ถ้าพูดถึงรางวัล Thailand Social Awards ที่จัดโดย Wisesight (Thailand) หลายคนในวงการการตลาดคงรู้กันดีค่ะว่าถือเป็น “งานประกาศรางวัลโซเชียล” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งในปี 2024 ที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นแบรนด์เจ้าใหญ่มากมายแข่งขันกันด้านคอนเทนต์และกลยุทธ์โซเชียลกันอย่างดุเดือด แต่ท่ามกลางการแข่งขันอันเข้มข้น “เซ็นทรัลเวิลด์” ก็ยังสามารถครองตำแหน่ง Best Brand Performance on Social Media สาขา Shopping Center & Department Store ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ! แถม “เซ็นทรัลพัฒนา” เองก็ยังติด TOP 5 แบรนด์ทรงอิทธิพลบนโซเชียลอีกด้วย เรียกได้ว่าปังและตอกย้ำความแข็งแกร่งในแวดวงดิจิทัลแบบสุด ๆ ค่ะ วันนี้ เราจะชวนทุกคนมาเจาะลึก 4 กลยุทธ์การตลาดเซ็นทรัลพัฒนา ว่าพวกเขาวางกลยุทธ์การตลาดบนโซเชียลมีเดียอย่างไร จึงสามารถกวาดรางวัลใหญ่และครองใจผู้บริโภคได้ต่อเนื่องแบบนี้
เสียงสะท้อนจากผู้นำ ความภาคภูมิใจที่เกิดจากทีมเวิร์กและกลยุทธ์เฉียบคม
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า
“นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ ‘เซ็นทรัลเวิลด์’ สามารถคว้ารางวัล Best Brand Performance on Social Media ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เช่นเดียวกับ ‘เซ็นทรัลพัฒนา’ ที่ติด TOP 5 แบรนด์ทรงอิทธิพลบนโซเชียลมีเดียเป็นปีที่ 2 โดยความสำเร็จทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดความทุ่มเท มุ่งมั่น และความพยายามของทีมงาน…”
“ขอขอบคุณลูกค้าทุกคนที่ทำให้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญ ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการกว่า 600 ล้านคนต่อปี และนักท่องเที่ยวอีก 68 ล้านคน ซึ่งช่วยให้เราสร้างยอดรับชมกว่า 600 ล้านวิว และ Engagements กว่า 30 ล้านครั้ง นี่คือมาตรฐานระดับโลกที่เราภาคภูมิใจ และภูมิใจที่ธุรกิจศูนย์การค้าไทยก้าวสู่ระดับโลก ซึ่งทุกท่านคือส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้”
คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นเลยค่ะว่า “คน” และ “ความร่วมมือ” ในองค์กรคือหัวใจสำคัญของทุกความสำเร็จ เพราะต้องใช้ทั้งไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ และการติดตามผลแบบเรียลไทม์อย่างไม่ลดละ จนเกิดเป็นผลงานคอนเทนต์ที่ทั้งสร้างสรรค์และตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด
แล้วกลยุทธ์หลักของเซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลพัฒนามีอะไรบ้าง ลองมาดูกันค่ะ
4 กลยุทธ์การตลาดเซ็นทรัลพัฒนา ที่ทำให้ “เซ็นทรัลเวิลด์” & “เซ็นทรัลพัฒนา” ผงาดบนโซเชียล
1. Real-time Content Strategy เกาะกระแสไว คิดสร้างสรรค์ให้โดน
หนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้เซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลพัฒนายืนหนึ่งบนโซเชียลมีเดียคือ “การทำคอนเทนต์แบบเรียลไทม์” ค่ะ ซึ่งไม่ใช่แค่ “เร็ว” แต่ต้อง “ใช่” ด้วย
ทีมการตลาดของพวกเขาวิเคราะห์ Media Landscape อย่างแม่นยำ เข้าใจว่าแต่ละแพลตฟอร์มมีธรรมชาติอย่างไร และใช้ Customer Insights & Behaviors มาประกอบการตัดสินใจ ว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างไร คอนเทนต์ไหนควรโพสต์บนช่องทางไหน เวลาใด เพื่อให้ได้ Engagement สูงสุด
ดร.ณัฐกิตติ์ บอกว่า ทีมของพวกเขาใช้ MarTech หรือ Marketing Technology มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ ดังนั้นทันทีที่มีเทรนด์ใหม่เกิดขึ้น พวกเขาสามารถสร้างคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องได้ทันที ตรงใจลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นอีกด้วย
2. Data-Driven Marketing ใช้ข้อมูลให้เป็น “ขุมทรัพย์มหาศาล”
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญก็คือการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Marketing ) นั่นเองค่ะ อย่างที่รู้กันว่า เซ็นทรัลพัฒนา เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เบอร์หนึ่งของไทย นั่นแปลว่าพวกเขา “อ่านขาด” เรื่องโลเคชันและพฤติกรรมผู้บริโภคในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นอย่างดี
โดยอาศัย MarTech ช่วยเก็บข้อมูลผู้บริโภค เช่น ข้อมูลด้านพฤติกรรม และความสนใจ เพื่อประเมินว่าควรโพสต์หรือปล่อยคอนเทนต์แบบไหน จึงจะได้ Engagement สูงสุด รวมถึง ทำ Personalized Content ได้อย่างเฉียบคม เมื่อรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายสนใจเรื่องอะไร ชอบดูคอนเทนต์รูปแบบไหน ก็ทำให้แบรนด์นำเสนอได้อย่างเหมาะเจาะ
การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกแบบนี้ ทำให้เซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลพัฒนาวางแคมเปญการตลาดได้ตรงจุด และปรับเปลี่ยนได้ทันที เมื่อเห็นเทรนด์ใหม่ ๆ มาแรงค่ะ
3. O2O Seamless Experience จากหน้าจอสู่หน้างานจริงแบบ “ไร้รอยต่อ”
ข้อสามนี้คือ “ไม้ตาย” ที่ทำให้เซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลพัฒนาคว้ารางวัลได้แบบไร้คู่แข่ง ด้วยการสร้างประสบการณ์ “Online-to-Offline” (O2O) ที่ไร้รอยต่อค่ะ ซึ่ง O2O หมายถึงการเชื่อมโลกโซเชียลเข้ากับโลกออฟไลน์ได้แนบสนิท ไม่ใช่แค่โพสต์คอนเทนต์สวย ๆ เรียกยอดไลก์ แต่ต้องเชิญชวนให้คนมา “เช็กอิน” หน้างานจริง
ไม่ว่าจะเป็นงาน centralwOrld Rhythm of Pride 2024, centralwOrld Bangkok Countdown 2025, centralwOrld Songkran Fest 2024, centralwOrld The Great Chinese New Year 2024 หรือ centralwOrld Merryville ที่จัดขึ้นในหลากหลายสไตล์ ทุกอีเวนท์ล้วนสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เมื่อผู้คนได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศจริงในศูนย์การค้า ก็ยิ่งเกิดความประทับใจ รู้สึกผูกพันกับแบรนด์ และสุดท้ายก็กลายเป็นลูกค้าประจำที่กลับมาใช้บริการซ้ำค่ะ
อีกสิ่งที่ทำให้คอนเทนต์ของ เซ็นทรัลเวิลด์ และ เซ็นทรัลพัฒนา โดดเด่น คือการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็น Food, Fashion, Sport, ไปจนถึง Music & Art ทุกกลุ่มสามารถพบคอนเทนต์ อีเวนต์ หรือโปรโมชันที่ตรงกับความสนใจของตัวเองได้ตลอดค่ะ
ที่สำคัญคือ แพลตฟอร์มโซเชียลของ เซ็นทรัลพัฒนา ไม่ได้เป็นแค่ช่องทางประชาสัมพันธ์ขององค์กร แต่เป็น ตัวแทนของศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ที่นำเสนอคอนเทนต์ให้เข้าถึงง่าย มีความหลากหลาย และเน้นสร้าง Engagement กับผู้บริโภค ทั้งคอนเทนต์แบบ Real-time, Creative Content รวมถึงแคมเปญอีเวนต์และโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย เมื่อลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ ก็จะเกิด Brand Love และพัฒนาเป็น Brand Loyalty ที่ทำให้พวกเขากลับมาใช้บริการซ้ำค่ะ
Brand Love & Brand Loyalty เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
เมื่อรวม 4 กลยุทธ์ ข้างต้นเข้าด้วยกัน ก็ไม่แปลกที่ เซ็นทรัลเวิลด์ จะคว้ารางวัล Best Brand Performance on Social Media ติดต่อกันถึง 4 ปีซ้อน และ เซ็นทรัลพัฒนา ยังติด TOP 5 แบรนด์ทรงอิทธิพลปีที่ 2 ได้สำเร็จค่ะ
“…คอนเทนต์บนโซเชียลของเซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลพัฒนาในทุกแพลตฟอร์มไม่ได้สร้างแค่การรับรู้ แต่ยังกระตุ้นให้เกิดทราฟฟิก ของศูนย์การค้าฯ สร้าง Brand Love และทำให้ลูกค้าเกิด Brand Loyalty อย่างแท้จริง…” — ดร.ณัฐกิตติ์
พวกเขาไม่ได้สร้างแค่ยอดไลก์หรือยอดแชร์ แต่เชื่อมโยงประสบการณ์ออฟไลน์ให้ตรงปก ตามที่สื่อสารบนโซเชียล จนสามารถเปลี่ยนเป็น Traffic ที่เข้ามาในศูนย์การค้า และต่อยอดสู่การสร้าง Brand Love จนกลายเป็น Brand Loyalty ในที่สุด เพราะเมื่อผู้บริโภครู้สึกว่าออนไลน์กับออฟไลน์สอดคล้องกันจริง ๆ ก็ยิ่งมั่นใจและเชื่อมั่นในแบรนด์ไปยาว ๆ เลยค่ะ
และนี่ก็คือ “สูตรลับ” ที่ทำให้ เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลพัฒนาก้าวมาเป็น ผู้นำด้านโซเชียลมีเดีย ได้อย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง ถึงขนาดคว้ารางวัลระดับประเทศและได้รับการยอมรับในแวดวงดิจิทัลอย่างกว้างขวางค่ะ
5 Key Takeaways สู่ความสำเร็จบนโซเชียลมีเดีย
ก่อนจะจบบทความนี้ ขอฝาก “Key Takeaways” ที่โอปอสรุปกลยุทธ์และแง่คิดสำคัญ ๆ ของเซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลพัฒนาไว้นะคะ หากคุณอยากสร้างปรากฏการณ์บนโซเชียลเหมือนแบรนด์ยักษ์ใหญ่เช่นนี้ ลองหยิบไปปรับใช้กับงานหรือองค์กรของคุณได้เลยค่ะ
Teamwork is Everything สำคัญสุดคือทีมที่แข็งแกร่ง ใส่ไอเดียสร้างสรรค์และตามผลต่อเนื่อง
Data Over Assumption อย่าใช้แค่ความรู้สึก ใช้ข้อมูลจริงมาวิเคราะห์ ก่อนปล่อยทุกคอนเทนต์
Seamless O2O เชื่อมโยงออนไลน์สู่ออฟไลน์ให้ไร้รอยต่อ ประสบการณ์ต้อง “ตรงปก”
Multi-Lifestyle Community ผู้บริโภคไม่ใช่แค่กลุ่มเดียว ควรแบ่งคอนเทนต์หรืออีเวนท์ตามความสนใจ ยิ่งหลากหลาย ยิ่งขยายฐานลูกค้าได้กว้าง
Measure, Optimize, Repeat วัดผล ปรับแผนอย่างต่อเนื่อง อย่าโพสต์แล้วลืม ควรติดตามผลลัพธ์และดูแนวโน้มใหม่ ๆ เสมอ
สรุป เปิดสูตรแห่งความสำเร็จ! “เซ็นทรัลเวิลด์” แชมป์ 4 ปีซ้อน สุดยอดแบรนด์บนโซเชียลมีเดีย พร้อมกลยุทธ์เด็ดจากเซ็นทรัลพัฒนา
สุดท้ายแล้ว ความสำเร็จของเซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัลพัฒนา ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะแค่ทำโซเชียลมีเดียให้ดัง แต่พวกเขาทำให้โซเชียล “ทรงพลัง” มากพอที่จะเชื่อมโยงกับประสบการณ์จริงของลูกค้า ทั้งการใช้ Real-time Content ที่แม่นยำ ขับเคลื่อนด้วย Data-Driven Marketing เชื่อมโลกออนไลน์กับออฟไลน์แบบ Seamless O2O และสร้าง Multi-Lifestyle Community ที่ตอบโจทย์ลูกค้าหลากหลายกลุ่ม
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า “แค่มีโซเชียลดีไม่พอ ต้องทำให้โซเชียลสร้าง Brand Love และ Brand Loyalty ได้จริง” ด้วย เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ทำให้ลูกค้ากลับมาไม่ใช่แค่ยอดไลก์ ยอดแชร์ หรือโฆษณาที่เข้าถึงคนเป็นล้าน แต่เป็น “ความรู้สึกที่แบรนด์สร้างให้พวกเขา” ซึ่งเกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่สอดคล้องกันทั้งออนไลน์และออฟไลน์ค่ะ
ไม่ว่าคุณจะเป็นแบรนด์ขนาดไหน หากอยากเติบโตบนโซเชียล สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การทำคอนเทนต์ให้ไว แต่ต้องทำให้โซเชียลเป็นเครื่องมือที่ขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้จริง เพราะคนอาจจะกดไลก์หลายแบรนด์ แต่จะเลือกใช้ชีวิตกับแบรนด์ที่ทำให้พวกเขารู้สึก “อิน” และอยากกลับมาอีกครั้งเท่านั้น แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :0)
อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่