รวมถึงผลกระทบจากการเก็บค่าบริการเพิ่มเติมและนโยบายให้ใช้ 1 User ต่อที่อาศัย 1 ที่เท่านั้น ซึ่งกระทบต่อรายได้และความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นช่วงขาลงที่น่าจะจับตามองของแพลตฟอร์มสีแดงเจ้านี้เลยก็ว่าได้ครับ
การทำโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Video Streaming หรือ Video on Demand นี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียวสำหรับนักการตลาด เพราะตัวอย่างที่เราสามารถเห็นได้ทั่วไปก็คือตามแพลตฟอร์มที่อยู่ในชีวิตของเราแทบทุกวันอย่าง Youtube หรือผู้ให้บริการ Video Streaming เจ้าอื่นอย่าง Viu หรือ We TV
โดยเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมต้องการเสพคอนเทนต์ Entertainment ในประเภทของหนังและซีรีส์โดยตรง โดยที่ไม่ต้องเข้าไปในช่องทาง เช่น โรงภาพยนตร์ที่มีต้นทุนในการทำการตลาดสูง หรือหว่านออกไปใน Social Media ที่ไม่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายโฆษณา (Targeting) ได้อย่างชัดเจนมากขนาดนั้น
ผมลองแอบคิดเล่นๆถึงเรื่องของ Genre ในแพลตฟอร์มที่มีการแบ่งแยกประเภทของคอนเทนต์ชัดเจน รวมถึงการจับเก็บข้อมูล (Tracking) และประมวลผลออกมาเป็นการนำเสนอคอนเทนต์ที่ User น่าจะสนใจของแพลตฟอร์ม จะทำให้การทำโฆษณาตรงจุดและตอบโจทย์ได้อย่างน่าสนใจเลยครับ
อย่างไรก็ตามเหรียญมี 2 ด้านเสมอครับ เพราะเมื่อมองในฐานะของ User เราทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่ชอบการโฆษณาด้วยกันทั้งนั้น อาจทำให้จำนวน User ที่ลดลงมากยิ่งกว่าเดิม จากกรณีคิดค่าบริการเพิ่ม และกฎข้อบังคับให้ 1 User ที่ใช้บริการต้องอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน