การตลาดภูธร 2025 10 ทริคเจาะอินไซต์ มัดใจคน 80% ของประเทศ

เวลาเราวางแผนการตลาดทีไร ส่วนใหญ่แล้วเราอาจนึกถึงกลุ่มคนในเมืองใหญ่ ๆ เป็นหลัก แต่พอพูดถึง “ตลาดภูธร” หรือ “ตลาดต่างจังหวัด” แล้วเราอาจจะนึกภาพไม่ค่อยออกใช่ไหมคะว่าควรทำอะไรดี? หรืออาจไม่รู้ว่าจะวางแผนยังไงให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายกว่าในเมืองเสียอีก วันนี้เลยจะชวนทุกคนมาทำความเข้าใจกันให้ลึกซึ้ง และพบกับ 10 เคล็ดลับเด็ด ในการทำ การตลาดภูธร 2025 แบบอยู่หมัดกันค่ะ

ทำไมตลาดภูธรถึงต้องจับตา?

หลังน้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 2024 หลายพื้นที่ต่างจังหวัดได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งบ้านเรือนที่เสียหายและปัญหาขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ทำให้ผู้คนจำเป็นต้องปรับตัวกันขนานใหญ่ค่ะ พอเข้าสู่ปี 2025 นี้คาดว่าเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ตลาดภูธรกลับคึกคักขึ้นกว่าเดิม เพราะคนไทยส่วนใหญ่กว่า 80% อยู่ในต่างจังหวัด ธุรกิจที่มองเห็นโอกาสตรงนี้จึงพยายามเข้ามาบุกตลาดมากขึ้น และการแข่งขันก็เข้มข้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

การตลาดภูธร 2025
ที่มา PPTV

สิ่งที่ทำให้ตลาดภูธรน่าสนใจเป็นพิเศษคือ เมื่อผู้บริโภคต้องการสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตหลังน้ำลด แต่มีงบประมาณจำกัด ถ้าใครสามารถปรับแผนการตลาดให้ “คุ้มค่า” และ “ตรงใจ” กับวิถีชีวิตท้องถิ่นได้ก็จะคว้าใจลูกค้าไปได้ง่าย ๆ เลยค่ะ 

บวกกับสภาพเศรษฐกิจที่ยังผันผวน ทำให้ธุรกิจต้องวางแผนอย่างรอบคอบ เน้นใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน และสื่อสารให้ตรงกับความต้องการของคนแต่ละพื้นที่ได้อย่างแท้จริง ใครที่ทำได้ดีจะมีโอกาสปักหลักและเติบโตในตลาดภูธรได้อย่างมั่นคง แม้เศรษฐกิจจะผันผวนแค่ไหนก็ตามค่ะ 

การตลาดภูธร 2025
AI image generated by Shutterstock (Prompt : a cinematic shot focusing on a shopper at a Thai rural market, their expression and gestures as they pick fresh fruits from a stall, the background showing blurred motion of other shoppers and colorful market goods, evoking the lively energy of the community)

เพราะฉะนั้น ใครที่ยังลังเลว่าจะบุกตลาดภูธรดีไหม บอกเลยค่ะว่า “ห้ามพลาด” เพราะนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ของเราเติบโตแบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน และถ้าพร้อมแล้ว มาลุยกันต่อด้วย 10 เคล็ดลับเด็ด ๆ พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสสำหรับปี 2025 กันเลยค่ะ

10 เคล็ดลับช่วยแบรนด์บุกตลาดต่างจังหวัดในปี 2025

การตลาดภูธร 2025

1. เข้าใจ Insight คนภูธรแบบเจาะลึก

หลายคนอาจจะเผลอเรียก “คนต่างจังหวัด” หรือ “คนภูธร” เหมารวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ หรือจริงอยู่ที่เราอาจจะแบ่งได้คร่าว ๆ เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน หรือภาคกลาง แต่ความจริงแล้ว แต่ละจังหวัด แต่ละตำบล ไปจนถึงชุมชนเล็ก ๆ เขาก็มีวัฒนธรรม วิถีชีวิต ความเชื่อ และความต้องการที่ไม่เหมือนกันเลยค่ะ บางที่อาจจะนิยมกินอาหารแบบหนึ่ง หรือบางพื้นที่อาจจะใช้สื่อออนไลน์ต่างกับชาวบ้านอำเภอข้าง ๆ ก็ได้

เพราะฉะนั้น ก่อนจะวางกลยุทธ์การตลาด เราต้องลงลึกถึงข้อมูลจริง ๆ (Data) ค่ะ เพื่อดูว่าคนในพื้นที่นั้นสนใจอะไร ช่องทางการสื่อสารไหนที่เขาใช้กันบ่อย เช่น วิทยุชุมชน เพจท้องถิ่น หรือ TikTok รวมถึงพฤติกรรมการซื้อของเขาเป็นยังไง ซึ่งถ้าเราเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ได้แม่นยำ เราก็จะสื่อสารกับเขาได้ตรงจุด และทำให้แบรนด์ของเราเข้าไปอยู่ในใจคนแต่ละพื้นที่ได้ง่ายขึ้นค่ะ

2. ทำแคมเปญที่สะท้อนความเป็นท้องถิ่น

ถ้าอยากให้คนในชุมชนรักแบรนด์ของเราอย่างรวดเร็ว ก็ต้องเล่าเรื่องและสื่อสารให้เขารู้สึกว่าเรา “เข้าใจ” เขาค่ะ เช่น ใช้ภาษา ภาพ หรือเรื่องราวของชีวิตในท้องถิ่นนั้น ๆ ให้คนเห็นแล้วพยักหน้าตามทันทีว่า “นี่แหละ ใช่เลย!” หรือจะเลือก Collaborate กับ Influencer ท้องถิ่นที่คนพื้นที่ชื่นชอบ นับถือก็ยิ่งทำให้แคมเปญเราแข็งแรงขึ้นไปอีก

@viu_th

คิดว่า #LovelyRunner พากย์เสียงใต้ สำเนียงที่ไหน?? 🏃‍♀️ #เรื่องนี้ต้องดู #บันเทิงtiktok

♬ เสียงต้นฉบับ – VIU_TH – VIU_TH

3. สร้าง Content ที่ให้คุณค่าและช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่

อย่างตอนที่ชาวบ้านเพิ่งเจอภัยพิบัติอย่างน้ำท่วมมา พวกเขาอาจจะกำลังปวดหัวกับการซ่อมบ้าน หรือกังวลว่าทำยังไงถึงจะปลูกพืชผลซ้ำได้ไวขึ้น คราวนี้ถ้าแบรนด์ของเราเข้ามาพร้อมคอนเทนต์ที่ช่วย “ตอบโจทย์” เขาได้จริง ๆ เช่น แนะนำเทคนิคเตรียมบ้านรับน้ำท่วม สอนวิธีประหยัดค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูไร่นา หรือแม้แต่แชร์ไอเดียทำอาหารจากวัตถุดิบท้องถิ่นง่าย ๆ คนก็จะรู้สึกทันทีว่า “แบรนด์นี้เขาใส่ใจเราจริง ๆ นะ”

สิ่งสำคัญคือคอนเทนต์ต้องเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันและปัญหาที่ชาวบ้านกำลังเผชิญ ไม่ใช่แค่โปรโมตสินค้าไปเรื่อย เปลี่ยนจาก “ขายของ” เป็น “แบ่งปันความรู้” หรือ “วิธีแก้ไขปัญหา” แบบนี้จะทำให้คนในพื้นที่มองแบรนด์เราเป็นเพื่อนที่เชื่อถือได้ และสร้างความผูกพันกันได้ยาว ๆ เลยค่ะ

4. ใช้กลยุทธ์ “Local Hero”

ถ้าคิดจะตีตลาดต่างจังหวัดแบบเอาชัวร์ ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการมี “Local Hero” แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็น KOLs หรืออินฟลูเอนเซอร์ท้องถิ่นสายต่าง ๆ อย่างสายกินที่พาตะลุยร้านเด็ดประจำจังหวัด หรือสายชอปปิ้งที่พาเดินตลาดในท้องถิ่น ความเป็นคนพื้นที่ของพวกเขานี่แหละที่ช่วยเชื่อมความผูกพันกับผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้ง เพราะแฟนคลับจะรู้สึกว่า “เขาคือพวกเรา คนท้องถิ่นเหมือนกัน”

นอกจากนั้น ศิลปินหรือนักร้องที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นก็น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ ลองคิดดูว่าถ้าแบรนด์ได้ร่วมงานกับนักร้องดังในจังหวัดนั้น ๆ แฟนคลับก็จะรู้สึกดีกับแบรนด์ไปพร้อมกับรู้สึกว่าตัวเองกำลังสนับสนุนคนบ้านเดียวกัน แบบนี้แบรนด์จะไม่ได้แค่ยอดขาย แต่ยังได้ความน่าเชื่อถือและการยอมรับจากชุมชนอีกด้วยค่ะ

5. CSR สร้างความผูกพันกับชุมชน

แทนที่จะทำตลาดแบบขายของตรง ๆ ลองเปลี่ยนเป็นช่วยเหลือสังคมดูก็ได้ค่ะ คนในพื้นที่เจอปัญหาต่าง ๆ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือเรื่องอื่น ๆ อีกเพียบ ถ้าแบรนด์มีทรัพยากรพร้อม ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือคน ก็อาจจะลงไปช่วยเหลือ โดยอาจจัดโปรโมชันพิเศษเพื่อระดมทุน หรือให้บริการขนส่งสินค้าฟรีกับชุมชนที่ประสบภัย จริง ๆ แค่แบรนด์ “ทำด้วยใจ” ก็ชนะใจคนไปแล้วค่ะ

6. ใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อสร้างแคมเปญที่ปรับตัวได้

ยุคนี้ใครไม่รู้จัก AI ก็อาจตกเทรนด์ได้ง่าย ๆ เพราะ AI ช่วยปรับแคมเปญการตลาดให้เฉพาะเจาะจง (Personalized Marketing) กับพฤติกรรมของคนในพื้นที่ได้แบบอัตโนมัติค่ะ  ยกตัวอย่างเช่น ถ้า AI เห็นว่าคนในจังหวัดนี้ชอบซื้อเครื่องครัวช่วงหน้าฝน ก็สามารถปล่อยโปรโมชันเฉพาะฤดูกาลให้ทันที แบบนี้ก็เข้าถึงคนได้ตรงจุด ประหยัดงบอีกด้วยค่ะ

7. นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนและช่วยเหลือท้องถิ่น

“สินค้าที่ช่วยโลกได้ แถมช่วยชุมชนได้” กลายเป็นจุดขายที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากนะคะ เช่น ใช้วัตถุดิบในพื้นที่ หรือจ้างแรงงานในพื้นที่ ช่วยสร้างรายได้ให้คนท้องถิ่น แล้วสื่อสารออกไปว่าซื้อสินค้าแบรนด์นี้ = สนับสนุนชุมชนบ้านเรา ผู้บริโภคจะรู้สึกดีและภูมิใจที่ได้ซื้อสินค้าที่มีส่วนช่วยเหลือชุมชนค่ะ

@sme.thailand

Rag To Rich : แก้ปัญหาไก่ปูนล้นวัดด้วยการลองทำไก่แก้บนย่อยสลายได้ดูสักตั้ง . ความตั้งใจของวัยรุ่นไฟแรงแห่งเมืองนคร กับการเฝ้ามองปัญหากองไก่แก้บนไอ้ไข่ ที่เกือบจะได้เห็นทางออกหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเสียที จึงคิดทดลองและลงมือทำด้วยตัวเอง . เกิดเป็นแบรนด์ บนบาน ที่เขาบอกว่า ให้คุณทำบุญได้อย่างอุ่นใจ เพราะไก่แก้บนของเขาเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม . ติดตามเรื่องราวชวนเอาใจช่วยของพวกเขากัน. . #บนบาน #ไก่แก้บนย่อยสลายได้ #ไก่แก้บนรักษ์โลก #ของแก้บน #smestartup #สายมู #แก้บน #ไอ้ไข่ #tiktokuni #tiktok #รักษ์โลก

♬ Happy Summer – Vin Music

8. สร้างความร่วมมือกับธุรกิจและองค์กรในท้องถิ่น

บางทีเราก็ไม่ต้องลุยเดี่ยวค่ะ ลองจับมือกับร้านค้าปลีก สหกรณ์ หรือแม้แต่ตัวแทนจำหน่ายในจังหวัดนั้น ๆ ดูสิคะ เพราะเขารู้จักคนพื้นที่เป็นอย่างดี อาจจัดตลาดนัดในชุมชนหรือจัดงานการกุศลร่วมกันก็ได้ เพื่อเป็นการเปิดตัวแบรนด์ให้คนในชุมชนรู้จักและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นค่ะ

9. ปรับการบริการลูกค้าให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่น

บริการลูกค้านี่แหละค่ะเป็นจุดสำคัญที่อาจทำให้แบรนด์เราดูน่ารักหรือน่าหยิกได้เลย แนะนำให้ฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือจ้างคนในพื้นที่มาช่วยดูแลหน้าร้านหรือดูแลลูกค้า เพราะการได้คุยกับ “คนบ้านเดียวกัน” มักจะสร้างความรู้สึกอบอุ่นสบายใจได้เยอะมากค่ะ

10. ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดแคมเปญ

สุดท้ายเลยคือการดึงคนในชุมชนมาช่วยแชร์ไอเดีย ว่าอยากได้โครงการหรือกิจกรรมอะไร เพราะถ้าเป็นสิ่งที่เขาอยากทำอยู่แล้ว รับรองว่าชุมชนจะให้การตอบรับอย่างล้นหลาม และเกิดเป็นพลังบวกยิ่งกว่าแค่การตลาดปกติ

สรุป การตลาดภูธร 2025 10 ทริคเจาะอินไซต์ มัดใจคน 80% ของประเทศ

จะเห็นได้เลยว่า ตลาดภูธรไม่ใช่ “ตลาดขนาดเล็ก” หรือ “ตลาดที่ไม่คุ้มทุน” แต่เป็นขุมทรัพย์ที่ใหญ่และยังเติบโตได้อีกมาก หากแบรนด์ไหนเตรียมพร้อมและจัดเต็มกลยุทธ์แบบเข้าอกเข้าใจคนในพื้นที่ บวกกับการใช้เทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์ Data อย่างจริงจัง ก็จะสามารถฝ่าคลื่นเศรษฐกิจที่ผันผวนและสร้างการเติบโตได้อย่างยั่งยืนค่ะ

ขอให้ทุกแบรนด์ประสบความสำเร็จในภารกิจบุกตลาดต่างจังหวัด ปี 2025 กันทุกคนนะคะ อย่าลืมว่าการตลาดสมัยนี้ไม่ใช่แค่การ “ขายของ” แต่คือการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างแบรนด์และชุมชนค่ะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ:0)

อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

โอปอ Marketing Content Creator ของการตลาดวันละตอน ⋆˚✿˖° ดีใจที่ได้แชร์เรื่องราวกับทุกคนค่ะ อย่าลืมยิ้มให้ตัวเองทุกวัน และฝากติดตามบทความต่อไปด้วยนะคะ ( 。•ㅅ•。)~✧

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *