณฑ์ของ Apple ทำจากผลิตภัณฑ์กระดาษรีไซเคิล 99% แล้วค่ะ และเราคงเห็นความพยายามที่จะลดขยะลดรอบการขนส่งผ่านดีไซน์ ไม่แถมหัวชาร์จมาให้ของแอปเปิ้ลในสินค้า iPhone รุ่นล่าสุดกันแล้ว นุ่นคิดว่าหลังจากนี้คงมีอีกหลายวิธีที่แอปเปิ้ลจะทำเพื่อให้แบรนด์ผลิตสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดแน่นอน
จากใจลูกค้าแอปเปิ้ลก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าต่อไปอาจจะไม่ใส่กล่องมาให้แล้วหรือเปล่านะ 555555
สรุป Case Study – CSR จาก 3 Global Brand เก็บรายละเอียดสิ่งที่แบรนด์ต้องรู้
คิดว่าหลังจากอ่านบทความนี้จบนักการตลาดและเจ้าของแบรนด์คงได้ไอเดียไปต่อยอดรวมทั้งได้ทบกวนถึงแผน corporate social responsibility ที่ผ่านไปและกำลังจะเกิดอยู่ จุดสำคัญอย่าทิ้งตัวตนและตั้งจุดประสงค์ของแบรนด์ให้ดีค่ะ ยิ่งถ้านำไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดแล้วล่ะก็ควรมีความจริงใจต่อผู้โภคของเรา เพราะเดี๋ยวนี้ลูกค้าฉลาดมาก ทำดีก็ปัง ทำพังก็ล้มได้เลย
และหวังว่าปีนี้เราจะได้เห็นหลายแบรนด์คลอดแคมเปญดีดีออกมาสู่สังคมกันเยอะๆ นะคะ ถ้ามีแคมเปญไหนเด็ดๆ นุ่นไม่พลาดที่จะหยิบมาแชร์ให้ฟังอีกแน่นอนเลย จนถึงตอนนี้ถ้าใครยังไม่ได้ติดตามการตลาดวันละตอนผ่านแพลตฟอร์มใหม่ สามารถกดที่ลิ้งด้านล่างเพื่อให้ไม่พลาดบทความดีดีทุกวันได้เลยนะคะ
Twitter : @EverydayMKT https://twitter.com/EverydayMKT Blockdit : การตลาดวันละตอน http://bit.ly/EveryDayMarketingBlockdit
source : https://fabrikbrands.com