การตลาด ttb 2025

การตลาด ttb 2025 ขับเคลื่อนดิจิทัลด้วย Data และ AI สู่ Hyper-Personalization มุ่งยกระดับประสบการณ์ทางการเงิน

ทุกวันนี้ Mobile Banking ที่แค่ทำธุรกรรมได้เร็วไม่เพียงพออีกต่อไปแล้วครับ ลูกค้าส่วนใหญ่คาดหวังมากกว่านั้นครับ เพราะต้องบอกว่าชีวิตทางการเงินมันซับซ้อนขึ้นทุกวัน หลายคนต้องรับมือทั้งหนี้สิน รายจ่าย รายรับ การออม การลงทุน และความเสี่ยงที่อยู่รอบตัว ดังนั้นธนาคารที่จะอยู่ในใจลูกค้าได้ ไม่ใช่แค่ธนาคารที่ให้บริการเร็ว แต่ต้องเป็นธนาคารที่เข้าใจและช่วยคิดได้ด้วย ซึ่งนี่แหละครับคือสิ่งที่ ttb touch ที่ การตลาด ttb 2025 กำลังทำอยู่

บทความนี้พามาดูการพัฒนาแอป ttb touch ที่ไม่ได้เป็นแค่ Mobile Banking ธรรมดา ๆ แต่กำลังกลายเป็น ผู้ช่วยทางการเงิน ที่ดูแลทุกช่วงชีวิตของลูกค้าอย่างแท้จริง ด้วยการใช้พลังของ Data และ AI ทำ Hyper-Personalization ให้เกิดขึ้นแบบจับต้องได้ มาดูกันดีกว่าครับว่า Mobile Banking + AI หน้าตาจะออกมาแบบไหน

ในงาน MarTech Expo 2025 ที่ผ่านมา คุณนริศ สถาผลเดชา ผู้บริหารกลุ่มงาน Data และ Analytics ของ ttb ได้เล่าถึงวิสัยทัศน์ของธนาคารที่น่าสนใจมากครับ คุณนริศบอกว่า Digital Transformation ของ ttb ไม่ใช่แค่การเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้ทันยุคสมัย แต่คือการเอาเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเข้าใจลูกค้า และสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในแบบที่แต่ละคนต้องการจริง ๆ ครับ

การตลาด ttb

ttb จึงวางเป้าหมายไว้ชัดเจนว่าจะไม่ทำแค่ Segmentation ทั่วไปอีกต่อไป แต่จะทำ Segment of One – คือการดูแลลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล 100% โดยเบื้องหลังความสามารถนี้ มาจาก Data ขนาดใหญ่กว่า 6.3 พันล้าน Data Points จากลูกค้ากว่า 10 ล้านราย ที่ระบบ AI ของ ttb นำมาวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าแบบรายคน แล้วปรับการให้บริการให้เหมาะกับจังหวะชีวิตของแต่ละคน ทีนี้พามาดู 3 ไฮไลท์สำคัญที่ ttb กำลังทำอยู่กันครับ ว่ามีอะไร และเข้าใจลูกค้าขนาดไหน

ในยุคที่ภัยการเงินออนไลน์มาแบบไม่ทันตั้งตัว ความปลอดภัย ไม่ใช่เรื่องที่ลูกค้าควรต้องกังวลอีกต่อไปครับ เพราะ ttb จึงให้ความสำคัญกับการคาดการณ์ล่วงหน้ามากกว่าการแก้ปัญหาภายหลัง และออกแบบฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ออกมามากมาย ตัวอย่าง

  • ระบบ AI ของ ttb touch จะวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้าแต่ละคน แล้วแจ้งเตือนให้ “ลดวงเงินธุรกรรม” หากพบว่าลูกค้าตั้งไว้สูงเกินความจำเป็น เช่น ถ้าเคยตั้งวงเงินโอนรายวันไว้ 200,000 บาท แต่ใช้จริงแค่ 10,000 ระบบจะแนะนำให้ปรับลดเพื่อความปลอดภัย
  • หรือถ้าคุณเป็นลูกค้าบัตรเครดิตที่ “ไม่เคยรูดซื้อของออนไลน์” หรือ “ไม่เคยใช้จ่ายต่างประเทศ ระบบก็จะแจ้งเตือนให้ปิดการใช้งานส่วนนี้ เพื่อป้องกันการถูกแฮกหรือขโมยข้อมูล

​​ttb ไม่ได้แค่สร้างฟีเจอร์ แต่กำลังสร้างความรู้สึกปลอดภัยที่เชื่อถือได้ ซึ่งถือเป็นรากฐานของความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างธนาคารกับลูกค้าเลยครับ เพราะในยุคที่ใครก็กลัวโดนโกง การที่แอปสามารถเตือนให้เราระวังล่วงหน้า แถมยังแนะนำวิธีจัดการอย่างเหมาะสมกับพฤติกรรมของแต่ละคน นี่คือการยกระดับจากระบบ Passive สู่ระบบ Active Assistant ที่แท้จริงครับ

ลูกค้าแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันครับ บางคนสะดวกใช้แอปตอนเช้า บางคนชอบทำธุรกรรมตอนดึก
ดังนั้นการจะสื่อสารอะไรออกไปจึงต้อง “เลือกให้ถูกจังหวะ” และ “ตรงกับความต้องการ” จริง ๆ ครับ ttb ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานของลูกค้า แล้วเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการแนะนำบริการต่าง ๆ เช่น

  • ถ้าระบบรู้ว่าคุณมีรถ และประกันกำลังจะหมด จะมี ข้อความเตือนให้ต่อประกันล่วงหน้า
  • ถ้าคุณเริ่มมีพฤติกรรมการออม ระบบจะแนะนำ “บัญชีที่ให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น” พร้อมคำนวณให้เห็นชัดเจนว่า “ได้เพิ่มเท่าไหร่”
การตลาด ttb

ผลลัพธ์ที่ชัดเจน

  • ลูกค้าเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้น 24%
  • ยอดสมัครบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 50%
  • อัตราการตอบรับข้อความแนะนำในแอปดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากสิ่งง่าย ๆ คือ ttb เลือกพูดในจังหวะที่ลูกค้าอยากฟัง และเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ ครับ ซึ่งไม่ต้องรำคาญกับข้อความขายของ ไม่ต้องเปิดแอปแล้วเจออะไรที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองอีกต่อไป

ลูกค้าทุกคนมีเป้าหมายทางการเงินที่แตกต่างกัน บางคนอยากออม บางคนอยากลงทุน บางคนอยากปลดหนี้ให้เร็วที่สุด นี่คือจุดที่ ttb touch เข้ามาทำหน้าที่เป็น Financial Companion หรือ ผู้ช่วยวางแผนชีวิตการเงินที่รู้จักลูกค้าที่ดีที่สุดครับ โดยเข้ามาช่วยแบบ Hyper-Personalized เลยล่ะครับ

ตัวอย่างเช่น:

  • ถ้าคุณมีพฤติกรรมการชำระหนี้ตรงเวลา → ระบบจะแนะนำให้เข้าร่วม “ผ่อนดีมีรางวัล” เพื่อรับดอกเบี้ยพิเศษ
  • ถ้าคุณเป็นสายออม → ระบบจะเปรียบเทียบผลตอบแทนจากบัญชีเงินฝากแต่ละแบบให้เห็นชัด ๆ
  • ถ้าคุณใช้เงินเยอะกับสิ่งของบางประเภท เช่น POP MART หรือร้านสะดวกซื้อ → ระบบจะช่วยสรุป Insight การใช้จ่าย และแนะนำการตั้ง Budget หรือเป้าหมายใหม่ที่เหมาะกับคุณ

เรียกได้ว่าไม่ต้องเปิด Statement เอง ไม่ต้องจดรายรับรายจ่าย  เพราะ ttb touch สรุปให้หมด พร้อม Insight แบบเข้าใจง่ายเหมือนมีนักวางแผนการเงินส่วนตัวอยู่ในมือเลยครับ

สรุป การตลาด ttb 2025 ขับเคลื่อนดิจิทัลด้วย Data และ AI สู่ Hyper-Personalization มุ่งยกระดับประสบการณ์ทางการเงิน

ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator: a person smiling while using a hyper-personalized mobile banking app, surrounded by floating financial icons tailored to their lifestyle, soft lighting, cozy modern home setting, customer-centric feel, cinematic atmosphere

ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นชัดเจนครับว่า ttb touch กำลังยกระดับจากแอป Mobile Banking ธรรมดา ให้กลายเป็น “ผู้ช่วยทางการเงินที่รู้ใจ” ของลูกค้าอย่างแท้จริง ด้วยการใช้ Data และ AI มาทำ Hyper-Personalization ที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องความปลอดภัยเชิงรุก การสื่อสารที่แม่นยำในจังหวะที่ใช่ 

หรือการแนะนำทางการเงินแบบ Personalized ซึ่งทุกฟีเจอร์ไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อแค่ทำให้ระบบฉลาดขึ้น แต่เพื่อให้ลูกค้าใช้ชีวิตทางการเงินได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมั่นใจมากขึ้นในทุก ๆ วัน เพราะสุดท้ายแล้วธนาคารที่ดีในวันนี้ ไม่ใช่แค่ธนาคารที่ให้บริการได้เร็ว แต่ต้องเป็นธนาคารที่เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริงครับ

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

ชื่อเติ้ลครับ เป็น Data Research Insight & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^ มีงานอดิเรกเป็นผู้ช่วยนักวิจัยฝั่ง Consumer Insights ที่คณะวิทยาศาตร์การกีฬา ที่จุฬาครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *