PR

การตลาดการบินไทย 2025 ยกระดับ Experience ภายใต้แนวคิด THE NEW WORLDS OF TOMORROW

เมื่อสายการบินแห่งชาติอายุครบ 65 ปี การบินไทยเปิดตัวแนวคิด THE NEW WORLDS OF TOMORROW ที่พร้อมก้าวสู่อนาคตอย่างเข้าลูกค้า บทความนี้จะพาไปดู การตลาดการบินไทย 2025 ว่าการบินไทยยกระดับประสบการณ์การเดินทางอย่างไร ทั้งในเรื่องวัฒนธรรม บริการ และเทคโนโลยีที่สะท้อน Core Value ของแบรนด์ได้ลึกกว่าที่เคยครับ

ยกระดับทุกมิติของประสบการณ์ สู่อนาคตของสายการบินไทย

เข้าสู่ปีที่ 65 การบินไทยประกาศก้าวสำคัญในทิศทางใหม่ ด้วยการเปิดตัวแนวคิด “THE NEW WORLDS OF TOMORROW” ที่ไม่ได้เป็นเพียงแคมเปญเฉลิมฉลอง แต่เป็นการขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต ผ่านการยกระดับประสบการณ์การเดินทางในทุกมิติครับ ไม่ว่าจะเป็นทั้งบริการ เครื่องบิน เทคโนโลยี และวัฒนธรรม เพื่อสะท้อนความตั้งใจของการบินไทย ที่จะเป็นสายการบินแห่งประเทศไทยที่พร้อมแข่งขันในระดับโลกครับ

ต้องบอกว่างานเปิดตัวแนวคิดนี้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งไม่เพียงแสดงถึงภาพลักษณ์ของการบินไทยที่มั่นคงหลังฟื้นฟูกิจการสำเร็จ แต่ยังตอกย้ำความพร้อมขององค์กรในการกลับเข้าสู่การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้งภายในปีนี้อีกด้วย

การตลาดการบินไทย 2025

เปิดมุมมองใหม่ในมิติของ Experience

การบินไทยแสดงจุดยืนชัดว่า การเดินทางในยุคใหม่ไม่ได้จบแค่ปลายทาง แต่เริ่มตั้งแต่สัมผัสแรกบนเครื่องบิน พามาดู 3 Highlights หลักที่สะท้อนแนวคิดนี้กันครับ

1.  โฉมใหม่นิตยสาร Sawasdee

Sawasdee จากหนังสือบนเครื่องที่หลายคนมองข้าม สู่สื่อร่วมสมัยที่สื่อสารกับนักเดินทางยุคดิจิทัลครับ โดยจะมีการนำเสนอใน 3 รูปแบบ ได้แก่ ฉบับพิมพ์, e-Magazine, และเว็บไซต์ออนไลน์ มากไปกว่านั้นยังบริหารงานโดยทีมระดับสากลอีกด้วย เน้นผสมผสานเรื่องเล่าจากไทย สู่โลก ด้วยภาษาทันสมัยและภาพลักษณ์ระดับพรีเมียมครับ

จึงทำให้ Sawasdee กลายเป็นมากกว่านิตยสาร แต่คือสิ่งที่จะเล่าความเป็นไทยแบบที่คนยุคนี้อยากเปิดอ่าน แชร์ และจดจำ

การตลาดการบินไทย 2025

2. Amenities Kit รุ่นพิเศษโดย SIRIVANNAVARI

นอกจากนี้ยังเปิดตัว Amenities Kit รุ่นพิเศษ ซึ่งการบินไทยได้สร้างสรรค์ร่วมกับแบรนด์ SIRIVANNAVARI  แบรนด์แฟชั่นระดับ Luxury จากวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรคของแบรนด์

เป็นกระเป๋า Amenities Kit ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งศิลปะและวัฒนธรรมไทย  นำเสนอใน 2 ลวดลาย ได้แก่ 

  • ลวดลายผ้าบาติกโทนขาว-น้ำเงิน ถ่ายทอดมนตร์เสน่ห์ผืนผ้าอันงดงามของภาคใต้ ผสมผสานกับลายดอกรักราชกัญญา ซึ่งเป็นลายผ้าที่องค์ดีไซเนอร์พระราชทานให้กลุ่มบาติกไทย ประดับด้วยสัญลักษณ์ช้าง นกยูง รวมถึงดอกไอริสและกล้วยไม้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI และการบินไทย  
  • ลวดลายที่สอง คือสวนสีสวย เบ่งบานไปด้วยดอกไอริสและดอกกล้วยไม้ บนผืนผ้าลายกราฟฟิกรูปเกือกม้า สัญลักษณแห่งความโชคดี ที่วางสลับกันเป็นลาย S Monogram ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ในโทนสีชมพูและสีม่วงสดใส 

ภายในกระเป๋าประกอบด้วย Hand Cream กลิ่นกุหลาบ, Lip Balm บำรุงฝีปาก และ Deodorant Spray กลิ่นอายภูมิปัญญาไทย จาก SIRIVANNAVARI Maison รวมถึงผ้าปิดตาในสีสันและลวดลายเดียวกับกระเป๋า, แปรงสีฟันจากไม้ไผ่, ยาสีฟัน MARVIS, ที่อุดหูกันเสียงรบกวน โดยของใช้ทุกชิ้นคัดสรรมาเป็นพิเศษให้ผู้โดยสาร Business class ที่เดินทางสู่จุดหมายปลายทาง 4 เมืองแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ได้แก่ มิลาน ปารีส โตเกียว และเซี่ยงไฮ้ ได้สัมผัสกับนิยาม Smooth as Silk อย่างแท้จริง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไปครับ

3. แคมเปญอาหาร “Good Taste for a Good Cause”

ประสบการณ์บนเครื่อง ที่ไม่ได้อร่อยแค่ปาก แต่อบอวลด้วยวัฒนธรรมwmp การบินไทยร่วมมือกับผู้ประกอบการไทย นำอาหารและขนมไทยที่สะท้อน Soft Power มารังสรรค์เมนูบนเที่ยวบินครับ เช่น

  • ช็อกโกแลตกานเวลา
  • กาแฟดอยตุง
  • ของหวานจาก After You
  • เมนูพิเศษจากร้านดัง เช่น “ผัดไทยทิพย์สมัย, เจ๊ไฝ, รสดีเด็ด” ผ่านโครงการ Streets to Sky
การตลาดการบินไทย 2025

นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มพิเศษ “Oriental Dawn” และ “Rose of Royal Voyage” ตอกย้ำความใส่ใจต่อรสนิยมที่หลากหลายของผู้โดยสารชั้น Royal Silk และ Royal First Class ครับ

THE NEW WORLDS OF TRAVEL COMFORT เพิ่มความล้ำด้วยฝูงบินและเทคโนโลยี

นอกจากความละเมียดในประสบการณ์ การบินไทยยังเตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีด้วยการรับมอบเครื่องบิน Airbus A321 Neo ภายในปลายปี 2568เครื่องบินลำใหม่นี้จะมี

  • ระบบความบันเทิงส่วนตัวทุกที่นั่ง
  • Wi-Fi ฟรี สำหรับสมาชิก Royal Orchid Plus ทุกระดับ
  • การประหยัดพลังงานและรองรับเส้นทางที่ยืดหยุ่นขึ้น

นี่คือความพยายามของการบินไทยในการ ยกระดับความสะดวกอย่างแท้จริง

ทำไมการบินไทยถึงใช้แนวคิด “THE NEW WORLDS OF TOMORROW”

ในโลกที่สายการบินระดับ Full-Service แข่งขันกันด้วย Experience มากกว่าราคา แนวคิด THE NEW WORLDS OF TOMORROW ไม่ใช่เพียงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ในวาระครบรอบ 65 ปี แต่คือการประกาศทิศทางที่ชัดเจนขององค์กรหลังผ่านพ้นวิกฤตธุรกิจครั้งใหญ่ แนวคิดนี้จึงเป็นบทใหม่ขององค์กรที่ต้องการแสดงให้เห็นว่า “การบินไทยไม่ใช่แค่ฟื้นกลับมาได้ แต่กลับมาอย่างมีพลัง และเข้าใจโลกใหม่ของการเดินทางมากกว่าเดิม” นั่นเองครับ

AI image generated by Shutterstock (Prompt: a premium in flight experience scene on a thai airways a321neo. a sophisticated asian woman in elegant business class attire sits comfortably in a luxurious seat, with a stylish sirivannavari designed amenity kit placed on the side table. she is reading a modern “sawasdee” in flight magazine. the meal tray features thai fine dining cuisine like mango sticky rice and artisanal chocolate. outside the window, the sunset sky glows in thai airways’ signature purple and gold. the cabin lighting is soft and warm. subtle thai contemporary patterns float in the background. the mood is modern thai elegance, global luxury, and cultural pride.)

ผมมองว่านี่คือจังหวะสำคัญที่องค์กรได้ฟื้นฟูกิจการสำเร็จ และกำลังจะกลับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯอีกครั้ง การยกระดับประสบการณ์ของผู้โดยสารในทุกมิติ ตั้งแต่บริการ เครื่องบิน อาหาร ไปจนถึงวัฒนธรรมบนเที่ยวบิน จึงไม่ใช่การปรับตามกระแส แต่เป็นการ “ฟื้นความเชื่อมั่น” ทั้งในหมู่ผู้โดยสารและนักลงทุนเอง ด้วยภาพขององค์กรที่ไม่เพียงพร้อมแข่งขัน แต่ยังสามารถยกระดับมาตรฐานใหม่ได้ในเวทีสากล

ในขณะเดียวกันแม้จะพยายามสากลให้มากขึ้น แต่การบินไทยยังเลือกเดินเกมสำคัญด้วยการใช้วัฒนธรรมไทยแบบร่วมสมัย เป็นภาษากลางในการเล่าเรื่ององค์กร ไม่ว่าจะผ่าน Amenity Kit ที่สะท้อนงานศิลป์ไทยระดับ Luxury  หรือเมนูอาหารที่ยกของดีจากร้านดังขึ้นเครื่องบิน ทุกสิ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสความเป็นไทยในแบบที่ทันสมัย ไม่เชย และเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ นี่จึงไม่ใช่การสื่อสารแบบยึดติดความเป็นไทยอดีต แต่คือการเล่าเรื่องไทย ด้วยภาษาที่โลกยอมรับครับ

สุดท้ายการใช้วาระครบรอบ 65 ปีเป็นจุดเริ่มของแนวคิด “THE NEW WORLDS OF TOMORROW” ในการเดินหน้าในทิศทางที่ชัดขึ้น  ไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่แบบลบของเก่าทิ้ง แต่เป็นการต่อยอดตัวตนเดิม ของการบินไทย ให้ทันยุค ทันโลก และเข้าถึงใจคนได้ลึกกว่าเดิม

เพราะในวันที่ทุกสายการบินอาจบินถึงจุดหมายเหมือนกัน แต่สิ่งที่ทำให้ผู้โดยสารอยากกลับมาหา คือ  Experience ระหว่างบินที่ปลายทางไหนก็ไม่มีเหมือน และนั่นคือสิ่งที่การบินไทยกำลังสร้างขึ้นใหม่ บนรากเดิมที่มั่นคงครับ

สรุป การตลาดการบินไทย 2025 ยกระดับ Experience ภายใต้แนวคิด THE NEW WORLDS OF TOMORROW

การบินไทยในปีที่ 65 จึงไม่ได้กลับมาเพื่อบอกว่า “เรายังอยู่” แต่กลับมาเพื่อพิสูจน์ว่า “เรากำลังไปต่อได้ดีกว่าเดิม” ด้วยแนวคิด THE NEW WORLDS OF TOMORROW ที่ไม่เพียงสะท้อนความพร้อมในมิติของธุรกิจ แต่ยังเผยให้เห็นถึงหัวใจของแบรนด์ที่เข้าใจผู้โดยสารยุคใหม่อย่างลึกซึ้ง ทั้งในเรื่องความสะดวกสบาย ความร่วมสมัย และความเป็นไทยที่ไม่เคยจางหาย การบินไทยกำลังสร้างมาตรฐานใหม่ของการเดินทางที่ไม่ใช่แค่การเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง แต่คือประสบการณ์ที่สร้างความรู้สึกเฉพาะตัว — ความรู้สึกที่ทำให้คำว่า Smooth as Silk กลับมาไหลลื่นในใจผู้โดยสารอีกครั้งอย่างสง่างาม

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

ชื่อเติ้ลครับ เป็น Senior Data Insight Researcher & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^ มีงานอดิเรกเป็น ผู้ช่วยนักวิจัยฝั่ง Consumer Insights ที่คณะวิทยาศาตร์การกีฬา ที่จุฬาครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

กลยุทธ์ Google x Gentle Monster มากกว่าแว่นตา AI แต่เป็น Fashion Function และอาจเป็นสัญญาณ (ลับ?) สู่การ Repositioning แบรนด์?

FacebookFacebookXXLINELineเมื่อ Google ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยี ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Gentle Monster แบรนด์แว่นตาแฟชั่นสุดหรูจากเกาหลีใต้ ในงาน Google I/O 2025 ที่ผ่านมา การร่วมมือกันเพื่อพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ AI บนระบบปฏิบัติการ Android XR ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ธรรมดา ๆ แต่ยังจุดประกายคำถามที่น่าสนใจมากกว่านั้น ว่านี่คือเพียงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล้ำสมัย หรือเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงทิศทางใหม่ของ กลยุทธ์ Google ที่เราควรติดตามกันอย่างใกล้ชิด? จากบทเรียนอดีตของ Google Glass สู่การ Collab ครั้งประวัติศาสตร์ เรื่องราวของแว่นตา Google ไม่ได้เริ่มต้นวันนี้นะครับ ย้อนกลับไปในอดีต Google เคยสร้างความตื่นตะลึงให้กับโลกด้วย Google Glass มาแล้ว แม้ว่าจะเป็นนวัตกรรมที่ล้ำหน้าในยุคนั้น แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายอย่างร โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์ที่ยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน และการยอมรับจากสังคมที่ยังเป็นเครื่องหมายคำถามใหญ่ แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติสำหรับผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่เกิดก่อนเวลาอันควร ซึ่งต่อมา Google ก็ได้ปิดโครงการ Google Glass สำหรับผู้บริโภคทั่วไปในปี 2014 และเปลี่ยนโฟกัสไปที่ตลาด Enterprise แทน […]

Sundew
Read more

Immersive Marketing แบบ Netflix แปลงโกดังเป็นโลก “สงคราม ส่งด่วน”

FacebookFacebookXXLINELineในค่ำคืนที่ควรเป็นแค่ “งานแถลงข่าวเปิดตัวซีรีส์” โอปอกลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะลงทุนกับบริษัทสตาร์ทอัปแห่งหนึ่ง ที่ชื่อว่า Thunder Express พร้อมสายพานจริง ของให้แพ็กจริง พนักงานจริง (ที่ใส่ชุดไรเดอร์) และเสียงต้อนรับว่า “เชิญเลยครับ นักลงทุน”Netflix ไม่ได้แค่เปิดตัว สงคราม ส่งด่วน ให้เรารู้จักเรื่องราวของเด็กดอยที่ฝ่าฟันจนสร้างอาณาจักรขนส่ง แต่กำลังพาเราก้าวเข้าไปอยู่ “ในเรื่องนั้น” ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เปิดดูตอนแรกค่ะ เรื่องเล่าจากดอย ที่เดินทางมาสะเทือนระบบทุน ถ้าจะมีซีรีส์สักเรื่องที่ฟังดูเหมือนเล่าธุรกิจ แต่จริง ๆ แล้วกำลังพูดถึงแรงสะสมในใจของคนตัวเล็ก โอปอว่าเรื่องนั้นคือ สงคราม ส่งด่วน ค่ะ สงคราม ส่งด่วน คือซีรีส์ดราม่าธุรกิจเรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่ได้แรงบันดาลใจจากเค้าโครงชีวิตจริงของหนึ่งในสตาร์ทอัปไทย โดยเล่าเรื่องของ “สันติ” เด็กหนุ่มจากดอยวาวี ผู้เติบโตมาในหมู่บ้านห่างไกล พร้อมเพียงความฝันจะพาครอบครัวหลุดพ้นจากความยากจน สิ่งเดียวที่เขามีติดตัวเมื่อลงจากดอยมายังกรุงเทพฯ คือ “ภาษาจีน” ที่แม่เคยสอน ซึ่งวันหนึ่ง กลายเป็นบันไดขั้นแรกสู่โลกธุรกิจข้ามชาติ สันติเห็นโอกาสจากช่องว่างของราคาขนส่งระหว่างไทย-จีน และพยายามเสนอแผนการลงทุนให้กับกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมา ไม่ใช่เงินทุน…แต่คือการถูกหักหลัง เพราะความคิดของเขาถูกนำไปใช้ โดยที่ชื่อของเขาไม่เคยถูกพูดถึง จากจุดนั้น เรื่องราวของ สงคราม […]

Opal Kamonnetr
Read more

การตลาด SNICKERS เปลี่ยน Real Moment เป็น Emotional Strategy

FacebookFacebookXXLINELineจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าแบรนด์ระดับโลกอย่าง SNICKERS ไม่ได้แค่จ้างไอดอลมาถือขนม… แต่หยิบ “เรื่องเฟลเล็ก ๆ” ของเขามาเล่าให้ทั้งเอเชียหัวเราะและหลงรัก?นี่คือ การตลาด SNICKERS ที่กล้าใช้ “Real Moment” มาเป็นแกนกลางของการสื่อสาร → เปลี่ยนแบรนด์เมสเสจให้กลายเป็นเรื่องส่วนตัว → และสร้าง Brand Affinity ที่จับต้องได้จริงไม่ว่าคุณจะรู้จักหรือไม่รู้จัก “มินกยู” ศิลปิน K-POP จากวง SEVENTEEN ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจว่าแบรนด์ใหญ่ ๆ “รีเฟรชตัวเอง” ยังไงให้เข้าถึงใจคนรุ่นใหม่ได้จริง แคมเปญ SNICKERS ชิ้นนี้คือเคสที่น่าหยิบมาวิเคราะห์แบบถึงแก่นค่ะ เพราะนี่ไม่ได้แค่ขายช็อกโกแลต แต่มันกำลัง “ขายความเป็นมนุษย์” ในยุคที่แบรนด์ยิ่งดูเฟค คนก็ยิ่งถอยห่าง จากขนมรุ่นคุณพ่อ สู่ภาษาของคนรุ่นใหม่ SNICKERS คือแบรนด์ขนมระดับโลกที่ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1930 และมีสโลแกนระดับไอคอนอย่าง “You’re not you when you’re hungry.” ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา แคมเปญนี้ถูกนำเสนอในรูปแบบที่สนุกและเข้าใจง่าย แต่ในปี 2025 SNICKERS […]

Opal Kamonnetr
Read more