กลยุทธ์ Samsung ยกระดับความเป็นอยู่ภายในบ้าน ด้วยแนวคิด AI Home

ทุกวันนี้แบรนด์ต่าง ๆ ได้พยายามนำ AI เข้ามาใส่ในผลิตภัณฑ์ของตัวเองครับ หนึ่งเลยคือช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าด้วยฟังก์ชั่นใหม่ ๆ สองคือช่วยให้แบรนด์ได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด มีแบรนด์ที่เราเห็นได้ชัดในด้านการนำ AI เข้ามาปรับใช้ก็คือ Samsung ครับ นอกจากจะใส่ AI ใน smartphone แล้ว ยังพยายามที่จะเพิ่มในเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ด้วย บทความนี้เราจะวิเคราะห์ กลยุทธ์ Samsung โดยเน้นไปที่การพัฒนา Product ด้วยการผสานเทคโนโลยีAI ครับ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จากแนวคิด AI Home จาก Samsung กันก่อนครับ

ในสมัยก่อน เวลาที่เรากลับถึงบ้านก็ต้องมาเปิดไฟ เปิดแอร์ เปิดทีวี แล้วก็ต้องปิดทุกอย่างก่อนออกจากบ้านใช่ไหมครับ Samsung ต้องการที่จะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของผู้อาศัยภายในบ้านจึงได้นำเสนอแนวคิด “AI Home” ที่ช่วยให้เราสั่งงานอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้านได้ง่าย ๆ ด้วยโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียว หรือสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Bixby

Samsung Bespoke “AI Home” ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

  • การควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้า เราสามารถควบคุมการเปิด-ปิดไฟตามการสั่งงานของผู้อยู่อาศัย หรือเปิดไฟอัตโนมัติเมื่อมีการเคลื่อนไหว
  • เครื่องปรับอากาศ ปรับอุณหภูมิภายในบ้านให้เหมาะสมกับสภาพอากาศภายนอกและความชอบของผู้อยู่อาศัย
  • ระบบรักษาความปลอดภัย ใช้ AI ทำงานร่วมกับกล้องวงจรปิดและระบบล็อกอัตโนมัติ เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมปกติของผู้อยู่อาศัย และแจ้งเตือนเมื่อพบความผิดปกติ
  • การสั่งงานด้วยเสียง ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสั่งงานอุปกรณ์ต่าง ๆ ในบ้านผ่านคำสั่งเสียง เช่น การเปิดเพลง หรือ ปิดไฟ

การนำ AI มาใช้ในบ้านอัจฉริยะไม่เพียงเพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังช่วยในเรื่องการประหยัดพลังงาน รวมถึงเพิ่มความปลอดภัยภายในบ้านอีกด้วยครับ ทำให้การจัดการภายในบ้านเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วยครับ

จะเห็นได้เลยว่าว่า Samsung ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผสานนวัตกรรม AI เพื่อแข่งขันในตลาด ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน เครื่องใช้ไฟฟ้าจาก Samsung ในครั้งนี้ในรุ่น Bespoke ที่มาพร้อมนวัตกรรม AI ประกอบไปด้วยตัวตู้เย็น เครื่องซักผ้า และ เตาอบติดผนัง Bespoke ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ช่วยให้เรา minotor การทำงานได้ง่ายขึ้น มีรายละเอียดดังนี้ครับ

#ตู้เย็น Bespoke พร้อมจอ AI Home

Samsung ได้เปิดตัวตู้เย็น Bespoke ที่มาพร้อมหน้าจอ AI Home พร้อมรองรับการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Bixbyme ขนาด 9 นิ้ว ต่อยอดความสามารถของตู้เย็น Family Hub ขนาด 21.5 นิ้ว และ 32 นิ้ว นอกจากนี้ยังมี ฟีเจอร์ Map View สามารถควบคุมอุปกรณ์ได้บนหน้าจอเดียว

#เครื่องซักผ้า Bespoke AI Laundry Combo

กลยุทธ์ Samsung

Sasmsung ได้เพิ่ม Bespoke AI ช่วยให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วยเมนูที่เข้าใจง่าย พร้อมการอัปเดตสถานะการซักแบบ Real time และ รวมถึงฟีเจอร์ Map View เหมือนกับตู้เย็นในรุ่นก่อนหน้า

#เตาอบติดผนังรุ่นใหม่ Bespoke Wall Oven

กลยุทธ์ Samsung

Bespoke Wall Oven ได้รับการอัปเดตให้เป็นหน้าจอ AI Home ขนาด 7 นิ้ว จากเดิมที่เป็นหน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว  ระบบ Smart Forward แบบออนไลน์ (OTN) พัฒนาให้สามารถเพิ่มสูตรอาหารที่ใช้บ่อยได้สูงสุด 50 สูตร ด้วยฟีเจอร์ Customized Cook

เห็นได้เลยว่า Samsung ได้ใส่ใจในการพัฒนานวัตกรรม AI ให้กับ Product ของตัวเองมาก ๆ และพยามทำให้การ Monitor นั้นง่ายขึ้น สามารถสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งบ้านได้ด้วยโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียวจบได้แบบ All in one เลยนะครับ แล้วทุกคนสงสัยกันไหมครับว่าทำยังไงให้Product Development ของแบรนด์เราได้ผล เดี๋ยวเราจะมาหาคำตอบกันในพาร์ทต่อไปครับ

ขอบคุณรูปภาพจาก Samsung Newsroom

# เพิ่ม Product Value ด้วยการผสานเทคโนโลยี AI

การผสาน AI เข้ากับผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยให้ Samsung สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยแนวคิด AI Home ถึงแม้ว่า Samsung จะไม่ใช่เพียงเจ้าเดียวในตลาดที่นำ AI มาพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ก็ต้องบอกว่า Samsung ก็ได้พยามที่จะต่อยอด เพราะมีเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญอยู่แล้วจาก ตลาด smartphone ซึ่งถ้าทำก่อนและทำได้ดี ก็จะสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมนั่นเองครับ

# Differentiation สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

Samsung สร้างความแตกต่างคู่แข่งด้วยระบบสั่งการด้วยเสียงอย่าง Bixby เพราะว่าผู้บริโภคยุคใหม่มองหาเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกและใช้งานง่าย ดังนั้นการนำ AI มาช่วยให้สามารถจัดการภายในบ้านได้สะดวกและช่วยให้ประหยัดเวลา จึงตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ Meeting Modern Consumer Needs ได้เป็นอย่างดีสร้างความได้เปรียบก่อนที่คู่แข่งจะตามทัน

ก่อนที่เราจะสรุปทิ้งท้ายกัน ผู้เขียนจะพามาวิเคราะห์กลยุทธ์ พัฒนา Product ให้ตอบโจทย์ลูกค้าเหมือน Samsung ครับ ส่วนตัวผมมองว่ามีอยู่ 2 เรื่องหลัก ๆ ก็คือ เพิ่มจุดแข็ง และ ลดจุดอ่อนตัวเอง และ Sustainability เพราะในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นอาจจะไม่ได้มีแค่ในเรื่อง AI อย่างเดียวที่สำคัญ แต่ Sustainability ที่ให้ความสำคัญในเรื่องการประหยัดพลังงาน (ค่าไฟ) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมก็สำคัญไม่แพ้กันครับ

กลยุทธ์ Samsung
ขอขอบคุณรูปภาพจาก Samsung.com

1. Samsung เพิ่มจุดแข็ง และ ลดจุดอ่อนตัวเอง

ต้องบอกว่า Samsung รู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเองเป็นอย่างดี สังเกตได้จากการพัฒนา Ecosystem ที่อุปกรณ์หลายชิ้นสามารถเชื่อมโยงกันได้ ที่เป็นจุดแข็งของ Samsung ในตลาด Smartphone ซึ่งก็ได้นำมาปรับใช้ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี

2.ลูกค้าในอนาคตจะมองหา Sustainability

Samsung ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการใช้พลังงานอย่าง เทคโนโลยีที่ประหยัดไฟ หรือ การใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถรีไซเคิลได้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาวะโลกร้อนแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้าได้มีผลิตภัณฑ์ใช้โดยไม่ต้องกลัวว่าค่าไฟจะพุ่ง

สรุป กลยุทธ์ Samsung ยกระดับความเป็นอยู่ภายในบ้าน ด้วยแนวคิด AI Home

เราได้วิเคราะห์ กลยุทธ์ Samsung โดยเน้นไปที่การพัฒนา Product พบว่า Samsung ที่เน้นการพัฒนาฟีเจอร์ “AI Home” ที่ผสานเทคโนโลยี AI ใส่ลงไปในเครื่องใช้ไฟฟ้า ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้า และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าที่มีต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าในยุคปัจจุบัน

ในบทความนี้เราได้เรียนรู้การที่ Samsung ได้ใช้การเพิ่ม Product value และ Diffrentiation นำจุดแข็งในด้าน AI ที่เชี่ยวชาญอยู่แล้ว มาพัฒนาต่อยอดในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ลดจำนวนผู้แข่งขันในตลาด รวมทั้งตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความสะดวกสบาย Samsung จึงได้เลือกที่พัฒนาผลิตภัณฑ์มาเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

สำหรับใครที่สนใจอ่านบทความอื่นๆ หรือ ต้องการอัปเดตความรู้การตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ เพจการตลาดวันละตอน และช่องทาง Twitter Instagram YouTube  ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่

ชื่ออู๋นะครับ เป็นน้องฝึกงาน Marketing Content Creator ของการตลาดวันละตอน จะตั้งใจเขียนบทความดี ๆ ให้กับทุกนะครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *