Privacy Economy เศรษฐกิจยุคใหม่ที่จะโตได้ด้วยการเคารพความเป็นส่วนตัว แต่ไหนแต่ไรมา ตั้งแต่เราก้าวเข้าสู่ชีวิตยุคดิจิทัล ยุคที่อะไรๆ ก็ออนไลน์ ยุคที่เราต่างพกโทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนออกจากบ้านไปทุกที่แบบขาดไม่ได้ ทำให้เกิด Data มากมาย จนนำไปสู่การเกิด Data Business ใหม่ๆ ที่ฉวยโอกาสเอา Personal Data ของเราไปใช้แบบฟรีๆ โดยที่เราไม่รู้ตัว
หรือต่อให้เรารู้ตัวก็ไม่สามารถปฏิเสธความยินยอมได้ เราจึงต้องจำใจจำยอมให้เขาเก็บ Data ไปเสียอย่างนั้น และนั่นก็ก่อให้เกิดคำศัพท์ใหม่ที่ชื่อว่า Surveillance Economy หรือเศรษฐกิจจากการแอบส่อง ที่บรรดาบริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ คอยสอดส่องติดตามเราผ่าน Personal Data หรือ Digital Footprint อยู่ทุกเมื่อเชื่อว่า แต่ทั้งหมดนี้เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เราก้าวเข้าสู่ยุค Privacy Era จากกฏหมาย GRPD ในยุโรป หรือ PDPA ในหลายๆ ประเทศแม้แต่ไทยเราเองก็ประกาศใช้อย่างเป็นทางการครับ
หรือแม้แต่การบริหารจัดการดูแล Sensitive Personal Data ของพวกเราประชาชนจากหน่วยงานภาครัฐก็ย่ำแย่เหลือเกิน หลุดไปเป็นสิบๆ ล้านรายบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่มีอะไรสำคัญ ข้อมูลทางการแพทย์ ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลการแพ้อาหาร พวกนี้ถ้าถูกผู้ไม่หวังดีนำไปใช้ ทำเอาเราถึงตายได้ง่ายๆ เลยนะครับ
และนั่นจึงส่งผลให้ประชาชนทั่วโลกต่างออกมาเรียกร้องให้นักการเมือง หน่วยงานภาครัฐออกกดหมายมากำกับดูแล จึงออกมาเป็น GDPR, PDPA, CCPA ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็มีใจความสำคัญอยู่ที่ว่า เลิกแอบตามเก็บ Personal Data เราเป็นปลิงได้แล้ว ถ้าอยากได้ข้อมูลก็ต้องขอ และเจ้าของข้อมูลก็ต้องมีสิทธิในการควบคุมข้อมูลของตัวเองอย่างเต็มที่ด้วย!
Personal Information Protection Law จีนก็เอาจริงเรื่อง Privacy
หลายคนอาจคิดว่าประเทศจีนคงจะเสรีเรื่องนี้เต็มที่แน่ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่อย่างที่คิดครับ เพราะที่ประเทศจีนก็มีการออกกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่คล้ายๆ กับ GDPR หรือ PDPA ในชื่อว่า PIPL ซึ่งย่อมาจาก Personal Information Protection Law