การตลาด Tops จับมือ Nestle ออกแคมเปญเอาใจสายช็อปรักษ์โลก

ในช่วงที่ผ่านมาทุกคนอาจจะเคยดื่มน้ำแบรนด์ดังอย่างเนสท์เล่ และเห็นรูปศิลปิน T-POP อย่างวง BUS บนฉลากที่ติดอยู่บนขวด นอกจากนี้อาจจะเคยเห็น #NestlePureLifeXBUS บนช่องทางโซเชียลออนไลน์อีกด้วย กลยุทธ์นี้เราเรียกว่า Collaboration Marketing วันนี้ผมจะพาทุกคนไปดูตัวอย่าง การตลาด Tops x Nestle ในแคมเปญ 3RE เอาใจสายช้อปรักษ์โลก

แต่ก่อนที่จะไปดูว่าเเคมเปญการตลาดนี้เป็นอย่างไร ผมขอพาทุกคนไปทำความรู้จัก Collaboration Marketing เบื้องต้นก่อนนะครับ

Collaboration Marketing หรือที่ทุกคนอาจเคยจะได้ยินว่า 2 แบรนด์นี้ Collab กัน มันคือกลยุทธ์การตลาดที่ธุรกิจตกลงจับมือเป็นพันธมิตรกัน (Partneship) เพื่อทำเป้าหมายที่มีร่วมกันให้สำเร็จ เรียกได้ว่าต่างคนต่างได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยเป้าหมายก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจแต่ละฝ่าย

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการที่แบรนด์มีการร่วมมือทำบางสิ่งให้เป็นไปตามเป้าหมายนั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายขององค์กรที่มีร่วมกัน ซึ่งอาจมีดังนี้

ในการทำธุรกิจเรามักจะบอกว่าต้องเลือกกลุ่มเป้าหมาย (Targeting) ให้ชัดเจน ต้องเลือกที่มีศักยภาพที่ธุรกิจจะเข้าไป ซึ่งไม่สามารถเลือกได้ทุกกลุ่ม ดังนั้น การ Collaboration จึงเป็นกลยุทธ์ที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เพราะสามารถดึงผู้บริโภคกลุ่มอื่นที่เป็นลูกค้าของแบรนด์พันธมิตรมาเป็นลูกค้าเราได้ ส่งผลให้ยอดขายเพิ่มตามไปด้วย

แน่นอนว่าบางครั้งแบรนด์อาจจะมีภาพลักษณ์ (Brand Image) ที่ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายในช่วงเวลาหนึ่ง หรือแม่แต่การมีภาพลักษณ์ที่ขาดความน่าเชื่อถือ การร่วมมือเป็นพันธมิตรในการทำแคมเปญอะไรบางอย่างร่วมกัน ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เช่นกัน 

นอกจากนี้ยังสามารถสร้างความสดใหม่ให้กับแบรนด์ (Brand Refresh) เพราะส่วนใหญ่การ Collab มักจะนำพาไปสู่สิ่งใหม่ที่สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับกลุ่มผู้บริโภคได้

การทำงานร่วมกันของแบรนด์สามารถแบ่งปันทรพยากรในการทำแคมเปญการตลาด รวมถึงค่าโฆษณา และการจัดกิจกรรมต่างๆ ส่งผลให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน

การทำงานอย่างใกล้ชิดกับแบรนด์อื่นสามารถทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่มีคุณค่าและโอกาสในการเรียนรู้ ธุรกิจสามารถรับความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับกลยุทธ์การตลาด ความต้องการของลูกค้า และแนวโน้มของอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน

เราก็รู้จักกลยุทธ์ Collaboration Marketing เบื่องต้นพอสังเขปแล้ว ต่อไปเรามาวิเคราะห์การตลาด Tops ที่ร่วมมือกับ Nestle ว่าเขาทำอะไร ทำด้วยวิธีไหน และทำโดยมีเป้าหมายอะไร โดยจะสามารถนำมาปรับใช้ในธุรกิจได้อย่างไร

โดยแคมเปญนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต Tops ที่เป็นแบรนด์ลูก (Subrand) ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กับแบรนด์อาหารและน้ำดื่มอย่าง Nestle โดยทั้งสองแบรนด์ต่างมีเป้าหมายที่สอดคล้องกัน 

ทาง Tops ต้องการบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน โดยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์  (Net Zero) ภายใต้โครงการ “Small to Act” ส่วนทาง Nestle ก็ให้ความสำคัญกับบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ทั้งสองจึงร่วมือกันเป็นพันธมิตรรักษ์โลก 

การตลาด Tops ดึง Nestle Collab ในเเคมเปญ 3RE

มีการจัดกิจกรรมผ่านแคมเปญ 3RE| Rethink, Restart และ Recycle ที่เชิญชวนลูกค้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อพลังเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อโลกใบนี้ ด้วยการรักษ์โลกแบบง่ายๆ คือเมื่อซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์จากเนสท์เล่ที่ร่วมรายการครบ 799 บาท/ใบเสร็จ รับฟรีร่มแฟชั่นรักษ์โลกสุดชิคคอลเลคชัน “เนสท์เล่ x PIPATCHARA” ที่ผลิตจากขวดพลาสติก PET ใช้แล้ว 100% ได้ตั้งแต่วันนี้ – 9 กรกฎาคม 2567 ที่ร้านท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด ทุกสาขา

เป้าหมายของการร่วมมือกันในครั้งนี้

แน่นนอนว่าทั้ง 2 แบรนด์มีเป้าหมายที่สอดคล้องกันอย่างการที่ต้องการจะช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์ในการทำ CSR (Corporate social Responsibility) กลยุทธ์อย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดียิ่งขึ้น และนอกจากการมีเป้าหมายที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ยังมีเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มยอดขาย โดยอาศัยการกำหนดราคาในการซื้อต่อครั้งของผู้บริโภค และสินค้าหรือสิ่งของ Limited Edition 

การตลาด Tops ดึง Nestle Collab ในเเคมเปญ 3RE

ทั้ง 2 แบรนด์ต่างได้ประโยชน์ร่วมกัน Tops ก็มีคนเข้าร้านเพิ่มขึ้น ส่วน Nestle ก็มีคนมาซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของแบรนด์เพิ่มมากขึ้น สุดท้ายยอดขายของทั้งคู่ เรียกได้ว่า win-win กันทั้งสองฝ่าย

ทำไม Tops ถึงต้องจับมือกับ Nestle

ด้วยเป้าหมายที่สอดคล้องกัน อีกทั้งยังมีภาพลักษณ์ที่ดี แต่หากมองลึกลงไปจะพบว่า ทั้ง 2 แบรนด์อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกัน คืออุตสาหกรรมร้านค้าปลีกอย่างร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต และอุตสาหกรรมอาหารกับน้ำดื่ม ซึ่งก็ไปสนับสนุนเป้าหมายของทั้งสองแบรนด์ที่พูดไว้ข้างต้น

การตลาด Tops ดึง Nestle Collab ในเเคมเปญ 3RE

หากสามารถเลือกคู่พันธมิตร (Partnership) ที่ดีได้ก็จะสามารถทำให้แบรนด์บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้เช่นกัน ดังนั้นการเลือกคู่พันธมิตรจะต้องพิจารณาหลายองค์ประกอบ เช่น เป้าหมาย ภาพลักษณ์ ความเป็นไปได้ในการเติบโตร่วมกัน เป็นต้น

แคมเปญวัดผลได้หรือไม่

การตลาด Tops ดึง Nestle Collab ในเเคมเปญ 3RE

จากการที่ทั้ง 2 แบรนด์ร่วมมือกัน จะเห็นว่ามีการกำหนดกรอบเวลาของแคมเปญที่ชัดเจน และต้องมีการกำหนดงบประมาณไว้ เพื่อให้สามารถอย่างวัดผลได้ ซึ่งก็มาจากเป้าหมายในด้านของจำนวนคนที่เข้ามาซื้อสินค้า หรือจำนวนยอดขายที่เพิ่มขึ้น ในช่วงเวลาที่กำหนด 

สรุป

เราจะเห็นเลยว่าวิธีการทำ การตลาด Tops ที่อาศัยเครื่องมืออย่าง Collaboration Marketing ต้องมีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกันในทุกขั้นตอน เพื่อที่จะได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ธุรกิจตั้งไว้

การทำ Collaboration Marketing เป็นอีกหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่เหมาะสมมากที่จะเลือกมาใช้ในปัจจุบัน ด้วยสภาพแวดล้อมการแข่งขันของธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่สูงขึ้น การจะเป็นแบรนด์ยืนหนึ่ง ที่หมายความว่ายืนคนเดียว อาจจะไม่รอดในสมรภูมินี้

และการหาพันธมิตรก็ใช่ว่าจะเลือกใครมาก็ได้ ต้องพิจารณาถึงองค์ประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เป้าเหมายของธุรกิจมีทิศทางเดียวกันไหม ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เลือกตรงตามที่ต้องการหรือไม่ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจเดินไปตามเป้าหมายได้สำเร็จ

Source, Source

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Collaboration Marketing ได้ที่นี่

Marketing Content Creator and Data Insight Researcher

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *