หลายคนอาจมองว่า ตลาดอสังหาฯ ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่รู้ไหมคะ? ยังมีหลายทำเลที่ความต้องการพุ่งสูงสวนกระแส จาก Insight ล่าสุดของ DDproperty เราเห็นได้ชัดเลยว่า ทำเลดี เดินทางสะดวก ราคาจับต้องได้ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนตัดสินใจซื้อ/เช่า วันนี้มาดูกันค่ะว่า สรุปเทรนด์ตลาดอสังหาฯ 2025 มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง และ นักการตลาดอย่างเราจะเอาไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์ได้ยังไง
ปี 2024 แม้ลังเลซื้อบ้าน แต่แรงหนุนภาครัฐอาจเปลี่ยนใจ
ต้องเกริ่นก่อนเลยนะคะว่าปี 2024 นี้ มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ผู้บริโภคคิดหนักเรื่องการตัดสินใจซื้อบ้าน ทั้งกำลังซื้อลดลง ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น และภาระหนี้ที่หลายคนยังไม่อยากแบกรับ แต่ยังไงก็มีแรงหนุน เหมือนกันค่ะ ทั้งจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐในเดือนเมษายน 2024 และการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในเดือนตุลาคม 2024 ซึ่งช่วยให้หลายคนที่เคยลังเล กลับมาอยู่ในโหมด “พร้อมพิจารณาซื้อ” ได้อีกครั้ง
AI image generated by Shutterstock (Prompt : a cinematic shot of A young woman standing outside a stylish townhouse, holding a folded brochure in her hands, looking at the house with a hesitant yet hopeful expression, golden hour light reflecting on the windows, cinematic framing)
เมื่อทำเลและการเดินทางคือหัวใจ
จากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภค DDproperty Thailand Consumer Sentiment Study พบว่าเกือบครึ่ง (48%) เลือกทำเลของโครงการ เป็นปัจจัยภายนอกที่มีอิทธิพลที่สุดในการตัดสินใจซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัย รองลงมาคือ 44% อยากได้โครงการที่ใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ ชัดเจนเลยใช่ไหมล่ะคะ ว่าการเดินทางสะดวกมีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจ ของแบบนี้ถ้าใครทำการตลาดหรือเปิดโครงการในย่านที่เดินทางง่าย ก็เหมือนมีกำไรเชิงโลเคชันไปแล้วครึ่งหนึ่งเลยค่ะ
1. จังหวัดยอดนิยม “ กรุงเทพฯ” ยังครองบัลลังก์ แต่ “เชียงใหม่” ก็มาแรง
กรุงเทพฯ ยังคงเป็นจุดหมายหลักของคนอยากซื้อ/เช่า ด้วยความเป็นเมืองหลวง แหล่งงานเพียบ การเดินทางสะดวกสบาย มีทั้งโซนธุรกิจและย่านชานเมืองที่ราคาย่อมเยาลงมาหน่อย
ที่น่าสนใจคือ เชียงใหม่ ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับสอง เลยค่ะ ซึ่งนี่เป็นผลจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และมีชาวต่างชาติเข้ามามากขึ้น คนเลยสนใจซื้อ/เช่าไว้เป็นบ้านพักตากอากาศหรือไว้อยู่ยาวในวัยเกษียณ ทำให้ดีมานด์เพิ่มตามไปด้วย
นอกเหนือจากนี้ก็มี นนทบุรี, ภูเก็ต, ชลบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, ประจวบคีรีขันธ์, ระยอง และขอนแก่น ตามลำดับที่มีคนค้นหาเยอะเช่นกันค่ะ เห็นไหมคะว่าไม่ได้มีแค่กรุงเทพฯ เท่านั้นที่ฮิต
2. ทำเลแนวรถไฟฟ้ามาแรง “BTS อ่อนนุช” มงลงรัว ๆ
ใคร ๆ ก็อยากใช้รถไฟฟ้า โดยเฉพาะเส้นทางที่เดินทางเข้าออกเมืองได้สบาย ๆ ซึ่ง BTS อ่อนนุช ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งค่ะ เพราะที่นี่…
ทำเลดี มีห้างฯ ใกล้ มีร้านอาหารเพียบ อยู่ใกล้ย่านธุรกิจ
เป็นสถานีแรกส่วนต่อขยายไปยังเคหะฯ สมุทรปราการ ทำให้ไม่ต้องเสียค่าโดยสารส่วนต่อขยายเพิ่ม
ที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้ยังราคาไม่แรง เหมาะทั้งลงทุนและอยู่เอง
ตามมาด้วย BTS พร้อมพงษ์, BTS เอกมัย, BTS ทองหล่อ, BTS อโศก, MRT พระราม 9, BTS อารีย์, MRT ลาดพร้าว, MRT ห้วยขวาง และ BTS สะพานควาย เป็นอันดับต้น ๆ เลยค่ะ ซึ่งถ้าเราสังเกตดูจะเห็นว่า 7 ใน 10 นั้นเป็นสถานีในสายสีเขียว ซึ่งเปิดให้บริการก่อนใครเพื่อน และเป็นสายหลักเชื่อมกลางเมือง ใครมีโครงการอยู่ใกล้ ๆ สถานีเหล่านี้ นับว่าได้เปรียบจนน่าอิจฉาเลยค่ะ
3. ย่านเขตในกรุงเทพฯ “วัฒนา” ครองใจผู้ซื้อ-ผู้เช่า
ถ้าถามว่าในกรุงเทพฯ โซนไหนมาแรงที่สุดตอนนี้ ขอบอกเลยค่ะว่า “เขตวัฒนา” ยังติดโผอันดับ 1 แบบต่อเนื่องนะคะ ซึ่งเขตนี้ก็คือถนนสุขุมวิทฝั่งเลขคี่ ไล่ตั้งแต่โซนนานา อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ-เอกมัย ไปจนถึงพระโขนง แต่ละโซนก็จะมีเสน่ห์และกิจกรรมไม่เหมือนกันเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศ อาคารสำนักงาน ร้านอาหารนานาชาติ แหล่งช้อปปิ้งระดับโลก หรือคอนโดพักอาศัยที่ผุดขึ้นตามการขยายตัวของเมือง
ใครที่กำลังเล็งเปิดโครงการคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์บริเวณนี้ บอกเลยค่ะว่ามีอนาคตสดใสแน่นอน เพราะความต้องการเช่าก็สูง ซื้อก็ดี รับรองไม่ผิดหวังค่ะ
4. ทำเลใกล้สถานศึกษา: “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” มาแรงแซงทุกโค้ง
อีกหนึ่งเทรนด์น่าจับตามองคือทำเลใกล้ “สถานศึกษา” ค่ะ เพราะเป็นแหล่งศักยภาพ ทั้งกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา บุคลากร ผู้ปกครอง ไปจนถึงคนวัยทำงานที่อยากอยู่โซนนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วยการเดินทางที่สะดวกหรือโอกาสในการปล่อยเช่าในระยะยาว
“จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เป็นทำเลที่คนซื้อและเช่าสนใจมากที่สุด เพราะย่านสยาม-จุฬาฯ เป็นศูนย์กลางทั้งวัยเรียนและวัยทำงาน มีรถไฟฟ้าผ่าน ราคาที่ดินสูงติดอันดับเมืองไทย และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ชัดเลยค่ะว่าถ้าใครมีคอนโดหรือโครงการแถวนี้ ก็มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง
Insight ผู้ซื้อ-ผู้เช่า ขนาดและราคาที่ใช่
#คนซื้อ → 2 ห้องนอน ในงบไม่เกิน 2 ล้าน
ผลสำรวจพบว่าคนวางแผนซื้ออสังหาฯ ในปี 2024 เลือกหา “2 ห้องนอน” เป็นอันดับหนึ่งค่ะ เหตุผลหลัก ๆ คือเหมาะกับครอบครัวเล็ก หรือคนที่อยากแยกสัดส่วนห้องไว้ทำงานกับห้องนอนให้ชัดเจนก็ได้ โดยผู้ซื้อมากกว่า 64% อยากได้โครงการ Fully Furnished เพื่อประหยัดทั้งเวลาและค่าแต่งบ้าน ย้ายเข้าได้ทันที ไม่ต้องวุ่นวายหาซื้อของเอง
เมื่อดูเรื่องราคา “ไม่เกิน 2 ล้านบาท” เป็นช่วงราคาที่มีการค้นหามากที่สุดเลยค่ะ สะท้อนชัดถึงความต้องการจากผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง (Real Demand) ที่อยากได้ที่อยู่อาศัยในราคาจับต้องได้ ซึ่งหลายคนก็เลือกทำเลชานเมืองเพราะรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเปิดมากขึ้น ราคาที่ดินไม่สูงลิบเท่าใจกลางเมือง
#คนเช่า → 2 ห้องนอน ควักกระเป๋าไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน
หลายคนชะลอการซื้อบ้านในช่วงเศรษฐกิจยังไม่สดใสแบบนี้ ก็เลยหันไปเช่าคอนโด/บ้านแทนค่ะ กลายเป็นว่าตลาดเช่าจึงยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งคนเช่าส่วนใหญ่อยากได้ 2 ห้องนอน (คล้ายฝั่งผู้ซื้อ) เพื่อตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน จะอยู่หลายคนหรืออยากมีห้องทำงานส่วนตัวก็ทำได้
80% ของผู้เช่าต้องการห้อง Fully Furnished จัดเต็มย้ายเข้าได้ทันที ทำให้ไม่เสียเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติม ขณะที่ค่าเช่าส่วนใหญ่ที่มีการค้นหาจะอยู่ไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่หลายคนจ่ายไหว แถมยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้าได้สบาย ๆ อีกด้วยค่ะ
5 วิธีเปลี่ยน Insight อสังหาฯ ให้เป็นยอดขาย
หลังจากที่เราได้เห็นกันแล้วว่าผู้บริโภคยุคนี้ให้ความสำคัญกับอะไรบ้าง ทีนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญ “นักการตลาดอย่างเราจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ยังไงดี?” ไม่ต้องคิดเยอะค่ะ ผู้เขียนได้ สรุปเทรนด์ตลาดอสังหาฯ เป็น 5 ไอเดีย เด็ดที่สามารถหยิบไปปรับใช้ได้ทันที มาดูกันเลยค่ะ
1. Location is King! ทำเลดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
ถ้าโครงการของเราอยู่ใกล้ BTS/MRT หรือมหาวิทยาลัยดัง อย่าลืมใช้จุดแข็งนี้ให้เป็นประโยชน์ค่ะ เพราะข้อมูลบอกชัดว่าคนเลือกซื้อ/เช่าตาม ความสะดวกในการเดินทาง เป็นหลัก
และอย่าลืม! ยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่มด้วยข้อความที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าโครงการเราช่วยทำให้ชีวิตเขาง่ายขึ้น เช่น “คอนโดติด BTS เดิน 5 ก้าวถึงรถไฟฟ้า” หรือ “อยู่ใกล้ ม.ดัง ดูซีรี่ย์ดึกแค่ไหนก็ไม่ต้องรีบตื่นเช้า” ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราคิดแทนเขาแล้ว แค่เลือกโครงการเราก็ ใช้ชีวิตแบบที่ต้องการได้ทันที รับรองว่ามัดใจคนมองหาทำเลดี ๆ ได้แน่นอนค่ะ
2. Offer What Sells ปรับโปรดักต์ให้ตรงใจลูกค้า
ข้อมูลบอกชัดว่า 2 ห้องนอน + Fully Furnished เป็นที่ต้องการสูงสุด ใครที่มีห้องว่างแบบนี้รีบโปรโมตให้โดนใจค่ะ ถ้าโครงการยังไม่มีเฟอร์ครบ ลองจัดแพ็กเกจแถมเฟอร์นิเจอร์ฟรี หรือออกโปรโมชั่นอัปเกรดห้องให้พร้อมอยู่ แบบนี้จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจได้ไวขึ้นค่ะ
3. The Sweet Spot Sells ตั้งราคาดี ลูกค้าก็มา
รู้แล้วว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่มองหาบ้าน/คอนโด ราคาไม่เกิน 2 ล้าน และผู้เช่าอยากได้ราคาที่ ไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน ดังนั้น ถ้าอยากขายไว ปล่อยเช่าง่าย ต้องตั้งราคาให้อยู่ในช่วงที่ลูกค้าส่วนใหญ่มองหา ลองวางโปรผ่อนสบาย ๆ หรือโปรค่าเช่าพิเศษ ที่อยู่ในเรตราคานี้ เพราะนี่คือ Sweet Spot หรือจุดที่ลงตัวที่สุดของตลาดตอนนี้ค่ะ
4. Geotargeting & Dynamic Ads ยิงโฆษณาให้ตรงกลุ่ม
ใช้ Geotargeting ยิงโฆษณาไปยังคนที่กำลังหาบ้าน/คอนโดในทำเลนั้น ๆ โดยตรง หรือทดลองใช้ Dynamic Ads ที่เปลี่ยนข้อความให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละกลุ่ม เช่น คนที่มองหาคอนโดเช่า → “คอนโดติด BTS เช่าเริ่มต้น 10,000 บาท” หรือ คนที่อยากซื้อ → “ผ่อนสบาย เริ่มต้นล้านต้น ๆ” แบบนี้ช่วยให้ Ads มีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
5. Finance Talk คอนเทนต์เรื่องเงินก็สำคัญนะ!
สิ่งนี้ผู้เขียนมองว่าน่าสนใจค่ะ หลายคนยังลังเลเรื่องการซื้อบ้านเพราะ ดอกเบี้ยและภาระหนี้ เราก็สามารถช่วยให้เขาตัดสินใจง่ายขึ้น ด้วยการให้ความรู้ผ่านคอนเทนต์
เช่น “ผ่อนบ้านยังไงให้คุ้ม?” “เทคนิคเช่าคอนโดให้ได้ราคาดี” “ดอกเบี้ยลด 0.25% ส่งผลต่อสินเชื่อบ้านยังไง?” พอคนเข้าใจเรื่องเงินมากขึ้น เขาก็จะกล้าตัดสินใจซื้อ/เช่าเร็วขึ้นค่ะ
สรุป สรุปเทรนด์ตลาดอสังหาฯ 2025 บ้าน คอนโดแบบไหนปัง จาก DDproperty
แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้อาจจะไม่ได้พุ่งแรงแบบก้าวกระโดด แต่จากข้อมูลทั้งหมดที่เราได้เห็นกัน ชัดเจนเลยค่ะว่าความต้องการยังมี เพียงแค่ต้องตอบโจทย์ให้ถูกจุด ทั้งเรื่อง ทำเล การเดินทาง ราคา และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
สำหรับนักการตลาดและผู้บริหารอสังหาฯ ที่อยากปิดดีลได้ไวขึ้น การรู้ Insight ของลูกค้าให้ลึก แล้วนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์การตลาดคือ กุญแจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้คำโฆษณาให้ตรงใจ การกำหนดโปรโมชั่นที่ใช่ หรือแม้แต่การยิง ads ให้แม่นยำ ทุกอย่างต้องเริ่มจากความเข้าใจลูกค้าค่ะ
ท้ายที่สุดแล้ว ผู้เขียนมองว่าอสังหาฯ ไม่ใช่แค่การขายบ้านหรือคอนโด แต่คือการมอบ “ไลฟ์สไตล์ที่ใช่” ให้กับลูกค้า ถ้าเราสามารถเชื่อมต่อความต้องการของเขาเข้ากับโครงการของเราได้ การตัดสินใจซื้อ/เช่าก็จะง่ายขึ้น และนั่นก็คือโอกาสในการเติบโตของตลาดอสังหาฯ ในปีนี้ค่ะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :0)
อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่