Manage LINE OA data and know where customers come from with Track friend path..png
Knowledge

จัดการข้อมูล LINE OA รู้ว่าลูกค้ามาจากไหน ด้วย Track friend path

ต้องบอกว่า LINE OA มีฟีเจอร์หลายอัน ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานอย่างเรา ทราบถึงข้อมูลของลูกค้าที่ติดตามเราอยู่ ทำให้เรารู้จักลูกค้ามากขึ้น ซึ่งการมีข้อมูลเหล่านี้อยู่ในมือมีส่วนสำคัญอย่างมากในการทำธุรกิจ ข้อมูลช่วยให้คุณสามารถวางกลยุทธ์ และวางแผนในการดำเนินธุรกิจได้อย่างไม่หลงทาง ในบทความนี้เลยจะพามาทำความรู้จักหนึ่งในฟีเจอร์ จัดการข้อมูล LINE OA เพื่อให้รู้ว่าลูกค้ามาจากไหนด้วยฟีเจอร์ Track friend path

โดยใน LINE OA มีทั้งข้อมูลที่ระบบเก็บให้เบื้องต้นอยู่แล้ว เช่น ข้อมูล demographic ของเพื่อนใน LINE อย่างพวก เช่น ช่วงอายุ, เพศ ไปจนถึงโลเคชันของผู้ติดตาม

ตัวเลขในฝั่งการบรอดแคสต์ เช่น อัตราการเปิดอ่านข้อความ การคลิกลิงก์ หรือการดูวิดีโอ ที่ทำให้เราทราบถึงความสนใจของลูกค้าที่มีต่อข้อความบรอดแคสต์ หรือแบรนด์ของเรา

หรือข้อมูลที่ผู้ใช้งานต้องทำการเก็บ แยกและจัดการข้อมูลด้วยตัวเอง อย่าง “แชทแท็ก” ที่อยู่ในเมนูแชท ผู้ใช้งานสามารถเลือก “ติดแท็ก” ที่แชทของลูกค้าแต่ละคนได้ ช่วยให้การทำ segment กลุ่มลูกค้า ดียิ่งขึ้น โดยสามารอ่านเพิ่มเติมเรื่อง Chat Tag ได้ที่

แชทแท็ก (Chat Tag) ฟีเจอร์เล็ก แต่ความสามารถไม่เล็ก

ข้อมูลส่วนใหญ่ของ LINE OA จะอยู่ในหน้า “ข้อมูลเชิงลึก” ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลโปรไฟล์วิว, Broadcast , Click rich menu หรือจำนวนการทำงานของข้อความอัตโนมัติต่าง ๆ โดยในหน้านี้จะมี ข้อมูล “เพื่อน” ให้เราดูได้อยู่เบื้องต้นแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นจำนวนของเพื่อนที่เพิ่มเพื่อน จำนวนเพื่อนที่บล็อกไปแล้ว หรือจะเป็น “ช่องทางการเพิ่มเพื่อน” ที่จะแสดงให้เห็นว่า เพื่อนใน LINE OA ของคุณ ทำการเพิ่มเพื่อนจากช่องทางไหนบ้าง จากรูปจะเห็นว่ามีทั้งการเพิ่มเพื่อนด้วย Link, QR Code, การค้นหาด้วยไอดี และอื่น ๆ อีกมากมาย 

ซึ่งการแยกเพื่อนตามช่องทางต่าง ๆ นี้ เป็นการแยกเบื้องต้นจากแพลตฟอร์ม แต่ในการทำแคมเปญการตลาดจริง ๆ อาจต้องมีความละเอียดมากกว่านั้น เช่น สมมติว่าปกติแบรนด์ของคุณมักจะให้ลูกค้าทำการ “เพิ่มเพื่อน” ด้วยการ Scan QR code โดยมีการเอา QR Code ไปตั้งไว้ที่หน้าสาขาทั้ง 3 สาขา แต่คุณจะไม่สามารถทราบได้เลยว่าลูกค้ามีการสแกนเพิ่มเพื่อนจากสาขาไหนเยอะที่สุด นั่นเป็นที่มาของฟีเจอร์ที่เราจะพูดถึงในบทความนี้

Track friend path จะช่วยแยกเพื่อนที่แอดมาจากช่องทางต่าง ๆ

“Track friend path” ที่จะช่วยให้เราสามารถทราบถึงที่มาที่ไปของลูกค้ามากชึ้น และรู้ว่า ช่องทางไหน ของร้านหรือแบรนด์ของคุณนั้นได้ลูกค้ามาเยอะที่สุด โดยเราจะสามารถ สร้างและตั้งชื่อช่องทางต่าง ๆ ได้เอง คุณจะสามารถสร้าง QR Code หรือลิงก์เพิ่มเพื่อน เพิ่มได้อีกกี่อันก็ได้ เพื่อนำไปใช้ในจุดต่างๆ ของแบรนด์หรือร้านค้า เช่น นำไปเป็นปรินท์แล้วตั้งที่หน้าสาขา เวลาไปออกบูธ หรือนำ QR Code ไปใส่ในฉลากของผลิตภัณฑ์  ช่วยให้คุณสามารถรู้ได้ว่า LINE OA ของคุณ มีลูกค้ามาจากทางไหนบ้าง เท่าไหร่บ้าง

นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าที่ระบบแยกไว้ในแต่ละลิงก์ หรือ QR Code เพิ่มพื่อนนี้ สามารถนำไปสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมาย สำหรับการใช้เป็นกลุ่มผู้รับในการบรอดแคสต์ได้อีกด้วย ที่เมนู “กลุ่มเป้าหมาย” แต่อาจจะต้องรอให้มีกลุ่มเพื่อนที่แอดมา มีจำนวนเพิ่มขึ้นสักเล็กน้อย เพราะจะต้องมีขั้นต่ำของจำนวนเพื่อนที่ 50 คน

จัดการข้อมูล LINE OA

โดยวิธีการใช้งาน “Track friend path” ให้เข้าไปที่เมนู “เครื่องมือสำหรับการเพิ่มเพื่อน” จากนั้นเลือก “ตั้งค่าช่องทางการเพิ่มเพื่อน” และใส่ข้อมูลให้ครบทั้ง 3 ข้อ ตามรูปต่อไปนี้ เพื่อเป็นการระบุว่า ลิงก์หรือ QR Code ที่คุณทำการสร้าง จะไปตั้งหรือปรากฏอยู่ที่จุดใด และจะมีผลในการดูข้อมูลเชิงลึกของคุณในอนาคตอีกด้วย

จัดการข้อมูล LINE OA

ข้อควรระวังคือ เมื่อระบบได้ทำการสร้างลิงก์ และ QR Code มาให้เรียบร้อยแล้ว ให้คุณทำการบันทึก ทั้ง ลิงก์ และ QR Code เอาไว้ด้วย เพราะว่าคุณจะไม่สามารถเข้ามาดู หรือดาวน์โหลดได้อีกแล้ว แนะนำให้เซฟใส่ไฟล์เอาไว้

จัดการข้อมูล LINE OA

การใช้ Track friend path คล้ายๆ กับการใช้เว็บย่อลิงก์ หรือการทำ shorten URL ที่ทำให้คุณสามารถสร้างลิงก์ที่แตกต่างกันได้หลายลิงก์ แต่ปลายทาง หรือ landing page ยังเป็นที่เดียวกัน และยังทราบที่มาของคนที่คลิกลิงก์เพิ่มเพื่อนอีกด้วย

โดยการระบุแหล่งที่มาของเพื่อนจาก Track friend path นั่นจะต้องมีคนเพิ่มเพื่อนมาในช่องทางนั้นมากกว่า 20 คน จึงจะขึ้นแหล่งที่มาเพราะเป็นเรื่องของ Privacy ที่ทาง LINE ได้ระบุไว้นั่นเอง

นอกจากนั้นเราสามารถนำการ Track friend path ไปใช้ในการตรวจสอบลูกค้าที่เพิ่มมาจากแคมเปญโฆษณาในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อีกด้วย เช่น เรามีการยิงโฆษณาทั้งบน Facebook, LINE และ TikTok โดยเป็นแคมเปญ Click Link แบบส่ง Landing Page มาที่ LINE OA แล้วเราอยากหาว่าลูกค้าจะมาจากช่องไหนเยอะสุด ก็สามารถนำตัว Track friend path ไปประยุกต์ใช้ได้ โดยสร้างเป็น 1 Link สำหรับ 1 Platform นั่นเอง

ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator
Prompt : Person working at a modern desk, analyzing digital marketing data on a computer screen, with a focus on online ads. The screen displays elements related to LINE Ads, including charts, graphs, and campaign performance metrics. The workspace has a clean, professional look with green and white tones representing the LINE brand

ส่วนสำคัญที่เน้นย้ำอีกรอบคือเมื่อมีการสร้าง Track friend path จะไม่มีประวัติการสร้าง ดังนั้นเมืื่อสร้างแล้วผู้ใช้ต้องมีการทำบันทึกเพื่อบันทึกว่า LINK ไหนมาจากช่องไหนไว้ด้วย เผื่อต้องการกลับมาใช้ LINK เดิม หรือ ช่องทางเดิม จะได้สามารถนำ LINK เดิมกลับมาใช้งานได้

และทั้งหมดนี้คือฟีเจอร์ Track friend path จัดการข้อมูล LINE OA เพื่อให้รู้ว่าลูกค้ามาจากไหน หากมีคำถาม หรืออยากปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งาน LINE OA สามารถแอดไลน์ ทักมาคุยกับทีมงานเซลสุกิ (Sellsuki) ได้เลยที่ LINE OA: @linebysellsuki

หรือติดตามช่องทางอื่น ๆ ของ Sellsuki ได้เลยที่

บทความแนะนำอ่านเพิ่มเติม

อัพเดต LINE Ads 2024 ที่ Marketer และ Ad optimizer ห้ามพลาด

บริษัท เซลสุกิ จำกัด ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาระบบแพลตฟอร์ม โดยใช้นวัตกรรมที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเพิ่มความได้เปรียบในเชิงแข่งขันให้กับธุรกิจ พร้อมสนับสนุนด้วยบริการด้านต่างๆ ด้วยผู้เชี่ยวชาญให้กับ SMEs ของไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Roboflow Image Classification: เข้าใจ Predictive AI แบบลงมือทำจริง

FacebookFacebookXXLINELineสวัสดีค่ะทุกท่าน,, เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานิกมีโอกาสได้เข้าร่วมบรรยายให้กับทีมพัฒนาภายในขององค์กรเกี่ยวกับการใช้ AI ช่วยในกระบวนการทำงาน ซึ่งหนึ่งในหัวข้อที่ทำให้นักพัฒนาสนใจกันมากๆ คือเรื่องของความต่างระหว่าง Generative AI กับ Predictive AI ซึ่งเสริมความเข้าใจให้มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการ Workshop ใช้งาน Roboflow ในการทำ Image Classification จากโจทย์เท่ๆ ที่ว่า “ถ้าเราจะส่งสัตว์เลี้ยง แล้วไม่อยากให้พวกเขาทะเลาะกันในระหว่างเดินทาง เราจะทำยังไงดี?” 💡 ซึ่งถ้าเพื่อนๆ เคยสงสัยว่า Predictive AI สามารถ “ทำนาย” จากข้อมูลในอดีตได้อย่างไร และ Generative AI นั้น “สร้างสรรค์” อะไรออกมาได้แบบไร้ขีดจำกัดบ้าง ในบทความนี้กันเราจะมาสำรวจโลกของ AI สองสายนี้ไปด้วยกันค่ะ พร้อมกับยกตัวอย่างภารกิจจริงที่ใช้ AI คัดแยกสัตว์เลี้ยงเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น Let’s dive in (≧◡≦) ♡ #0 Generative AI กับ Predictive AI ต่างกันอย่างไร? […]

Panaya Sudta, PhD
Read more

วิเคราะห์ กลยุทธ์ ZARA ด้วย 4P แบรนด์ที่ไม่ได้แค่วิ่งตาม แต่เป็นผู้นำเกม

FacebookFacebookXXLINELineในวงการแฟชั่นที่เทรนด์หมุนไวชนิดที่ว่าแค่กะพริบตาก็อาจตกยุค มีแบรนด์หนึ่งที่ไม่ได้แค่ไล่ตามกระแส แต่กลายเป็นผู้กำหนดทิศทางของแฟชั่นเอง แบรนด์นั้นคือ ZARA จากร้านเสื้อผ้าเล็ก ๆ ในสเปน สู่ยักษ์ใหญ่ที่เปลี่ยนวิธีแต่งตัวของผู้คนทั่วโลก เคยสงสัยไหมครับว่าพวกแบรนด์ทำได้อย่างไร? อะไรคือเบื้องหลังอาณาจักรที่สามารถหยิบสไตล์จากรันเวย์มาไว้ในตู้เสื้อผ้าของเราได้ในเวลาไม่กี่สัปดาห์? และเพื่อหาคำตอบนั้น เราจะมาเจาะลึก กลยุทธ์ ZARA ด้วย 4P Marketing เพื่อให้เห็นภาพทั้งหมดที่หลอมรวมกันเป็นความสำเร็จของ ZARA ครับ About ZARA ก่อนอื่นเราก็ต้องมาทำความรู้จักที่มากันก่อนครับ ZARA ถือกำเนิดขึ้นในปี 1975 ที่เมืองอาโกรุญญา ประเทศสเปน โดย อามันซิโอ ออร์เตกา และโรซาเลีย เมรา วิสัยทัศน์ของแบรนด์ชัดเจนตั้งแต่แรก คือการสร้างธุรกิจที่ตอบสนองเทรนด์แฟชั่นได้อย่างรวดเร็ว เพื่อทลายกำแพงระหว่างเสื้อผ้าบนรันเวย์ราคาแพงกับเสื้อผ้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้นั่นเอง และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของปรัชญา “Democratizing Fashion” และเป็นรากฐานสำคัญของโมเดลธุรกิจที่โลกรู้จักในชื่อ “Fast Fashion” จากร้านแรก ZARA ก็ขยายอาณาจักรไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีร้านค้ากว่า 2,000 แห่งใน 96 ประเทศทั่วโลก แต่ความเจ๋งของ ZARA ไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือความสามารถในการคุมเกมเองตั้งแต่การออกแบบ, […]

Sundew
Read more

รู้จัก TOFU MOFU BOFU Marketing Funnel เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้เป็นลูกค้าตัวจริง

FacebookFacebookXXLINELineในยุคที่ข้อมูลข่าวสารวิ่งเข้าหาผู้บริโภคแบบไม่หยุดพัก การตลาดแบบเดิม ๆ ที่เน้นการขายแบบตรงไปตรงมาอาจไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป วันนี้ผมเลยอยากจะพาไปรู้จักกับกลยุทธ์ที่เรียกว่า Marketing Funnel ครับ แม้ว่าหลายคนจะคุ้นเคยกับเฟรมเวิร์กสุดคลาสสิกอย่าง AIDA กันอยู่แล้ว แต่ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกอีกหนึ่งโมเดลที่ทรงพลังและนำไปใช้ได้จริง นั่นก็คือ TOFU MOFU BOFU ซึ่งการทำความเข้าใจเส้นทางทั้ง 3 ด่านนี้ คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนคนที่ไม่รู้จักแบรนด์ของเราเลยให้กลายเป็นลูกค้าคนสำคัญ และยังช่วยให้ธุรกิจใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่า พร้อมกับสร้างความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นกับลูกค้าในระยะยาวได้อีกด้วยครับ Tofu หรือ Top of the Funnel สร้างการรับรู้ เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็น “คนรู้จัก” มาเริ่มกันที่ด่านแรกสุดของ Funnel หรือ TOFU ในขั้นตอนนี้ เป็นช่วงที่กลุ่มเป้าหมายของเราอาจจะเพิ่งเริ่มรู้สึกตัวว่า “เอ๊ะ… ฉันน่าจะมีปัญหานี้นะ” แต่ยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันยังไง หรือบางทีอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์ของเรามาก่อนเลยด้วยซ้ำ เป้าหมายหลักของ TOFU จึงเป็นการ “สร้างการรับรู้” (Awareness Stage) และดึงดูดผู้คนให้ก้าวเข้ามาใน Funnel ของเราให้ได้มากที่สุด เราต้องสวมบทบาทเป็นผู้ให้ความรู้ที่ใจดี ไม่ใช่พนักงานขายที่จ้องจะปิดดีล ลองนึกภาพตามง่าย ๆ ว่าถ้าเราเจอใครครั้งแรกแล้วขอเขาเป็นแฟนเลย […]

Sundew
Read more