Häfele x 4 Luxury Brands ยกระดับเป็น Kitchen Solution ระดับไฮเอนด์

ถ้าพูดถึงห้องครัว หลายคนอาจนึกถึงแค่พื้นที่ทำอาหาร ขอแค่มีเตา ซิงก์ ตู้เย็นก็พอแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว ครัวเป็นมากกว่านั้นค่ะ เพราะสำหรับบางคน ครัวไม่ได้มีไว้แค่ทำอาหาร แต่มันคือพื้นที่ที่สะท้อนรสนิยม ไลฟ์สไตล์ และคนไทยให้ความสำคัญกับการใช้พื้นที่ในครัว

ลองคิดดูนะคะ คนที่งานยุ่งแทบไม่มีเวลากินข้าว ส่วนใหญ่มักเลือกสั่งเดลิเวอรี่เพราะสะดวกกว่า แต่สำหรับบางคน การทำอาหารไม่ใช่แค่เรื่องของความจำเป็น แต่มันคือ ช่วงเวลาแห่งความสุข ที่เขาเลือกได้เอง พวกเขามีทั้งเงิน เวลา และความใส่ใจในรายละเอียดมากพอที่จะเลือกของที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ หรือแม้แต่เครื่องครัวที่ใช้งาน

เฮเฟเล่มองเห็นจุดนี้ชัดเจนค่ะ พวกเขาไม่ได้แค่ขายอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว แต่ยังนำเสนอโซลูชันและการบริการที่ครอบคลุมเรื่องครัว โดยเลือกพาร์ทเนอร์คุณภาพระดับโลกมาร่วมสร้างครัวที่สมบูรณ์แบบทั้งเรื่องดีไซน์ ฟังก์ชัน และนวัตกรรม เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของคนไทย ด้วยการร่วมมือกับแบรนด์พันธมิตร 4 แบรนด์ระดับพรีเมียมจากยุโรป ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเฮเฟเล่ในการนำเสนอโซลูชันนวัตกรรมล้ำสมัยและคุณภาพสูง

ถ้าพูดถึงเฮเฟเล่หลายคนอาจนึกถึงอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ใช่ไหมคะ แต่จริง ๆ แล้วแบรนด์นี้ยิ่งใหญ่กว่านั้นค่ะ เพราะแบรนด์นี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1923 และสำหรับ เฮเฟเล่ ประเทศไทย ก่อตั้งมากว่า 30 ปี เรียกได้ว่าเป็นผู้นำด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว สุขภัณฑ์ ประตูล็อคดิจิทัล รวมถึงระบบไฟส่องสว่าง ที่นักออกแบบ สถาปนิก นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเจ้าของบ้านให้ความไว้วางใจเลือกใช้

จุดแข็งของเฮเฟเล่ คือไม่ได้แค่ขายของ แต่ขาย “โซลูชัน” ที่ช่วยเติมเต็มการอยู่อาศัยที่มาพร้อมกับนวัตกรรม คุณภาพ และมีฟังก์ชันที่ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์ ทำให้เฮเฟเล่เป็นพาร์ทเนอร์ของคนที่ต้องการให้บ้านและอาคารสมบูรณ์แบบค่ะ

ภายใต้แนวคิด “Maximizing the Value of Space. Together.” ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยอย่างชาญฉลาด เพื่อส่งมอบโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุก ๆ พื้นที่ของการอยู่อาศัยอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยฟังก์ชันครบครัน และออกแบบอย่างมีสไตล์ การจับมือกับ 4 Luxury Brandsจากยุโรป ที่เชี่ยวชาญในแต่ละหมวดหมู่ของห้องครัว ทำให้แค่เห็นชื่อแบรนด์ก็รับรู้ได้เลยว่าครบเครื่องเรื่องครัวระดับไฮเอนด์ ไม่ว่าจะเป็น…

  1. Bertazzoni (อิตาลี) – เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวที่ผสมผสานวิศวกรรมเข้ากับดีไซน์เหนือกาลเวลา
  2. Blanco (เยอรมนี) – อ่างล้างจานและก๊อกน้ำคุณภาพสูงที่ทนทานและตกแต่งเข้ากับบ้านทุกรูปแบบ
  3. Hawa Sliding Solutions (สวิตเซอร์แลนด์) – ระบบประตูบานเลื่อนที่ช่วยออกแบบพื้นที่ได้ยืดหยุ่นขึ้น
  4. Liebherr (เยอรมนี) – เทคโนโลยีทำความเย็นที่ผสานสไตล์ ฟังก์ชัน และเทคโนโลยี ระดับมืออาชีพ

เมื่อ 4 แบรนด์นี้รวมกัน จึงกลายเป็นโซลูชันครัวระดับไฮเอนด์ที่ครบวงจร ภายใต้กลยุทธ์ความร่วมมือระหว่างเฮเฟเล่และพาร์ทเนอร์ระดับพรีเมียมค่ะ ไม่ว่าคุณจะต้องการเตาอบที่สวยล้ำสมัย อ่างล้างจานและก๊อกน้ำคุณภาพสูง ระบบประตูบานเลื่อนสำหรับตู้เก็บของที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย หรือแม้แต่ตู้เย็นบิ้วอินพรีเมียมที่ควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ

เฮเฟเล่เป็นผู้จำหน่ายเพียงผู้เดียวของทั้ง 4 พันธมิตร ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยมาตรฐานที่ผสานคุณภาพ (Quality) ดีไซน์เหนือระดับ (Design) และนวัตกรรมล้ำสมัย (Innovation) ให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ได้อย่างลงตัว

Mr. John Clare, Managing Director of HÄFELE (Thailand) Co., Ltd. and Regional Director South / South East Asia (RSA)

เฮเฟเล่ไม่ได้แค่เปิดตัวสินค้าใหม่ แต่กำลังปรับเกมการตลาด ให้แข็งแกร่งขึ้นในตลาดครัวระดับพรีเมียมค่ะ พวกเขานำเสนอ “Kitchen Solution” ที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องดีไซน์ เทคโนโลยี และคุณภาพ

สิ่งที่ทำให้กลยุทธ์ความร่วมมือนี้น่าสนใจคือ แนวคิดการขายผ่านประสบการณ์จริง และที่ผู้เขียนมองว่าน่าสนใจมาก ๆ คือ กลยุทธ์การเข้าถึงตลาดแบบ B2B2C ซึ่งช่วยให้เฮเฟเล่เข้าถึงลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์ได้ตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่แค่ผ่านช่องทางปลีกทั่วไปค่ะ

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองดู 2 กลยุทธ์หลักที่ Häfele ใช้ในการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งกันค่ะ

เฮเฟเล่ไม่ได้แค่ขายสินค้าเป็นชิ้น ๆ แต่พวกเขาสร้างพื้นที่การแสดงสินค้าที่ให้ลูกค้าได้สัมผัสผลิตภัณฑ์จริงแบบครบวงจร โดยภายใน Häfele Design Studio Bangkok มีการเซ็ตอัปห้องครัวตัวอย่างที่แสดงฟังก์ชันของแต่ละแบรนด์พาร์ทเนอร์ไว้อย่างสวยงาม สมจริง และยังเป็นแรงบันดาลใจสำหรับการออกแบบ ที่พร้อมเปิดให้บริการแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม

กลยุทธ์การตลาด Häfele

จากที่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง ผู้เขียนมองว่าประสบการณ์ที่เฮเฟเล่สร้างขึ้นทำได้ดีมากค่ะ ลูกค้าที่มาเยี่ยมชมสามารถสำรวจและสัมผัสฟังก์ชัน เช่น เตาอบจาก Bertazzoni, อ่างล้างจานจาก Blanco, ระบบประตูบานเลื่อนของ Hawa และตู้เย็นพรีเมียมจาก Liebherr ได้จริง ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า ครัวระดับไฮเอนด์ควรเป็นอย่างไร ทั้งในแง่ของดีไซน์ ฟังก์ชัน และคุณภาพของวัสดุ ก่อนตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองค่ะ

เฮเฟเล่ให้ความสำคัญกับเรื่องบริการที่เป็นเลิศ มีผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาในการสร้างครัวที่สมบูรณ์แบบ ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย เพราะลูกค้าไม่ได้ซื้อแค่ฟังก์ชันของสินค้า แต่กำลังเลือกครัวที่เข้ากับพื้นที่และไลฟ์สไตล์การใช้งานของตัวเอง

เฮเฟเล่เข้าใจดีว่าการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในตลาด คือการมองหาโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอสังหาฯ และการออกแบบ เพื่อให้สินค้ากลายเป็นมาตรฐานที่ลูกค้าไว้วางใจ และนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ

AI image generated by Shutterstock (Prompt : A beautifully framed cinematic scene of a luxurious high-end kitchen in a premium condominium. A resident stands at the sleek sink, carefully rinsing fresh greens as soft, warm lighting enhances the rich textures of the space. The kitchen is fitted with cutting-edge built-in appliances, including a seamlessly integrated refrigerator and a modern oven, blending effortlessly into the stylish cabinetry. The shot captures an elegant balance between functionality and luxury, evoking a refined, welcoming ambiance.)

พวกเขาจึงใช้กลยุทธ์ B2B2C (Business-to-Business-to-Consumer) โดยร่วมมือกับ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรมหรู และโครงการเชิงพาณิชย์ระดับพรีเมียม การที่เฮเฟเล่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในโครงการเหล่านี้ ทำให้เห็นว่าแบรนด์ได้รับการยอมรับด้าน “มาตรฐาน” ของครัวระดับไฮเอนด์ จากกลุ่มลูกค้าได้โดยไม่ต้องขายตรง ซึ่งสามารถช่วยสร้าง Brand Awareness และ Brand Loyalty อย่างเป็นธรรมชาติค่ะ

นอกจาก 2 แนวทางหลักที่ช่วยให้เฮเฟเล่เจาะตลาดครัวไฮเอนด์แล้ว ผู้เขียนยังมองว่ามีอีก 3 กลยุทธ์ที่ทำให้แบรนด์แข็งแกร่งขึ้นและแตกต่างจากคู่แข่ง 

เฮเฟเล่เข้าใจดีว่ากลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียม ไม่ได้มองหาแค่สินค้าคุณภาพดีที่สุด แต่พวกเขาให้ความสำคัญกับเรื่องราวและประสบการณ์ที่มาพร้อมกับสินค้าด้วย

กลยุทธ์การตลาด Häfele

แบรนด์ที่เฮเฟเล่ดึงเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ ล้วนเป็นแบรนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีจุดยืนชัดเจนค่ะ เช่น Bertazzoni ที่เป็นเครื่องครัวจากอิตาลีที่มีมานานกว่า 140 ปี หรือ Blanco  ที่เป็นผู้นำด้านอ่างล้างจานและก๊อกน้ำคุณภาพสูงจากเยอรมนี ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2468 เพราะฉะนั้น ลูกค้าไม่ได้แค่ซื้อเครื่องครัว แต่กำลังซื้อประสบการณ์ระดับ Luxury “ที่หาไม่ได้จากที่ไหนก็ได้”

เฮเฟเล่มีสินค้าที่หลากหลายและตอบโจทย์ลูกค้าในทุกกลุ่ม ซึ่งแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการคิดและคัดสรรมาอย่างดี เพื่อนำเสนอให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ด้วยมาตรฐานเรื่องคุณภาพ นวัตกรรม ฟังก์ชัน และดีไซน์ รวมถึงการส่งมอบประสบการณ์ที่มีค่าให้แก่ลูกค้า ซึ่งสำหรับลูกค้าระดับไฮเอนด์ พวกเขาต้องการผลิตภัณฑ์ที่ “ออกแบบมาอย่างดี ใช้งานได้จริง และยังช่วยเสริมไลฟ์สไตล์” ของเขาอีกด้วย

ดังนั้นเฮเฟเล่จึงสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มนี้ในแบบที่แตกต่างออกไป ตั้งแต่การร่วมมือกับ 4 Luxury Brands ไปจนถึงการโฟกัสนวัตกรรมที่มาพร้อมดีไซน์ ความโดดเด่น และความสามารถในการเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของพวกเขา

เฮเฟเล่และพาร์ทเนอร์ให้ความสำคัญกับ นวัตกรรมที่ช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้การใช้ชีวิตสะดวกขึ้นและลดผลกระทบต่อธรรมชาติ โดยนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ Smart & Sustainable Living เช่น เตาอบอัจฉริยะจาก Bertazzoni, อ่างล้างจาน Silgranit จาก Blanco ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล, ระบบไหลเวียนอากาศ จาก Hawa และตู้เย็น Liebherr ที่ควบคุมได้ผ่านแอป เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ชาญฉลาด ยั่งยืน และสะดวกสบายในระยะยาวค่ะ

ที่มา Blanco

สิ่งที่ผู้เขียนมองว่าน่าสนใจมาก ๆ คือการที่เฮเฟเล่ไม่ได้พยายามขายของแบบโจ่งแจ้ง แต่เลือกที่จะเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแบบแนบเนียน ผ่านโครงการอสังหาฯ และที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ที่กลุ่มเป้าหมายได้สัมผัสจริงในชีวิตประจำวันค่ะ

ลองคิดนะคะว่า ถ้าคุณซื้อคอนโดหรือเข้าพักในโรงแรมหรู แล้วเจออุปกรณ์ครัวของ Häfele อยู่รอบตัว ใช้จริง เห็นจริง สัมผัสคุณภาพได้จริง เมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกของเข้าบ้าน Häfele ก็จะเป็นแบรนด์แรกที่นึกถึงโดยอัตโนมัติ โดยที่เขาแทบไม่ต้องเสียเงินไปขึ้นบิลบอร์ดหรือยิงโฆษณาให้เปลืองเลยค่ะ

อีกจุดที่ Häfele ทำได้ดีคือ การเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มลูกค้า สำหรับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ เฮเฟเล่ยกระดับตัวเองให้เป็น “The Luxury Kitchen Solution” อย่างเต็มตัวและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบถูกจุด เมื่อเลือกแล้วว่าจะลักซ์ชัวรี่ ก็ลักซ์ให้สุด!

สุดท้ายนี้ ผู้เขียนอยากให้ลองสังเกตกันดูค่ะ ที่ที่คุณอยู่ มีโลโก้ Häfele อยู่ตรงไหนบ้าง? อาจจะอยู่ที่เตาไฟฟ้า ตู้เย็น หรือแม้แต่ที่บานพับประตูในโครงการสุดหรูก็ได้นะคะ และนี่แหละค่ะ คือ พลังของแบรนด์ที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้าแบบแนบเนียน แต่ได้ผลจริง แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :0) 

อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

โอปอ Marketing Content Creator ของการตลาดวันละตอน ⋆˚✿˖° ดีใจที่ได้แชร์เรื่องราวกับทุกคนค่ะ อย่าลืมยิ้มให้ตัวเองทุกวัน และฝากติดตามบทความต่อไปด้วยนะคะ ( 。•ㅅ•。)~✧

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *