Google Keyword Planner คืออะไร และทำไมต้องใช้เป็น ต้องถือว่าเป็นเครื่องมือในการทำ Keyword Research สำหรับการตลาดผ่านการค้นหา ที่จะช่วยทำให้คุณรู้ได้ว่า คีย์เวิร์ดคำนั้นๆ มีจำนวนการค้นหามากน้อยเท่าไหร่ในแต่ละเดือน?
อีกถึงเป็นเครื่องมือที่จะทำให้คุณทราบอีกด้วยว่าคีย์เวิร์ดที่ควรนำมาใช้ในการโปรโมรธุรกิจของคุณมีคำอะไรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องบ้าง? และยังช่วยบอกต้นทุนประมาณการว่าคีย์เวิร์ดนั้นๆ จะมีต้นทุนค่าคลิก (Cost Per Click) เฉลี่ยอยู่ที่เท่าไหร่? จำนวนของคู่แข่งเยอะมั๊ย? เป็นต้น
ทำไมคุณถึงควรใช้ Google Keyword Planner ?
เป็นเครื่องมือที่ให้ใช้ฟรี
เพราะไม่ได้เป็นเครื่องมือที่แยกออกมาจาก “โฆษณา Google Ads” แต่มันเป็นเครื่องมือที่อยู่ในส่วนของ Google Ads
ดังนั้นแม้ว่าระบบจะบอกว่าให้คุณใช้ได้ฟรี ซึ่งมันก็จริง เพียงแต่ว่าถ้าคุณเพิ่งสมัครบัญชี Google Ads ระบบจะยังไม่แสดงผลตัวเลขต่างๆ ที่เห็นเป็นตัวเลขแบบชัดๆ แต่จะแสดงตัวเลขให้คุณเห็นเป็นช่วงๆ แทน จนกว่าคุณจะเริ่มทำโฆษณาและมีค่าใช้จ่ายบน Google Ads ก่อน
เอาไว้มองหาคำที่ใช่
เป็นเครื่องมือที่จะให้คุณสามารถมองเห็นได้ว่าเมื่อคนเข้ามาค้นหาที่ “Google Search” พวกเค้าใช้คีย์เวิร์ดอะไรกันบ้าง? ทั้งนี้คุณจะต้องระบุคำค้นหาคำหลักของคุณเข้าไปก่อน ซึ่งมักจะเรียกกันว่า “Seeding Keyword” แล้วเครื่องมือก็จะนำเสนอคีย์เวิร์ดคำต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมาให้คุณเพิ่มเติม คุณก็เพียงเลือกคีย์เวิร์ดที่คุณต้องการนำไปใช้ในการทำโฆษณาต่อไป
เอาไว้ศึกษาคู่แข่งของคุณ
ในอีกวิธีนึง หากคุณยังคิดไม่ออกว่าคีย์เวิร์ดอะไรที่คุณจะนำไปใช้เป็น Seeding Keywords คือคำอะไร? คุณสามารถที่จะนำเว็บไซต์ของคู่แข่งคุณกรอกลงไป และเครื่องมือก็จะแสดงคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคู่แข่งนั้นมาให้คุณ โดยจะดูจากเนื้อหาที่อยู่ในเว็บไซต์นั้นๆ
ซึ่งวิธีนี้ก็สามารถที่จะช่วยทำให้คุณได้ไอเดียในการเลือกใช้คีย์เวิร์ดสำหรับคุณ เพราะว่าถ้าเป็นธุรกิจเดียวกัน คีย์เวิร์ดที่คู่แข่งของคุณใช้ ก็น่าจะเป็นคีย์เวิร์ดที่ใกล้เคียงกับที่คุณใช้เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ถ้าถามว่าต้องใช้คีย์เวิร์ดไหนบ้างนั้นเป็นคำตอบที่ยากพอสมควร เพราะแต่ละธุรกิจก็จะมีคีย์เวิร์ดเฉพาะในวงการที่แตกต่างกันไป คุณจะต้องใช้ประสบการณ์ในการทำธุรกิจของคุณ และเข้าใจว่าคีย์เวิร์ดคำนั้นๆ จริงๆ แล้วคนที่ค้นหาอยู่นั้น เค้าต้องการอะไร? ต้องการเจอผลลัพธ์หรือว่าคำตอบแบบไหน?
สำหรับผู้เริ่มต้นอาจจะต้องลองค้นหาด้วยตัวเองเป็นระยะๆ หมั่นสังเกต และมองหาคีย์เวิร์ดใหม่ๆ ที่กลุ่มเป้าหมายในตลาดใช้ แล้วดูว่าสิ่งที่พวกเค้ากำลังค้นหาอยู่นั้น ธุรกิจของคุณ สินค้า/บริการของคุณ สามารถที่จะช่วยตอบคำถามหรือว่าแก้ปัญหาให้กับพวกเค้าได้หรือเปล่า?
ทั้งหมดก็ล้วนเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องเลือกใช้เครื่องมือนี้ ผมหวังว่าบทความนี้จะทำให้คุณเข้าใจการใช้งานได้เพิ่มเติมครับ
สำหรับใครที่สนใจบทความเกี่ยวกับ Google สามารถคลิกเข้าไปเลือก Topics อื่นๆ เพื่ออ่านต่อกันได้เลย
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะครับ