บทความนี้พามาดูเมจิกฟาร์ม เฟรช ที่ได้นำข้อมูลทางด้านสุขภาพมาใช้เป็นพื้นฐานในการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างเมจิกฟาร์ม เฟรช ชาหมักคอมบูฉะ การใช้ Data-Driven Marketing ทำให้ เมจิกฟาร์ม เฟรชสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่เป็นเทรนด์ แต่ยังตอบโจทย์ด้านสุขภาพได้อย่างแท้จริง และอยากเห็นคนไทยสุขภาพดี พร้อมพามาดูแคมเปญ 1 แชร์ = 1 บาท ที่เข้าใจคนไทยสุด ๆ อยากรู้มั้ยครับว่าชาหมักคอมบูฉะพัฒนามาจาก Data ได้ยังไง และเมจิกฟาร์ม เฟรช ทำแคมเปญอะไรเพื่อรณรงค์ให้คนไทยสุขภาพดี สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ
พัฒนาสินค้า และจัดแคมเปญจาก Data-Driven
การออกสินค้าเมจิกฟาร์ม เฟรช ชาหมักคอมบูฉะ เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ Data เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่คนไทยกำลังเผชิญ โดยเครื่องดื่มทางเลือกเพื่อสุขภาพ “เมจิกฟาร์ม เฟรช ชาหมักคอมบูฉะ” ชูคอนเซ็ปต์เครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพสำหรับคนยุคใหม่ ตามคอนเซ็ปคัดสรรค์สิ่งดี ๆ จากธรรมชาติ อร่อย สดชื่น ดื่มง่าย มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยเสริมสร้างสมดุลของระบบทางเดินอาหาร
และจาก Data เราพบว่ามะเร็งลำไส้ก็เป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบได้มากที่สุดในประเทศไทยครับโดยในผู้ชายมะเร็งลำไส้มาเป็นอันดับ 3 ส่วนในผู้หญิงเป็นอันดับ 2 นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เมจิกฟาร์มเฟรชต้องการรณรงค์ให้คนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพลำไส้มากขึ้นเพราะมะเร็งลำไส้เป็นสิ่งสามารถป้องกันได้หากเราดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ ครับ
นอกเหนือจากข้อมูลสถิติอันดับมะเร็งที่คนไทยเป็นเยอะที่สุด ในฝั่งของ Customer Data Insight จาก Google Trends ก็ชี้ให้เห็นว่า 5 ปีให้หลังคนไทยค้นหาคำว่า “มะเร็งลำไส้” เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เมจิกฟาร์ม เฟรช เองมองเห็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสุขภาพลำไส้ที่คนไทยกำลังเผชิญอยู่ได้จริง ๆ ครับ
ทำไมชาหมักคอมบูฉะคือทางออก?
งานวิจัยหลายชิ้นในช่วงปลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าชาหมักคอมบูฉะ มีผลดีต่อความดันโลหิต หัวใจ และอาจลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็ง ด้วยส่วนประกอบสำคัญที่ดีต่อลำไส้ อย่าง 3P
- Prebiotics อาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ที่ปกติมักพบได้ในอาหารที่มี Fiber โดยพรีไบโอติกส์จะช่วยเสริมให้จุลินทรีย์ดีแข็งแรงขึ้น
- Probiorics จุลินทรีย์ดีที่ลำไส้เราต้องการอย่างน้อย 1 ถึง 5 หมื่นล้านตัวต่อวัน เพื่อช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยดูแลระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ
- Postbiotic สารชีวภาพที่จุลินทรีย์ดีในร่างกายจะสร้างขึ้น ซึ่งสามารถพบได้ในอาหารบางชนิด และหนึ่งในนั้นคือ “ชาหมักคอมบูฉะ”
จากการใช้ Data-Driven Marketing ที่ใช้ Data เป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจ ผสานกับหลัก Customer Centric ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ทำให้เมจิกฟาร์ม เฟรช มองเห็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง ทั้งข้อมูลทางการแพทย์และข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ตัดสินใจพัฒนา เมจิกฟาร์ม เฟรช ชาหมักคอมบูฉะ ซึ่งมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลลำไส้ ให้ทำงานได้อย่างปกติ และยิ่งสุขภาพลำไส้ดี ก็จะส่งผลให้ร่างกายของเรามีสุขภาพดี
เมจิกฟาร์ม เฟรช ไม่ได้ใช้ Data-Driven ในการออกแบบสินค้าเพียงอย่างเดียวนะครับ แต่เมจิกฟาร์ม เฟรช ยังทำแคมเปญสินค้าชาหมักคอมบูฉะ โดยบริจาคให้กับมูลนิธิระบบทางเดินอาหารไทย ชวนคนไทยทุกคนหันกลับมามองความสำคัญของการดูแลลำไส้อีกด้วย
การตัดสินใจบริจาคให้มูลนิธิระบบทางเดินอาหารไทยไม่ได้เกิดขึ้นจากการคาดเดาหรือความคิดสร้างสรรค์เพียงอย่างเดียวนะครับ แต่เป็นผลมาจากการวิเคราะห์ Data ที่บ่งชี้ว่าสุขภาพลำไส้ยังเป็นปัญหาสำคัญที่ยังไม่ได้รับการพูดถึงมากพอในสังคมไทย ข้อมูลจากการสำรวจด้านสุขภาพพบว่า แม้คนไทยจะมีความสนใจเกี่ยวกับมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้น แต่คนไทยจำนวนมากยังไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการดูแลลำไส้อย่างถูกต้องครับ
มากไปกว่านั้นการใช้ Data-Driven ในการทำแคมเปญครั้งนี้ยังขยายไปถึงการเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่ตรงกับความสนใจของผู้บริโภคอีกด้วย จะเป็นยังไงนั้นเราไปดูรายละเอียดแคมเปญกันเลยดีกว่าครับ
แคมเปญ 1 แชร์ = 1 บาท ร่วมบริจาคให้กับระบบทางเดินอาหารไทย
เมจิกฟาร์ม เฟรช แบรนด์ที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยอย่างดี จากเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวยอดฮิต สู่ ชาหมักคอมบูฉะ สำหรับสายสุขภาพเมจิกฟาร์ม เฟรชเปลี่ยนภาพจำเดิม ๆ และชวนคนไทยหันกลับมาใส่ใจสุขภาพ ปล่อยแคมเปญ “เมจิกฟาร์ม อยากเห็นคนไทยสุขภาพดี” โดยการส่งแคมเปญน่ารักชวนแชร์จดหมายที่เขียนจากใจถึงคนรักสุขภาพ 1 ขวด 1 แชร์ = 1 บาท
แคมเปญ 1 แชร์ = 1 บาท ทำให้เกิด Awareness ในวงกว้าง เราเองก็เป็นส่วนร่วมกับแคมเปญนี้ได้ง่าย ๆ เพียงแชร์จดหมายจากช่องทาง Facebook : Magic Farm Fresh แฟนเพจเมจิกฟาร์ม 1 แชร์ เท่ากับ การบริจาค 1 บาท ให้กับ มูลนิธิระบบทางเดินอาหารไทย นับเป็นแคมเปญดี ๆ ที่เมจิกฟาร์มอยากให้เราทุกคนได้มีส่วนร่วมจริง ๆ ครับ ใครสนใจสามารถกดเข้าไปร่วมแคมเปญได้เลยนะครับ https://www.facebook.com/photo?fbid=1028274719094681&set=a.748574907064665
อย่าง Print Ads ที่ให้ความรู้สึกว่าเป็น จดหมายที่เขียนจากใจ…ถึงคนไทยทุกคน เป็นวิธีที่สร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์และทำให้เกิดการรับรู้ในประเด็นนี้อย่างลึกซึ้งครับ ข้อมูลจากการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคในโซเชียลมีเดียพบว่า ผู้คนมักสนใจและตอบสนองต่อเนื้อหาที่สร้าง Emotional ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของตนเองและครอบครัว การเขียนจดหมายจากใจจึงเป็นกลยุทธ์ที่กระตุ้นให้คนไทยกลับมาสนใจเรื่องสุขภาพลำไส้ครับ
นอกจากนี้วิธีการร่วมแคมเปญ เช่น “1 แชร์ = 1 บาท” สำหรับคนที่ไม่สะดวกซื้อเครื่องดื่มเอง ก็เป็นผลจากการวิเคราะห์ Data ที่ชี้ว่าผู้บริโภคยุคใหม่สนใจที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมที่ง่ายและสะดวก โดยเฉพาะการแชร์หรือกดไลค์ในโซเชียลมีเดียครับ นี่ก็เป็นการใช้หลัก Customer Centric ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อขับเคลื่อนให้เกิด Engagement ผ่านการมีส่วนร่วมง่าย ๆ และสามารถสร้าง Awareness ได้ในวงกว้างครับ ดูจากผลลัพธ์แล้วบอกได้เลยว่า Success แน่นอน
สรุป Data-Driven Marketing เมจิกฟาร์ม เฟรช ชาหมักคอมบูฉะ
แคมเปญ “1 แชร์ = 1 บาท” ของเมจิกฟาร์ม เฟรช เป็นการรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับสุขภาพลำไส้ ที่ต้องดูแลอย่างดี โดยเมจิกฟาร์ม เฟรช ได้ใช้หลัก Data-Driven Marketing และ Customer Centric ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาหมักคอมบูฉะ ที่มีส่วนช่วยดูแล และปรับสมดุลลำไส้เพราะหากลำไส้ดี ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สุขภาพดี ทุกการแชร์จดหมายจากใจผ่าน Facebook: Magic Farm Fresh 1 แชร์ เท่ากับการบริจาค 1 บาท ให้กับมูลนิธิระบบทางเดินอาหารไทย แคมเปญนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมง่าย ๆ ผ่านการแชร์และการซื้อสินค้าครับ พร้อมทั้งสร้าง Awareness ในวงกว้างเกี่ยวกับสุขภาพลำไส้ โดยใช้วิธีการสื่อสารที่เชื่อมโยงทางอารมณ์และตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
