การตลาด LINE VOOM เล่า 4 Moment จาก Insight จริงที่ทำให้ LINE VOOM ต่างจากทุกแพลตฟอร์ม

เพราะในบางครั้งการพิมพ์แชทอาจยังไม่พอ พามาดู การตลาด LINE VOOM ประเทศไทย ที่ปล่อยแคมเปญ #แชร์ได้ทุกความรู้สึกบันทึกทุกความทรงจำ ผ่านวิดีโอ 4 เรื่องจริงของผู้ใช้งาน LINE VOOM ที่เปลี่ยนเรื่องธรรมดาให้กลายเป็นโมเมนต์ที่มีความหมาย และนี่คือ 4 Moment จาก Insight ที่อยู่เบื้องหลังคอนเทนต์ครับ มาดูกันดีกว่าครับว่ามีอะไรบ้าง

ก่อนอื่นขอเล่าก่อนครับว่า LINE VOOM คืออะไร LINE VOOM คือฟีเจอร์วิดีโอสั้นในแอป LINE ที่ให้ผู้ใช้แชร์เรื่องราวในชีวิตประจำวันผ่านคลิป ภาพ หรือข้อความ เหมาะกับทุกวัย โดยเฉพาะคนที่ต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการแบ่งปันสิ่งเล็ก ๆ ที่มีความหมายในชีวิตครับ

ทีนี้มาดู 4 Moment จาก Insight ที่อยู่เบื้องหลังคอนเทนต์ ผ่าน #แชร์ได้ทุกความรู้สึกบันทึกทุกความทรงจำ แคมเปญของ LINE VOOM กันดีกว่าครับ

ดูได้ที่  https://linevoom.line.me/post/1174848040407451925

บางครั้งแค่เห็น ก็ช่วยเติมเต็มใจได้มากกว่าการพิมพ์หรือโทรหา Moment นี้มาจากผู้ใช้งานคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ไกลบ้านครับ และเปิด LINE VOOM แล้วเจอคลิปสั้น ๆ ของลูกสาวที่โพสต์ไว้ เป็นคลิปเต้นสนุก ๆ ที่ไม่มีเอฟเฟกต์หวือหวา ไม่ได้ตั้งใจให้ไวรัล แต่กลับทำให้คนเป็นพ่อยิ้มออกมาได้ทันทีครับ แม้ตัวจะอยู่ไกล แต่การได้เห็นช่วงเวลาน่ารักของลูกในแต่ละวัน ก็เหมือนได้อยู่ใกล้กันมากขึ้น

ดูได้ที่ https://linevoom.line.me/post/1174839400103934384

การตลาด LINE VOOM

ผู้ใช้คนหนึ่ง เลือกใช้ LINE VOOM เป็นเหมือนที่ระบายในวันที่ใจมันหนัก ในวันที่เหนื่อย เค้าจะโพสต์รูปที่มีคำพูดปลอบใจ ไม่ได้จัดฉาก ไม่ได้แต่งเยอะ  เป็นข้อความเรียบง่ายที่เขาอยากบอกตัวเอง…และเผื่อไว้ให้ใครบางคนที่อาจรู้สึกเหมือนกันครับ

เค้าไม่ได้สนใจว่าจะมีใครมากดไลก์  ไม่ได้หวังให้คลิปต้องดัง  เค้าแค่หวังว่า ถ้ามีใครสักคนผ่านมาเห็นแล้วรู้สึกว่า คงมีคนที่รู้สึกเหมือนกัน ยังมีคนเข้าใจเรา แค่นั้นก็มากพอแล้วครับ

ดูได้ที่ https://linevoom.line.me/post/1174839400103934384

Moment นี้มาจากผู้ใช้งานคนหนึ่งเล่าว่า คุณยายของเธอจะรอดูคลิปหลานที่โพสต์ไว้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นคลิปเต้น เล่น หรือแค่ยิ้มใส่กล้อง มันอาจดูธรรมดาสำหรับคนอื่น แต่สำหรับคนเป็นยา แค่ได้เห็นก็เหมือนโลกทั้งใบสดใสขึ้นมาอีกครั้งแล้วครับ บ้านที่เคยเงียบ กลับมามีเสียงหัวเราะอีกครั้ง และนั่นคือพลังของคลิปสั้น ๆ ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกครับ

ในวันที่ระยะทางทำให้คนรุ่นปู่ย่าตายายเริ่มห่างจากหลาน ๆ มากขึ้น LINE VOOM กลายเป็นช่องทางเล็ก ๆ ที่ช่วยเชื่อมใจคนในครอบครัวเข้าหากันอีกครั้งครับ

ดูได้ที่ https://linevoom.line.me/post/1174822120196881306

การตลาด LINE VOOM

คุณปู่ที่อยู่ไกลบ้าน ใช้ LINE VOOM เป็นเหมือนไดอารี่เล็ก ๆ โพสต์วิดีโอในแต่ละวัน อาจเป็นแค่ภาพกำลังรดน้ำต้นไม้ ทำบุญ หรือยิ้มทักทายกับกล้อง  ไม่หวือหวา ไม่ไวรัล แค่เล่าเรื่องธรรมดาของวันธรรมดา แต่สำหรับหลานสาวที่อยู่ไกล คลิปเหล่านี้กลับมีความหมาย เพราะทุกครั้งที่เปิดดู มันช่วยคลายความคิดถึง และบอกได้ทันทีว่า “วันนี้ปู่ยังสบายดีนะ” ที่แค่ได้เห็น ก็รู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเล็ก ๆ ผ่านหน้าจออีกครั้งครับ

แม้ LINE VOOM และ TikTok จะเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นเหมือนกัน แต่ทั้งสองมีทิศทางการใช้งานและจุดยืนที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ โดย LINE VOOM เป็นฟีเจอร์ภายในแอป LINE ที่มุ่งเน้นการเป็น “พื้นที่อุ่นใจ” สำหรับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานหรือครอบครัวที่ต้องการแชร์โมเมนต์ในชีวิตประจำวันให้คนใกล้ชิดได้เห็นและรับรู้ ไม่เน้นความไวรัลหรือยอดไลก์ แต่ให้ความสำคัญกับ “ความรู้สึก” และ “ความสัมพันธ์” มากกว่าครับ 

ตรงข้ามกับ TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่เกิดมาเพื่อความบันเทิง ความไว และไวรัล โดยมีระบบ For You Page ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานจากทั่วโลกสามารถเป็นไวรัลได้ทุกคน ด้วยอัลกอริธึมที่เน้น Engagement และความแปลกใหม่ของคอนเทนต์ TikTok จึงครองใจกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่มองหาแรงบันดาลใจ ความสนุก หรือเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ในขณะที่ LINE VOOM สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้ใช้แชร์คลิปสั้นอย่างเรียบง่าย เป็นส่วนตัว และจริงใจ กับคนที่สำคัญในชีวิต

บน LINE VOOM คอนเทนต์ที่สัมผัสใจผู้คนมากที่สุด ไม่ใช่คอนเทนต์ที่โชว์ความเก่งหรือเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แต่คือเรื่องเล่าที่เชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ ที่มีความหมาย เช่น เบื้องหลังการเปิดร้านในวันแรก ข้อความจากลูกค้าประจำ หรือโมเมนต์ที่พนักงานช่วยกันฝ่าช่วงเวลายาก ๆ ของธุรกิจ 

แบรนด์ที่อยากลงบน LINE VOOM ควรมองหาเรื่องราวเล็ก ๆ ที่ใกล้ตัว แต่จริงใจ เพราะผู้ใช้งานที่นี่ไม่ได้มองหาความบันเทิงแบบไวรัล แต่มองหาความรู้สึกที่ “เหมือนเราก็เคยเป็นแบบนั้นเหมือนกัน”

ต่างจากแพลตฟอร์มที่เน้นยอดวิว LINE VOOM เหมาะกับแบรนด์ที่อยากสื่อสารแบบเจาะจง สร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเล็ก ๆ ที่สำคัญ เช่น ลูกค้าประจำ เพื่อนร่วมทีม หรือครอบครัวของลูกค้า เพราะที่นี่ไม่ได้วัดความสำเร็จด้วยยอดไลก์ แต่ด้วยน้ำหนักของความรู้สึก ที่คอนเทนต์ส่งไปถึง 

เช่น ร้านเบเกอรี่ที่โพสต์ขอบคุณลูกค้าคนหนึ่งในวันครบรอบ หรือเจ้าของร้านที่เล่าเรื่องครั้งแรกที่เปิดร้านแล้วแม่มาให้กำลังใจ นี่คือพื้นที่ของคอนเทนต์ที่ไม่ต้องดัง แต่ต้องตรงใจคนที่เราอยากให้เขาเห็น

LINE VOOM ไม่ได้เกิดมาเพื่อไล่ตามกลุ่มวัยรุ่นหรือสายไวรัลเหมือนแพลตฟอร์มอื่น แต่มีฐานผู้ใช้งานที่ชัดเจน คือกลุ่มคนวัยทำงาน พ่อแม่ หรือครอบครัว ที่ต้องการพื้นที่ปลอดภัยในการแชร์เรื่องราวเล็ก ๆ กับคนที่รัก ไม่ใช่กับคนทั้งโลก 

คนกลุ่มนี้ไม่ได้ต้องการคอนเทนต์เร็วหรือแรง แต่ต้องการความจริงใจและ เชื่อมโยงกับชีวิต เช่น พ่อแม่ที่รอดูคลิปลูกทุกวัน, ลูกค้าที่อยากรู้ว่าวันนี้ร้านโปรดของเขาเป็นอย่างไร หรือเจ้าของแบรนด์เล็ก ๆ ที่อยากเล่าให้ลูกค้าเก่าฟังว่าเขายังอยู่ตรงนี้ นักการตลาดที่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ จะสามารถออกแบบคอนเทนต์ที่ไม่ต้องเสียงดังแต่ เข้าไปอยู่ในใจ ได้ยาวนานกว่าครับ

การตลาด LINE VOOM
(AI-Generated Image by Shutterstock Prompt: a cozy and heartfelt digital illustration of an elderly grandparent and a young child smiling together while watching short videos on a smartphone, soft sunlight pouring into a minimalist room, warm tones and peaceful atmosphere, subtle Line Voom UI elements glowing on the phone screen, emotional connection and everyday joy captured in a quiet moment.)

LINE VOOM คือพื้นที่เล็ก ๆ แต่มีพลังใหญ่ในการเชื่อมใจ ระหว่างผู้คน แบรนด์ที่อยากสื่อสารในช่องทางนี้ ไม่จำเป็นต้องคิดคอนเทนต์ให้ดังหรือไวรัลที่สุด แต่ควรมองหาเรื่องราวเรียบง่ายที่จริงใจและมีความหมายกับกลุ่มเป้าหมาย เพราะผู้ใช้งาน LINE VOOM ไม่ได้มองหาแค่ความบันเทิง แต่กำลังมองหา “ความรู้สึก” ที่สะท้อนตัวตนในชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ผูกพันกับร้าน พ่อแม่ที่รอลูก หรือหลานที่เฝ้ารอดูคลิปจากปู่ย่าการตลาดที่ได้ผลในแพลตฟอร์มนี้ ไม่ได้วัดกันที่เสียงดัง แต่วัดกันที่ “ความใกล้” และ “ระยะยาว” ที่แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจคนได้หรือไม่ นี่คือพื้นที่ที่แบรนด์สามารถหยุดไล่ตามกระแส แล้วหันมา “พูดกับคนที่สำคัญจริง ๆ” ได้อย่างแท้จริงครับ

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

ชื่อเติ้ลครับ เป็น Senior Data Insight Researcher & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^ มีงานอดิเรกเป็น ผู้ช่วยนักวิจัยฝั่ง Consumer Insights ที่คณะวิทยาศาตร์การกีฬา ที่จุฬาครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *