หากพูดถึงการตลาดในยุค Digital หนึ่งในเรื่องที่ทุกแบรนด์มักให้ความสำคัญเลยก็คือการทำ Real-Time Marketing และการทำ Community-Driven Marketing ครับ ซึ่ง การตลาด ICONSIAM ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้กลยุทธ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนคว้ารางวัล Best Community-Focused Campaign on X ซึ่งเป็นรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 จากการทำผลงานยอดเยี่ยมบนแพลตฟอร์ม X และรางวัล FINALIST ของกลุ่มรางวัล Best Brand Performance on Social Media ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดียบนเวที THAILAND SOCIAL AWARDS ครั้งที่ 13
โดยเฉพาะกับงาน Amazing Thailand Countdown 2025 ที่ใช้ Real-Time Conversation Building และ Trend Takeover บน X (Twitter) จนทำให้ติดเทรนด์อันดับ 1 ติดต่อกันถึง 3 วัน สะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์จากการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างลึกซึ้ง และการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ให้เกิด Impact สูงสุดครับ
มาดูกันว่า ICONSIAM ทำได้อย่างไร อะไรคือปัจจัยแห่งความสำเร็จ ติดตามในบทความนี้ได้เลยครับ
1. Customer-Centric เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล การทำ Marketing ในยุคดิจิทัล ไม่ใช่แค่การส่งสารจากแบรนด์ไปยังผู้บริโภคเท่านั้น แต่ต้องสร้าง 2-Way Communication เพื่อให้เกิด Engagement จากผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับแบรนด์ครับ ซึ่งผมมองว่า ICONSIAM เข้าใจถึงจุดนี้เป็นอย่างดี และสร้างแคมเปญการตลาดที่เห็นผลได้จริง
หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้ ICONSIAM โดดเด่น คือการทำ Real-Time Conversation Building ซึ่งช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างทันท่วงทีครับ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคืองาน Amazing Thailand Countdown 2025 ที่ผ่านมา ICONSIAM ได้อัปเดตทุกโมเมนต์ของงานและมีปฏิสัมพันธ์ใน X (Twitter) ทั้งการแสดงของศิลปิน บรรยากาศงาน และสิ่งที่เกิดขึ้นอื่น ๆ แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ ICONSIAM ยังเข้าใจพลังของ Fandom Community เป็นอย่างดี และสามารถใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดผ่านการสร้าง Community-Driven Marketing อีกด้วยครับ โดยเลือกใช้ Influencer ระดับโลกอย่างลิซ่า BLACKPINK ซึ่งมีฐานแฟนคลับขนาดมหาศาล
ICONSIAM ทำการอัปเดตโมเมนต์สำคัญ ๆ ของศิลปินที่ร่วมแสดงบนเวทีเคาท์ดาวน์และลิซ่าแบบ Real-Time ซึ่งผลลัพธ์คือทำให้ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 เทรนด์ X ติดกัน 3 วันเลยล่ะครับ
แนวทางที่ ICONSIAM ใช้ในแคมเปญนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัลอย่างลึกซึ้ง การเน้น Real-Time Conversation Building ไม่ใช่แค่การอัปเดตข้อมูลทั่วไป แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ร่วมกันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคแบบ Interactive ซึ่งช่วยให้เกิด Engagement ในระดับที่สูงขึ้น
ผมมองว่าการที่ ICONSIAM สามารถทำให้ Amazing Thailand Countdown 2025 ติดเทรนด์อันดับ 1 บน X ติดต่อกันถึง 3 วัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์จากกลยุทธ์ที่ถูกออกแบบมาอย่างดีเพื่อกระตุ้นให้เกิด Conversation Amplification เมื่อผู้บริโภคเห็นว่าแบรนด์ตอบสนองและมีปฏิสัมพันธ์แบบ Real-Time พวกเค้าจะรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์มากขึ้นครับ
การตลาดของ ICONSIAM ไม่ได้มุ่งเน้นแค่ Brand Awareness เท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนด้วย Community Engagement ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดยุคใหม่ ทำให้ ICONSIAM ไม่ได้เป็นเพียงศูนย์การค้า แต่เป็น Ecosystem ที่เชื่อมโยงผู้บริโภคเข้ากับประสบการณ์แบรนด์ในแบบที่พวกเค้ามีส่วนร่วมและรู้สึกว่าเป็นเจ้าของโมเมนต์นั้นร่วมกันครับ
2. ใช้เครื่องมือ Social Media ให้เกิด Impact สูงสุด ความสำเร็จของ ICONSIAM บน X (Twitter) ไม่ใช่แค่การโพสต์เนื้อหาให้อยู่ในกระแสอย่างเดียว แต่เป็นการเข้าใจจังหวะของพฤติกรรมของผู้บริโภค และพลังของ Community แล้วนำสิ่งเหล่านี้มาสร้างเป็น Real-Time Engagement ที่ทำให้แบรนด์กลายเป็นจุดศูนย์กลางของบทสนทนาใน Social Media ครับ
หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ ICONSIAM ติด อันดับ 1 บน X (Twitter) ติดต่อกันถึง 3 วัน หรือทำให้เกิด Trend Takeover เกิดจากการใช้ประโยชน์ของกระแสในช่วงเวลาที่เหมาะสมมาขยายให้เกิด Impact สูงสุดครับ โดยกลยุทธ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการขึ้นเทรนด์แบบชั่วคราว แต่เป็นการทำให้แบรนด์เข้าไปอยู่ใน Real-Time Conversation ของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริงครับ
ICONSIAM ไม่ได้แค่โพสต์อัปเดตเกี่ยวกับงาน Amazing Thailand Countdown 2025 เท่านั้น แต่ใช้วิธีปล่อยคอนเทนต์ในจังหวะที่คนกำลังสนใจ และกระตุ้นให้เกิด Organic Conversation อย่างเป็นธรรมชาติเช่น การโพสต์โมเมนต์สำคัญของศิลปินที่มาร่วมงาน, การอัปเดตบรรยากาศภายในงานแบบสด ๆ, การใช้แฮชแท็กที่คนกำลังติดตาม ทำให้เกิดการแชร์ต่อแบบไวรัล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ ICONSIAM ไม่ได้เป็นแค่ผู้กระจายข่าวสาร แต่เป็นผู้ขับเคลื่อน Conversation ทำให้กระแสบน X ขยายตัวแบบ Organic และกลายเป็นกระแสหลักที่ทุกคนต้องพูดถึงครับ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ ICONSIAM ประสบความสำเร็จอย่างมากบน X คือ การเข้าใจพลังของ Fandom Community และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ICONSIAM รู้ว่าแฟนด้อมของลิซ่า BLACKPINK มีพลังมหาศาลในการกระจายข่าวสาร
ICONSIAM จึงทยอยปล่อยโมเมนต์สำคัญ ๆ ของลิซ่าตลอดช่วงงาน เมื่อแฟนคลับเห็นว่า ICONSIAM มีการอัปเดตแบบเรียลไทม์และให้ความสำคัญกับโมเมนต์ที่พวกเค้ารอคอย พวกเค้าก็พร้อมจะช่วยแชร์ คอมเมนต์ และดันกระแส ส่งผลให้ ICONSIAM สามารถครองพื้นที่ความสนใจของคนทั้งแพลตฟอร์มได้ครับ
ความสำเร็จของ ICONSIAM แสดงให้เห็นว่าการตลาดบน Social Media ไม่ใช่แค่การโปรโมต แต่เป็นการสร้างประสบการณ์และอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคจริง ๆ การทำให้แบรนด์เข้าไปอยู่ใน Real-Time Conversation และใช้พลังของ Community ช่วยกระจายกระแส ทำให้ ICONSIAM สร้าง Impact ได้มากกว่าการซื้อโฆษณาทั่วไปครับ
นี่คือสิ่งที่ทำให้ ICONSIAM ไม่ได้เป็นแค่ศูนย์การค้า แต่เป็น Ecosystem ที่ขับเคลื่อนด้วย Community และ Digital Engagement อย่างแท้จริง
3. ICONSIAM เป็นมากกว่าศูนย์การค้า ICONSIAM ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศูนย์การค้า แต่กำลังก้าวข้ามไปสู่การเป็น Brand Experience Hub ที่เชื่อมโยงผู้บริโภคผ่านอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งสิ่งที่ ICONSIAM ทำเป็นการสร้างประสบการณ์ให้ผู้คนอยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์ เช่น การทำให้แฟน ๆ ได้รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของ Community สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกผูกพันกับแบรนด์ในระดับที่ลึกกว่าการซื้อ-ขายทั่วไป ทำให้สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับกลุ่มผู้บริโภคได้ครับ
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ ICONSIAM แตกต่างคือการทำ Seamless Experience ผ่านกลยุทธ์ O2O Online to Offline ที่ทำให้ประสบการณ์ของผู้บริโภคเชื่อมโยงกันได้อย่างไร้รอยต่อ ICONSIAM สามารถ ต่อยอดอีเวนต์ออฟไลน์ให้กลายเป็นกระแสออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ โดยคนที่เข้าร่วมอีเวนต์จะถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านโซเชียลมีเดีย และขยายไปยังผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ๆ ทำให้เกิด Social Proof และสร้างกระแสที่ขยายวงกว้างขึ้นครับ
ICONSIAM ไม่ได้เป็นแค่สถานที่ ๆ คนมาช้อปปิ้ง แต่เป็นแพลตฟอร์มแห่งประสบการณ์ที่ดึงดูดผู้คนให้เข้ามามีส่วนร่วม นี่คือเหตุผลที่ทำให้ ICONSIAM กลายเป็น Cultural Landmark ที่คนอยากกลับมาเยี่ยมเยือนเรื่อย ๆ ครับ
จากกลยุทธ์ทั้งหมดที่กล่าวมาไม่ว่าจะเป็น Real-Time Conversation Building, Trend Takeover, หรือ การสร้าง Community-Driven Marketing สิ่งเหล่านี้คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ ICONSIAM ก้าวขึ้นมาครองพื้นที่บนโซเชียลมีเดีย
จนสามารถคว้ารางวัล Best Community-Focused Campaign on X สาขา Best Performance on Platform X ซึ่งเป็นรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 จากการทำผลงานยอดเยี่ยมบนแพลตฟอร์ม X และรางวัล FINALIST ของกลุ่มรางวัล Best Brand Performance on Social Media ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ทำผลงานยอดเยี่ยมบนโซเชียลมีเดีย สาขากลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า ในงานประกาศรางวัล THAILAND SOCIAL AWARDS ครั้งที่ 13 ได้ครับ
การที่ ICONSIAM คว้ารางวัลเหล่านี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า การตลาด ICONSIAM เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลอย่างลึกซึ้งและ สามารถใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ให้เกิด Impact สูงสุดได้ครับ ICONSIAM ไม่ได้แค่ใช้ X เป็นช่องทางในการสื่อสาร แต่ทำให้แพลตฟอร์มกลายเป็นสนามของแบรนด์ ที่สามารถสร้างกระแสและดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง
มากไปกว่านั้นความสำเร็จนี้ยังสะท้อนถึงการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย Community และ Emotional Engagement ซึ่งทำให้ ICONSIAM ไม่ใช่แค่ศูนย์การค้าทั่วไป แต่เป็น Brand Experience Hub ที่เชื่อมโยงผู้บริโภคผ่านอารมณ์และความรู้สึกครับ
ถ้าอยากอ่านบทความการวิเคราะห์เบื้องหลังความสำเร็จของการตลาดแบบนี้อีกสามารถเข้าไปอ่านได้ที่การตลาดวันละตอน ได้เลยครับ
