ในบทความนี้เรียกได้ว่าจะพามาดู แคมเปญการตลาด Pedigree ที่มีสีสันและความสนุกสนานพอตัวเลยค่ะ กับการช่วยคุณหาน้องหมาที่มีลักษณะตรงข้ามกับแฟนเก่าของคุณ เอาล่ะ ใครกำลังผูกใจเจ็บคงเข้าใจเป็นอย่างดีว่าการเลิกรากับคนรัก หรืออาการอกหักเนี่ยมันช่างยากที่จะผ่านไป หันไปทางไหนก็เจอแต่หน้าเขา
เดี๋ยวบทความนี้เรามาดูกันว่าแคมเปญนี้จะมีความน่าสนใจยังไง และมีเบื้องลึกเบื้องหลังในมุมมองของการตลาดยังไงบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลยค่า
ที่มาที่ไปของแคมเปญ
เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน 2024 นี้เองค่ะ โดยเอเจนซี BBDO New York ร่วมกับแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงที่คงไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง Pedigree ได้ทำแคมเปญที่แสนจะอบอุ่นใจกับ แคมเปญการตลาด Pedigree – Rebound Dogs
อธิบายง่าย ๆ ก็คือเป็นการช่วยเหลือคนที่เพิ่งเลิกรากับคู่รัก ด้วยการหาคู่ใหม่ให้ แต่เป็นคู่(หู)ใหม่ในรูปแบบของ ‘สุนัข’ หรือน้องหมาแสนน่ารัก จากสถานสงเคราะห์สัตว์นั่นเอง
VIDEO
โดยได้ทำแคมเปญนี้บน Microsite หรือพูดง่าย ๆ คือออกแบบเป็นเว็บไซต์จำลองที่มีรูปแบบเหมือนแอปหาคู่ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถกรอกข้อมูลส่วนตัว ความชอบ รวมถึงปัจจัยเด็ดนั่นก็คือลักษณะของแฟนเก่า แล้วระบบจะจับคู่เรากับสุนัขที่ต่างจากแฟนเก่าเราอย่างสิ้นเชิงให้ จากสถานสงเคราะห์ในพื้นที่ที่พร้อมได้รับการอุปการะ
เป็นการรับรองว่าถ้าได้อยู่กับน้องหมาตัวที่ระบบจับคู่มาให้นี้ ก็คงไม่หลงเหลืออะไรให้ Remind ถึงแฟนเก่าคุณได้อีกเลย อย่างในวิดีโอที่ผู้เขียนก็ชื่นชอบไอเดียการทำโฆษณามาก ๆ คือแฟนเก่าเป็นคนหัวล้าน พอเห็นอะไรลักษณะกลม ๆ อย่างไข่ไก่ ลูกบอล หรือลูกโป่ง ก็ดันไปนึกถึงหัวแฟนเก่าซะได้ เมื่อระบบรับข้อมูลไปจึงจับคู่สาวคนนี้กับน้องหมาขนยาวสลวยให้แทน
นอกจากการช่วยเหลือคนให้มีคู่ใหม่หรือมี ‘ชีวิตใหม่’ แล้ว มันก็ยังเป็นการช่วยเหลือให้สุนัขจรจัดมี ‘ชีวิตใหม่’ ไปด้วยเช่นกันค่ะ ได้มีบ้านใหม่ ซึ่งแน่นอนว่าก็จะส่งผลให้ความต้องการอาหารสุนัขของแบรนด์เพิ่มขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
โดยสรุปคือเป็นแคมเปญที่น่ารักและยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว ทั้งฝั่งของแบรนด์เองก็ได้ประโยชน์กับความต้องการอาหารสุนัขที่จะเพิ่มขึ้น รวมถึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเพื่อสังคม ช่วยน้องหมาให้ได้มีบ้านใหม่ และเข้าถึงจิตใจของผู้บริโภคได้ด้วยการเล่าเรื่องที่เล่นกับ Emotional ของคน
ชวนถอดแนวคิด แคมเปญการตลาด Pedigree – Rebound Dogs
#1 CSR ช่วยน้องหมาได้มีชีวิตใหม่ พร้อมฟื้นฟูจิตใจคน
อ้างอิงข้อมูลจาก The Kennel Club องค์กรในสหราชอาณาจักรที่ทำงานด้านสวัสดิภาพของสุนัข พบว่า 1 ใน 4 ของเจ้าของรายใหม่ยอมรับว่าซื้อลูกสุนัขมาในช่วง Covid-19 โดยที่ยังศึกษาข้อมูลไม่เพียงพอ
อย่าง Pedigree เองก็มีแพลตฟอร์ม Feed The Good ที่มุ่งแก้ปัญหาในเรื่องของสุนัขไร้ที่อยู่กว่า 100,000 ตัวใน UK อย่างเร่งด่วนอยู่ และส่วนใหญ่สิ่งที่แบรนด์ทำก็ไม่ใช่แค่พยายามแก้ปัญหาการหาที่อยู่ใหม่ให้สุนัขจรจัด แต่ยังมีคอนเทนต์ที่คอยให้ความรู้และคำแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังคิดจะซื้อสุนัขไปเลี้ยงอีกด้วย
รวมถึงแคมเปญที่ผ่าน ๆ มาของ Pedigree ก็มักจะแสดงให้เห็นว่าสุนัขช่วยนำพาสิ่งดี ๆ มาให้กับคนเราได้ เช่น แคมเปญ Take A Baby Step Into Parenting ในปี 2020 ที่สนับสนุนให้รับอุปการะสุนัขแทนการมีบุตร หรือ Child Replacement Programme ในปี 2017 ที่ช่วยพ่อแม่หาตัวแทนลูก เมื่อลูกโตและออกจากบ้าน
ก็คือจะเห็นได้เลยว่าแบรนด์ Pedigree ไม่ได้แข่งขันในตลาดอาหารสุนัขด้วยการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ขยายตลาดด้วยการให้ความสำคัญกับไอเดียการสร้างคุณค่าที่มีความหมายให้แก่สังคมมากกว่าค่ะ
ตัวแคมเปญ Rebound Dogs นี้เองก็ถือเป็นอีกส่วนนึง ที่แบรนด์ยังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ค่ะ ในขณะเดียวกันกลับได้ช่วยเหลือคนอีกด้วย ในเรื่องของจิตใจหลังการเลิกรากับคนรักนั่นเอง
#2 Emotional Marketing เชื่อมโยงกับอารมณ์
อีกหนึ่งสิ่งที่ผู้เขียนชอบในแคมเปญนี้คือการที่แบรนด์มองเห็น Pain Point ของคนอกหัก แน่นอนว่าหลาย ๆ คนเวลาที่พึ่งจบความสัมพันธ์ มองไปทางไหนก็ยังคงเห็นเป็นหน้าแฟนเก่า เหมือนในคลิปวิดีโอแคมเปญที่ได้นำมาให้ทุกคนดูกันด้านบนนั่นแหละค่ะ
และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลาย ๆ คนก็ใช้การเลี้ยงสัตว์ เล่นกับสัตว์ หรืออยู่กับสัตว์เลี้ยงนี่แหละในการฮีลใจจากเรื่องแย่ ๆ ในชีวิต ไม่ใช่แค่เรื่องอกหักซะด้วยซ้ำ
เมื่อแบรนด์จับมาเป็นไอเดียในการสื่อสารและถ่ายทอดแคมเปญนี้ออกมา เรียกได้ว่ามีความน่ารักอบอุ่นใจ และเชื่อมโยงกับความรู้สึกของคนได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกว่าเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจและใกล้ชิด มากกว่าแค่การจะขายอาหารสุนัขที่เป็นผลิตภัณฑ์ของตนเพียงอย่างเดียว
ซึ่งก็จะทำให้สามารถเข้าถึงคนจำนวนมากขึ้นได้ และเมื่อคนรับเลี้ยงจริง ๆ ก็จะยิ่งมีความสัมพันธ์หรืออารมณ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้งมากขึ้นด้วยระหว่างสัตว์เลี้ยงกับเจ้าของ ลดโอกาสการเกิดปัญหาสุนัขถูกทอดทิ้งอีก
ทั้งนี้เมื่อช่วยให้สุนัขจรจัดมีบ้านหลังใหม่ ทำให้มีคนเลี้ยงสุนัขมากขึ้น ก็วนกลับมาที่ความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงที่จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยนั่นล่ะค่ะ
#3 Personalized Marketing ผ่าน Microsite
ถ้าพูดถึงยุคสมัยก่อน เรื่องของการรับอุปการะเลี้ยงสัตว์จากสถานสงเคราะห์ อาจจะมีภาพจำการโปรโมทแบบโฆษณาหรือติดป้ายประกาศ หรือเป็นบรรยากาศที่อาจจะดูหดหู่ใจ แต่ในสภาพแวดล้อมอย่างยุคปัจจุบันนี้การที่เราจะสื่อสารเชื่อมโยงไปถึงคนหมู่มาก ล้วนแล้วแต่เป็นรูปแบบดิจิทัลและหันมาใช้เทคโนโลยีกันมากขึ้นแล้ว
อย่างในแคมเปญนี้ก็ใช้การทำ Microsite ที่ออกแบบเป็นแอปหาคู่เข้ามาเชื่อมโยง ซึ่งก็เป็นการหาวิธีการใหม่ ๆ ในการเข้ามาสนับสนุนเรื่องของการรับอุปการะสุนัข โดยเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วยออกแบบแพลตฟอร์มให้มีความหลากหลายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
สิ่งที่ทำให้แคมเปญโดดเด่นอีกอย่าง แน่นอนว่าคือเรื่องของการ Personalized การเก็บข้อมูลของแต่ละเฉพาะบุคคล และประมวลผลการจับคู่ออกมาเป็นสุนัขที่เหมาะสมกับความต้องการของเรา แน่นอนว่าจะช่วยลดอัตราการที่สุนัขจะถูกทอดทิ้ง หรือเรียกว่าเพิ่มโอกาสที่การรับอุปการะครั้งนี้จะยั่งยืนยาวนานขึ้นนั่นเอง
หากแบรนด์สามารถช่วยให้ทั้งคนและน้องหมาพบ Perfect Match ได้ ความสัมพันธ์ที่ตามมาก็จะยาวนานและมีความสุขมากขึ้น และแน่นอนว่าก็จะวนกลับมาเป็นประโยชน์ต่อแบรนด์เช่นกัน ทั้งในเรื่องของความต้องการสินค้าอาหารสุนัขที่มากขึ้นตาม รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการสร้าง Brand Loyalty ต่อไปในระยะยาวอีกด้วย
แคมเปญการตลาด Pedigree ช่วยหาน้องหมาที่ตรงข้ามกับแฟนเก่าคุณ
AI-Generated Image by Shutterstock (Prompt:create photography, woman playing with white dog, looks happy, no deformed face.)
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับในบทความนี้ที่ได้พาทุกคนมาดู แคมเปญการตลาด Pedigree ช่วยหาน้องหมาที่ตรงข้ามกับแฟนเก่าคุณ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแคมเปญ CSR ที่น่ารักแบบมีสีสัน ช่วยทั้งน้องหมาให้มีที่อยู่อาศัย ช่วยทั้งผู้คนให้มีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น รวมถึงฝั่งแบรนด์เองก็จะได้ประโยชน์ตามมาเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ถ้าเราหาจุดยืนของแบรนด์เราให้เจอ มีแนวทางที่ชัดเจน อย่าง Pedigree เองที่ก็ไม่ได้แข่งขันในตลาดอาหารสุนัขด้วยการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด แต่เน้นการให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าที่มีความหมายให้แก่สังคม ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของแบรนด์ที่มีจุดยืนที่โดดเด่นค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วมาเจอกันใหม่ในบทความหน้า ฝากติดตามด้วยนะคะ และทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอนที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter Youtube ได้เลยค่า
Source