ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตตั้งแต่ตื่นนอน ไปทำงาน จนกลับมาเข้านอน ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของการคมนาคม ธุรกรรมทางการเงิน หรือแม้เเต่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน การตลาด Samsung ใช้กลยุทธ์ในการสร้างประสบการณ์ที่ดี และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนในปัจจุบัน
Samsung ไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์โทรศัพท์ แต่ยังเป็นแบรนด์อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทันสมัย ด้วยกระแสของ AI และการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค ทำให้แบรนด์ต้องนำจุดแข็งของตัวเองมาใช้ในการพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค วันนี้ผมเลยอยากจะชวนทุกคนไปดูกันว่า Samsung มีวิธีการและใช้กลยุทธ์อะไรที่จะดึงดูดใจผู้บริโภค
#SmartThings + Ecosystem ที่สุดของความสะดวกสบาย
Samsung ใช้กลยุทธ์การตลาดประสานกับการใช้ AI เพื่อมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้น นับว่าเป็นการต่อยอดจาก SmartThings แพลตฟอร์มเปลี่ยนโลกที่จัดระบบควบคุมภายในบ้าน โดยสามารถเชื่อต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าได้หลากหลายชนิด
ซึ่งตัวแพลตฟอร์มสามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าและสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ในบ้านได้จากทุกที่ผ่านแอปพลิเคชั่นเดียว เรียกได้ว่า Control from Anywhere สร้างประสบการณ์ในการเชื่อมโยงของอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไร้รอยต่อ
ทำให้ตอบโจทย์ต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพกายและใจ มองหาประสบการณ์ที่จะช่วยลดความกังวลของตัวเอง ให้ความสำคัญกับสะดวกสบาย อีกทั้งต้องสะท้อนความเป็นตัวของตัวเองไม่ว่าจะผ่านสินค้าหรือรูปแบบการดำเนินชีวิต (Lifestyle)
#AI of Thing ส่งมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้น
สิ่งที่ Samsung เล็งเห็นในการที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ และต่อยอดจากขุมพลังเดิมอย่าง SmartThings ก็คือ AI ที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ถึงขีดสุด นอกจากนี้ยังสามารถตอบโจทย์ Pain Point ของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเข้ามาช่วยให้อุปกรณ์มีการทำงานที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยสูงขึ้น และยังสามารถควบคุมการใช้พลังงานของอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
และหากผู้ใช้ใช้อุปกรณ์ของ Samsung ร่วมกันมากขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ จะฉลาดมากขึ้น โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ทางแบรนด์ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า Premium เท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการทำให้เทคโนโลยีให้เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยที่มีเป้าหมายในการนำ AI มาช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง การทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวัน
แน่นอนว่าการที่แบรนด์จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการจะต้องอาศัยความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างถ่องแท้ Samsung ให้ความสำคัญในการมองหาความต้องการและปัญหาที่แท้จริง โดยการไปศึกษา วิจัย คุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบถึงปัญหาของลูกค้า
นอกจากนี้ ด้วย AI ยิ่งสามารถเข้ามาช่วยในจุดนี้ได้ดียิ่งขึ้น เพราะมันสามารถจดจำพฤติกรรมของผู้ใช้ว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มันสามารถที่จะเก็บข้อมูล นำมาวิเคราะห์ และทำการประมวลผลออกมาเป็นลัพธ์ที่ดีที่สุด นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ Samsung สามารถนำข้อมูลต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในคาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และวางแผนการตลาดให้ตอบโจทย์ต่อกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้
เน้นย้ำความปลอดภัย Privacy ต้องมี ไม่ใช่เพียงแค่ตัวอุปกรณ์เครื่องใช้ที่ต้องปลอดภัย แน่นอนว่าหากมีเรื่องของ AI เข้ามาเกี่ยวข้องอาจทำให้หลายคนเป็นกังวลในเรื่องของข้อมูลส่วนบุคคล หรือความเป็นส่วนตัว (Privacy) นั่นจึงทำให้ Samsung ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง
โดย AI ของ Samsung มีมาตรการการปกป้องข้อมูลที่เข้มงวด เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การตรวจสอบและการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ Samsung ยังมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจว่าข้อมูลส่วนตัวจะได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่
ด้วยสิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งกลยุทธ์ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
#Innovation tailored for modern living นวัตกรรมตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ ด้วยขุมพลังของ SmartThings ที่ผสานกับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ของ Samsung ซึ่งถูกออกแบบมาอย่างสวยงามและมีสไตล์ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ตอบโจทย์พฤติกรรมของคนในยุคปัจจุบันที่มองว่าสิ่งของต่าง ๆ สามารถสะท้อนสไตล์ของตัวเองได้ นอกจากนี้ เมื่อรวมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและตอบโจทย์ในด้านความสะดวกสบาย ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ Samsung แตกต่างจากคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด
ยิ่งไปกว่านั้น Samsung ยังเคย Collaboration กับแสนสิริ ในปี 2022 เปิดตัวบ้านอัจฉริยะที่มีเทคโนโลยีและอุปกรณ์ Smartthings ติดตั้งภายในบ้าน ทำให้บ้านกลายเป็นสมาร์ทโฮม Home Automation ครบวงจร ซึ่งกลยุทธ์นี้สามารถนำมาปรับใช้ได้ในปัจจุบัน โดยการปรับให้เข้ากับรูปแบบการดำเนินชีวิตคนยุกใหม่อย่าง Smart Condo เป็นต้น เพราะเป็นวิธีที่ช่วยตอกย้ำถึงพลังของนวัตกรรมของ Samsung ให้เห็นถึงความสามารถและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
#Customization and Personalized AI Samsung ให้ความสำคัญกับการออกแบบและดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Bespoke home ที่มีการปรับแต่งด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย โดยผู้บริโภคสามารถเลือกปรับแต่งเองตามความชอบที่สะท้อนสไตล์ของแต่ละคน ทำให้เป็นมากกว่าเพียงแค่สิ่งของ แต่เป็นสิ่งที่สร้างคุณค่าทางจิตใจ
และไม่ได้มีเพียงแค่ดีไซน์เท่านั้นที่ปรับแต่งได้ แต่ยังมีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มี AI สามารถทำ Personalized ปรับตามสภาพแวดล้อม อย่างล่าสุด ทางแบรนด์ได้เปิดตัว BESPOKE Jet Bot Combo
#Branding is King พลังของแบรนด์ ต้องยอมรับว่าตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ามีคู่แข่งที่มีผลิตภัณฑ์คล้ายคลึงกันหลายแบรนด์ แต่เหตุผลที่ Samsung สามารถครองใจผู้บริโภคจำนวนมากไม่ใช่แค่เพราะเป็นแบรนด์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเท่านั้น แต่เป็นเพราะแนวคิดที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เพื่อช่วยให้สังคมดีขึ้น กล่าวคือ ถ้าชีวิตของผู้คนดีขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น ก็จะส่งผลให้สังคมดีขึ้นตามไปด้วย
ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยีต่าง ๆ จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อสอดคล้องกับแนวคิดดังกล่าว นอกจากนี้ด้วยการสื่อสารของ Samsung ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ หรือแม้แต่การ Collaboration ที่ได้กล่าวไปยังข้างต้น ก็เป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และตอกย้ำความเป็นแบรนด์ Samsung ลงไปในความทรงจำของผู้บริโภค ทำให้แบรนด์มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
สรุป
ผมมองว่าด้วยกระแสของ AI ที่มาแรงแทบจะแทรกตัวอยู่ในทุกอุตสาหกรรม เราทุกคนต่างก็สามารถปรับตัว รวมทั้งใช้ชีวิตร่วมกับสิ่งเหล่านี้จนเหมือนเป็นเรื่องปกติ เพราะแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็มี AI ด้วยสิ่งเหล่านี้ทำให้การดำเนินชีวิตของพวกเรานั้นสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ซึ่งก็สอดคล้องกับ การตลาด Samsung ที่จะใช้จุดแข็งของตัวเองในพัฒนาและต่อยอดสินค้าและบริการ มุ่งเน้นสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้
อย่างไรก็ตามเราคงจะได้เห็นการพัฒนาของผลิตภัณฑ์ของ Samsung ที่ก้าวหน้าขึ้นไปอีกในอนาคต
Source , Source , Source
อ่านบทความเพิ่มเติมในการนำ AI มาใช้ในการทำตลาดได้ที่นี่
