เมื่อไม่นานมานี้มีข้อมูลสถิติการใช้งานโซเชียลมีเดียและเทรนในโลกออนไลน์ปีล่าสุด Thailand Digital Stat 2022 ของ We Are Social ออกมาแล้ว ซึ่งหลายๆสถิติเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ผู้ขายของออนไลน์ควรศึกษาไว้ จากสถิติที่ออกมา LINE เองได้ติดอยู่ในอันดับต้นๆของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหรือแอปพลิเคชันที่คนไทยใช้งานเยอะที่สุดจากในรูปตาม Facebook มาติดๆเลยนะครับ
ประกอบกับเหตุผลหลักที่คนไทยใช้โซเชียลมีเดียในปีนี้ คือใช้เพื่อการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนหรือครอบครัว ซึ่งก็ตรงกับธรรมชาติของคนไทยที่ใช้ LINE เพื่อติดต่อสื่อสารกันเป็นช่องทางหลัก ครอบคลุมไปกว่า 50 ล้านคนในประเทศไทยแล้ว และสถิติที่น่าสนใจอีกอย่างคือ LINE เป็นอันดับหนึ่งที่มีคนใช้เงินด้วยมากที่สุด (ดังรูป) นี้อาจจะเป็นสัญญาณบางอย่างที่กำลังบอกเราว่าถึงเวลาแล้วที่ปีนี้ต้องหันมาทำการตลาดกันใน LINE มากขึ้น
บทความนี้จะช่วยให้คุณทำการตลาดใน LINE ได้อย่างเป็นมืออาชีพมากขึ้น พร้อมกับแชร์ทริคง่าย ๆ เพื่อให้ธุรกิจของคุณสร้างยอดขายได้แบบไม่รู้จบ นำมาสรุปให้คุณเข้าใจง่ายๆผ่าน “4 Step ปิดการขายด้วย LINE OA : สร้าง ชวน ใช้ เก็บ ”
Step 1 : สร้าง
ก่อนที่จะขายของได้ก็ต้องมีหน้าร้านก่อน ซึ่งการสร้างหน้าร้านใน LINE OA ง่ายมากๆ ในส่วนวิธีการไปทำตามกันได้จากลิ้งค์วิดีโอนี้เลยนะครับ https://www.youtube.com/watch?v=iAS78Sv_yfA บัญชีไลน์ส่วนตัว1บัญชีสามารถเปิดได้มากกว่า 100 บัญชี LINE OA เลย ดังนั้นคุณจะมีกี่ร้าน เปิดมากเท่าไหร่ก็ได้ แล้วยังสามารถเปิดได้แบบฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายเลยด้วย
บัญชี LINE OA ที่เราเปิดเริ่มต้นจะเป็นบัญชีทั่วไป หรือที่เรียกว่าโล่สีเทา ซึ่งสำหรับ LINE OA มีทั้งหมด 3 โล่ ด้วยกัน ได้แก่ โล่สีเทา โล่สีน้ำเงิน โล่สีเขียว ในส่วนของฟีเจอร์และการใช้งานเหมือนกันทั้ง 3 แบบ แต่สำหรับเจ้าของร้านที่อยากจะทำธุรกิจใน LINE จริงจัง แนะนำให้ไปสมัครบัญชีรับรอง หรือ โล่สีน้ำเงิน จะทำให้ลูกค้าค้นหาชื่อร้านค้าของเราจาก LINE เจอได้ง่ายขึ้น เหมือนกับร้านค้าปกติเวลาเปิดร้านใหม่ถ้าไม่ได้อยู่ในทำเลที่ดีหรือร้านดังจริงๆ ลูกค้าก็อาจจะหาเราไม่เจอ
Step 2 : ชวน
สำหรับการชวนของ LINE OA มีเครื่องมือให้เราใช้ครบ ไม่ว่าจะแชร์ลิ้งค์ URL สแกน QR code ซึ่งสามารถพิมพ์ออกมาเป็นโปสเตอร์ใช้แปะที่ร้านของเราได้ด้วย หรือใครที่เป็นสายยิงโฆษณา สามารถใช้ LINE Ads Platform ในการยิงโฆษณาชวนเพื่อนใหม่ๆเข้ามาติดตามใน LINE OA เพิ่มฐานลูกค้าให้มีโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น
ถัดมาคือการใช้ LINE OA หลังจากที่ลูกค้ารู้จักเรา และเข้ามาอยู่ในวงโคจรของร้านเราแล้ว เราควรที่จะให้ข้อมูลที่สำคัญแก่ลูกค้าเพื่อสร้างความเชื่อในสินค้าของเรา และอย่าปล่อยให้โอกาสปิดการขายหลุดมือไป ด้วยตัวช่วยนำส่งข้อมูลต่างๆ ขอยกตัวอย่างเครื่องมือใน LINE OA ที่เป็นตัวหลักที่จะช่วยเราปิดการขายได้ ดังนี้
1.ข้อความทักทายเพื่อนใหม่ (Greeting Message)
เพราะลูกค้าใหม่ที่เราชวนเข้าไปในบัญชี LINE OA จะเห็นข้อความทักทายเพื่อนใหม่เป็นอย่างแรก ดังนั้นเราควรจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของเรา สรรพคุณของสินค้า ช่วยแก้ปัญหาอะไร ราคาเท่าไหร่ สั่งซื้อทางไหน
2.ริชเมนู (Rich menu)
คือ Call to Action ที่เด่นชัดที่สุดใน LINE OA เพราะเป็นตำแหน่งที่ลูกค้าจะมองเห็นได้ง่ายที่สุดเมื่ออยู่ในแชตร้านเรา สามารถออกแบบสร้างได้เอง ใส่ได้มากถึง 6 ปุ่ม โดยควรใส่เมนูสิ่งที่ลูกค้าของเราอยากได้คำตอบจากสินค้าของเรา เช่น
เพื่อให้ข้อมูลกับลูกค้าผู้ติดตาม LINE OA และกระตุ้นการตัดสินใจ สำหรับตอนนี้ LINE เป็นการตลาดประเภทเดียวที่เข้าประชิดตัวกับกลุ่มลูกค้าได้ดี เพราะข้อความที่ร้านค้าบรอดแคสต์นั้นจะถูกส่งเข้ามาให้เราเห็นชัดใน Chatlist ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ผู้ใช้งาน LINE ต้องใช้อยู่เป็นประจำ ไม่มีทางที่ลูกค้าจะไม่เห็นแน่นอน(ถ้าไม่ได้โดนบล็อคไปซะก่อนนะครับ)
ซึ่งนอกจากจะทำให้ลูกค้าเห็นได้แล้ว เราจะต้องดึงดูดให้ลูกค้าเปิดอ่านด้วยส่วนนี้จะขอเก็บไว้ไปเล่าต่อใน EP อื่น ๆ นะครับ
4.หน้าฟีด (LINE TIMELINE > LINE VOOM (ชื่อใหม่))
การโพสต์สินค้า คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องไว้บน LINE VOOM เพิ่มการมองเห็นให้กับกลุ่มลูกค้าที่ติดตามเรา และคนที่อาจจะสนใจสินค้าของเรา ขึ้นโชว์ในตำแหน่ง For You Tab ดังนั้นการโพสต์ คอนเทนต์สินค้าของเราจะเป็นอีกช่องทางนึงเลยที่ทำให้ลูกค้าเกิดการมองเห็น และเริ่มสนใจในสินค้าของเรามากขึ้น ดึงดูดใจลูกค้าให้ซื้อสินค้าเราได้
เมื่อจบกระบวนการซื้อแล้ว การเก็บข้อมูล เบอร์โทร ที่อยู่ อีเมล ลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ข้อมูลเหล่านี้จะสามารถทำให้เรานำไปใช้ประโยชน์กับการตลาดได้ทั้ง LINE และแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือใน LINE OA ที่ใช้เพื่อการเก็บข้อมูลลูกค้าของเรา ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิ์ภาพ