เมื่อธุรกิจกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำต้องปรับตัวให้ทันกับความท้าทาย เทคโนโลยี และความคาดหวังของพนักงาน การตลาดวันละตอนได้มีโอกาสไปร่วมงาน Future Trends Ahead Summit 2025 และใน Session New Rules of Leadership: Adapting to a New World โดยคุณนภัส ศิริวรางทูรจาก Hewitt จะพูดถึงเทรนด์ของการเป็นผู้นำในยุคใหม่ว่าเป็นยังไงค่ะ
ซึ่งใน Session นี้ได้ชี้ให้เห็นถึง 3 เทรนด์หลักที่กำหนดลักษณะของผู้นำในอนาคต ได้แก่ The Anatomy of Future Leaders (โครงสร้างของผู้นำแห่งอนาคต) , Insights – The Most Powerful “C’s” for Leading the Future (ปัจจัยสำคัญของความสามารถในการนำองค์กร) และ The Imperfect Leader Era (ยุคของผู้นำที่ไม่สมบูรณ์แบบ) บทความนี้จะอธิบายแนวโน้มเหล่านี้และผลกระทบต่อการพัฒนาภาวะผู้นำและความสำเร็จขององค์กรค่ะ
Trend 1 : The Anatomy of Future Leaders โครงสร้างของผู้นำแห่งอนาคต
ฉะนั้นเนี่ยองค์ประกอบที่เราเห็นว่าเป็นเทรนด์ในอนาคตเนี่ย Capibility และก็เรื่องของ Capacity 2 จะเป็นตัวที่สําคัญ ในขณะที่ตัวล่างสุดที่เป็นเรื่องของ Character&Culture Style ตรงเนี้ย จะวางคน Put The Right Man ใน Into The Right Job ในสถานการณ์ที่เหมาะสมด้วยค่ะ หมายความว่า องค์กรต้องพิจารณาคุณลักษณะของผู้นำให้ลึกซึ้งมากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่ผลงานที่ผ่านมา แต่รวมถึงศักยภาพในการเติบโตและรับมือกับอนาคตอีกด้วยค่ะ
Trend 2 : Insights – The Most Powerful “C’s” for Leading the Future ปัจจัยสำคัญของความสามารถในการนำองค์กร
ก็คือเรื่องของ Be Vision สามารถที่จะอ่านเกมธุรกิจได้ รู้ว่าจะสามารถดึงตัวที่เป็น solution ที่สําคัญตรงนั้น ออกมาจากเทรนด์ สถานการณ์ หรือโจทย์ทางธุรกิจนี้ออกมาได้อย่างไร
Driving Breakthrough Results – ผลักดันนวัตกรรมและผลลัพธ์ที่เหนือกว่าการทำงานแบบเดิม ความสามารถในการที่จะ ขับเคลื่อนผลลัพธ์ได้ ไม่ใช่แค่ Drive Result นะคะ เดี๋ยวนี้เป็น Drive Reverse To Result ที่ไปไกลกว่าตรงนั้น
Digital Acumen – การใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรค่ะ ซึ่ง 3 ส่วนนี้จะเป็น Part ของตัวที่เป็น Business Leadership ในขณะที่ตัวหมวดที่สองคือเรื่องของ Transformational Leadership คือ
ซึ่งในส่วนของ People Leadership ตรงนี้เนี่ยเป็นส่วนที่สําคัญมาก โดยเฉพาะยุคนี้ที่มีเรื่องของ AI ต่างๆ เข้ามาแล้วก็ Active มาก ก็อาจจะมีพนักงานมีกลุ่มคนที่รู้สึกว่าพอมันมี AI เข้ามาแล้วเนี่ย มันจะส่งผลกระทบอย่างไรกับตัวสวัสดิภาพ หรือเรื่องของการที่จะต้องเร่งพัฒนาความสามารถของตัวเองมีขึ้นมาได้อย่างไรบ้าง
อันนี้คือเป็น Research ที่เป็นข้อมูลที่ทางทีมงานได้เก็บข้อมูลกับทางผู้บริหารหลาย ๆ องค์กรนะคะ ซึ่งในทาง Leader เอง แท่งที่เป็นสีส้มนะคะ เราแบ่งเป็นกลุ่มที่เป็น Executive ซึ่งก็หมายถึง n ก็คือเป็น CEO นะคะ แล้วก็ Minus -1 คือประมาณเบอร์ 1 เบอร์ 2 ขององค์กร ในขณะที่กลุ่มแท่งสีน้ำเงินจะเป็น Middle Management อาจจะมองถึงประมาณ n -2 หรือ -3
เราจะเห็นว่าในแง่ของตัวที่เป็น Key Gap ในแง่ของความสามารถหรือ Leadership Capibility ที่ยังไม่เยอะนักนะคะ จะอยู่ในเรื่องของตัวที่เป็นความสามารถในการที่จะ Engage รวมถึงเรื่องการพัฒนา แล้วก็จะมีเรื่องของ Digital Acumen ด้วย ซึ่งในมุมของผู้นําเอง อาจจะเป็นคนที่สามารถติดตามเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้ แต่ว่าการที่จะขับเคลื่อนให้มี Use Case หรือว่ามีการที่จะให้คนในองค์กรได้เรียนรู้พัฒนาในเรื่องของตัวที่เป็น Digital หรือเรื่อง AI ต่าง ๆ เหล่านี้ ยังเป็นแก่นที่สําคัญอยู่นะคะ
ทีนี้มาในเรื่องของตัวที่เป็นความสามารถในการ Engage People เพราะว่านี่เป็นโจทย์ของผู้นําทั้งหลายในทุกๆ องค์กร เวลาที่ทํางานแล้วอยากที่จะให้คน Engage กับองค์กร โดยเฉพาะคนที่เป็น High Impact Group ของเราที่เป็นคนที่จะขับเคลื่อนงานไปพร้อม ๆ กับเรา หรือว่ากลุ่มที่เป็น Key Talent ของค์กรที่จะขับเคลื่อนองค์กรได้
พบว่าสัดส่วนของคนที่เป็นผู้นําในประเทศไทยขององค์กรชั้นนํา ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่าเป็น Optimizer แล้วก็ Controller แต่ในขณะที่กลุ่มที่เป็น Entrepreneur เป็นกลุ่มคนที่มีคาแรคเตอร์น้อยที่สุดนะคะ ความสำคัญของคาแรคเตอร์สําคัญต้องบอกว่าจริง ๆ ผู้นําที่จะช่วยในการขับเคลื่อนองค์กรอาจจะมีความเหมาะสมของ Character ที่เหมาะในการขับเคลื่อนธุรกิจใน Life Cycle ที่แตกต่างกันออกไป
คุณนภัสยกตัวอย่างว่ามีองค์กรที่เป็นลูกค้าอยู่แห่งหนึ่งบอกว่า ตอนนี้กําลังที่จะไปขยายธุรกิจ จะไป Set Up ธุรกิจในประเทศเวียดนาม เขาก็มองว่า เขาจะส่งคนที่เป็นผู้นําที่มีคาแรคเตอร์ไหนให้ไปขับเคลื่อน เพราะว่าถ้าเกิดดูจากองค์ประกอบอื่น ๆ เรียกเจอคนที่ใช่แล้ว แต่ว่ามันมีคาแรคเตอร์บางอย่าง ที่เราอยากจะพิจารณาประกอบเพิ่มเติมด้วย
สุดท้ายเขาส่งคนที่เป็น Architect กับ Entrepreneur เนี่ยไป Lead โปรเจกต์ที่มันเพิ่งสตาร์ทอัพขึ้นมา ซึ่งก็จะเป็นกลุ่มคนที่น่าจะเหมาะที่สุดในที่จะไปขับเคลื่อน หลังจากที่อยู่ในช่วง Set Up เสร็จแล้วพอที่จะส่งคนที่จะไปขับเคลื่อนการเติบโตต่อไป เขาส่งคนที่เป็นกลุ่ม Optimizer, Facilitator ไป นี่ก็คือเป็นสิ่งที่การที่เราจะวางคน ให้เหมาะสมกับ Business Life Cycle ขององค์กรตรงนี้ด้วยเหมือนกันนะคะ
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator Prompt : A futuristic business leader standing confidently on a high-tech digital iceberg, representing the Future Leadership Model. The iceberg consists of two parts: the visible top section showing tangible skills like experience, achievements, and leadership capabilities, and the submerged section highlighting hidden qualities such as growth mindset, emotional intelligence, and adaptability. The scene features a modern business environment with digital elements, holographic data interfaces, and AI-driven technology. The leader is illuminated by a futuristic blue and purple light, symbolizing innovation and strategic vision. The background is sleek and abstract, emphasizing leadership evolution and the dynamic future of work.