สวัสดีครับเพื่อน ๆ นักการตลาดและผู้อ่านทุกคน ปัจจุบันในทุกอุตสาหากรรมต่างก็มีการแข่งขันที่ดุเดือด แถมยังมีคู่แข่งมากมายที่พร้อมจะเข้ามาแย่งชิงทั้งส่วนแบ่งการตลาด (Market Shared) และกำไร (Profit) แต่ก็จะมีบางแบรนด์ที่สามารถกลายเป็นตัวท็อปขางตลาดนั้น ๆ ซึ่งสิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันก็คือ Core Tech ในวันนี้ผมเลยอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับ การตลาด Samsung ที่สามารถต่อยอดแนวคิดและพัฒนาเทคโนโลยีจนพาผลิตภัณฑ์และบริการของตัวเองเข้าไปอยู่ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากมาย
แต่ก่อนอื่นผมจะขอพาทุกคนไปรู้จักกับคำว่า Core Tech หรือ Core Technolgy ว่ามันคืออะไรกันแน่ และมีความสำคัญยังไง ถ้าพร้อมแล้วเรามาติดตามไปด้วยกันเลยครับ
Core Tech รากฐานหรือแก่นแท้ที่นำไปสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ ในธุรกิจ
Core Tech หรือ Core Technology หมายถึงเทคโนโลยีที่เป็นรากฐานที่สำคัญที่สำคัญหรือแกนหลักในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอื่น ๆ ซึ่งดดยส่วนใหญ่ก็จะถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความสามารถในการสร้างและรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันในอุตสาหกรรมหรือองค์กร
อย่างไรก็ตาม Core Tech ก็ไม่ได้ถูกจำกัดความแค่เทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรู้ ความเชี่ยวชาญ หรือกระบวนการที่ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้วยก็ได้ ตัวอย่างเช่น กระบวนการและวิธีคิด (Methodology) หรือแม้แต่ความรู้เฉพาะทาง (Specialized Knowledge) ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองก็ทำให้คู่แข่งเลียนแบบได้ยากเหมือนกันครับ
ทำไม Core Tech ถึงสำคัญโดยเฉพาะธุรกิจที่อยากโตแบบ Sustainable
ในมิติของการสร้างแบรนด์ (Branding) ถ้าจะดูว่าแบรนด์มีโอกาสเติบโตก็ให้ให้ดูที่คุณค่าของแบรนด์ (Core Value) แต่ถ้าจะดูว่าแบรนด์ไหนจะสามารถพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ได้อย่างต่อเนื่องก็ให้ดูที่ Core Tech
AI-Generated by Shutterstock (Prompt: A man wearing a suit with a cape, standing in the middle of a road, viewed from behind, modern city environment, wide streets, visible shops in the distance including an electronics store, a phone store, and an insurance company, a few people walking by in the background.)
โดยประโยชน์หลัก ๆ ก็คือ
สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน (Gaining Competitive Advantage) ทำให้แบรนด์หรือธุรกิจสามารถพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีความโดดเด่นและไม่เหมือนใคร ซึ่งนำไปสู่การสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในตลาด
สร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง (New Innovation) ถ้าเรามี Core Tech ที่แข็งแกร่ง ก็จะสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการรักษาความเป็นผู้นำในตลาด
ความสามารถในการปรับตัวและขยายธุรกิจ (Adaptability and Business Expansion) ช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในตลาดหรืออุตสาหกรรม หรือปรับใช้เทคโนโลยีในบริบทใหม่ ๆ เช่น การขยายตลาดที่ไม่ใช่ตลาดเดิมได้
การลดต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพ (Cost Reduction and Efficiency Improvement) ลดการพึ่งพาผู้ผลิตหรือ Out Source ทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีขึ้น
สร้างความจงรักภักดีที่มีต่อแบรนด์ (Building Brand Loyalty) Core Tech ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘Ecosystem’ ให้กับแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้
อย่างที่พูดไปในตอนต้นว่า Core Tech หรือ Core Technology ก็เหมือนกับรากฐานที่จะพัฒนา Solution ต่าง ๆ ของแบรนด์และหากรากฐานหรือแก่นแท้มีความแข็งแกร่ง แบรนด์หรือตัวธุรกิจเองก็จะสามารถต่อยอดและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่องนั่นเองครับ
4 Core Tech จาก Samsung สู่การเป็นแบรนด์แห่งนวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนยุคใหม่
ถ้าพูดถึง Samsung หลายคนก็คงจะนึกถึงตัวสมาร์ทโฟน แต่แบรนด์นี้ไม่ได้หยุดอยู่ที่แค่ตลาดมือถือเท่านั้น เพราะ Samsung เองก็ได้ขยายธุรกิจของตัวเองเข้าไปหลากหลายอุตสาหกรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ต้องบอกเลยว่า Samsung ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นในตลาดนี้ และแน่นอนว่าการที่ Samsung สร้างความโดดเด่นและแตกต่างก็ต้องมีรากฐานมาจาก 4 Core Tech คือ
ความโดดเด่น (Outstanding)
Samsung มีความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นทั้งในด้านการออกแบบดีไซน์และฟังก์ชันการใช้งาน รวมไปถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ ก็มีการจดสิทธิบัตรในการป้องกันการลอกเลียนแบบเพื่อให้แบรนด์มีความโดดเด่นและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
การขับเคลื่อนด้วย AI (AI-Driven Technology)
การใช้ AI ในการยกระดับผลิตภัณฑ์และการบริการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับความสามารถในการตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
การใช้งานที่ยืดหยุ่น (Flexibility)
ความสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายตามความต้องการและรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน
ความทนทานและยั่งยืน (Durability & Sustainability)
Samsung ให้ความสำคัญกับการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทาน ทั้งในด้านการออกแบบและการใช้งาน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
ซึ่ง Core Tech เหล่านี้ก็มีความสอดคล้องกับเป้าหมายสูงสุดของ Samsung ที่มุ่งเน้นการสร้างสังคมที่ดี ซึ่งก็เกิดจากการที่คนเรามีชีวิตที่ดีนั่นเอง (Contribute to a better global society)
Bespoke AI Laundry Combo เครื่องซักและอบผ้าในเครื่องเดียว
จากที่เราได้เห็นถึง Core Tech ทั้ง 4 อย่างแล้ว แน่นอนอนว่าสิ่งเหล่านี้ก็จะถูกถ่ายทอดผ่านผลิตภัณฑ์และบริการของ Samsung และล่าสุดทางแบรนด์ก็ได้เปิดตัว Bespoke AI Laundry Combo เครื่องซักผ้าสุดล้ำ ที่รวมทั้งการซักและอบผ้าไว้ในเครื่องเดียว
โดยใช้เทคโนโลยีการอบผ้าที่ดีที่สุดอย่าง Heatpump และมาพร้อมกับฟังก์ชันการใช้งานที่นำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยยกระดับการดูแลผ้าให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ลดความยุ่งยากในการย้ายผ้าระหว่างการซักและอบ ประหยัดพื้นที่ ประหยัดเวลา ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่
โดย Highlight ของเครื่องซักผ้าตัวนี้ก็คือ ความสะดวกสบาย ประสิทธิภาพสูงสุดที่มาพร้อมกับการประหยัดพลังงาน และความสามารถในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่าน SmartThings จะเห็นเลยว่า Core Tech ต่าง ๆ ก็จะถูกแฝงอยู่ในตัวของ Bespoke AI Laundry Combo นั่นเอง
นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างผลิตภัณฑ์หนึ่งชิ้นที่แฝงไปด้วย Core Tech ต่าง ๆ ของแบรนด์ ยิ่งเรามีมีสิ่งเหล่านี้ที่แข็งแกร่ง ก็ทำให้แบรนด์มีโอกาสที่จะเติบโต และแน่นอนว่า Core Tech ไม่ได้จำเป็นต้องเป็นแบบเดิมตลอดไป แต่สามารถถูกพัฒนาและต่อยอดได้เช่นกัน
สรุป
การตลาด Samsung แสดงให้เราเห็นเลยว่า Core Tech ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้แบรนด์สามารถต่อยอดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่มี Core Tech ที่แข็งแกร่งช่วยให้ Samsung สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นสำหรับธุรกิจที่ต้องการจะเติบโต ก็ควรจะให้ความสำคัญกับประเด็นนี้ เพราะถ้าฐานของเรามั่นคงและแข็งแกร่งพอ ตัวเราเองก็จะไม่ล้มง่าย ๆ และยังมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นอีกด้วย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่