โดยแคมเปญที่จะนำมาแชร์มีชื่อว่า Who is King ขิงความเป็นคิงกันระหว่างแบรนด์สองแบรนด์!
ที่มาที่ไปของแคมเปญ: ศึก ‘แซะ’ ที่นัวกันไปกันมา
ต้องเท้าความไปก่อนค่ะว่า ระหว่างสองแบรนด์นี้ Burger King และ Mcdonald’s มีการจิกกัดแซะกันไปมาอยู่ตลอด ซึ่งต้องย้อนความไปก่อนที่จะมีแคมเปญ Who is King ออกมา ฝั่งน้ำเงินอย่าง Burger King ได้ออกหมัดฮุกใส่ ฝั่งแดงอย่าง Mcdonald’s ทำให้ Mcdonald’s ต้องออกมาจัดการ โดยสิ่งที่พวกเขานิยมนำมาฮุกใส่กันก็คือ ‘ข้อด้อย’ ‘ข้อเสียเปรียบ’ ของฝั่งตรงข้ามเอามาจับเป็นประเด็น
ศึกนี้ดูเหมือนจะจบ Burger King เหมือนเจอทางดันจะแก้ปัญหายังไงดี…แต่นั่นก็ยังไม่จบ เพราะความพีคอยู่ตรงที่หลังจากนั้นอีกไม่นาน Burger King ก็ลุกขึ้นมาเอาคืนด้วยคลิปโฆษณากลับบ้าง ทำเป็นแคมเปญที่มีชื่อว่า Who is King ด้วยการสร้างเนื้อเรื่องต่อเนื่องจากโฆษณา Mcdonald’s มันซะเลย ดำเนินเรื่องคล้ายกับโฆษณาของ Mc แทบทุกอย่าง
โดยในคลิปจะมีรถลูกค้าขับเข้ามาที่ไดร์ฟทรูของแมคโดนัลด์ แต่แทนที่เขาจะสั่งอาหาร เขากลับแค่แวะสั่งกาแฟเพื่อขับต่อไปยังร้าน Burger King ที่อยู่ไกลไปอีก 200 กว่ากิโลฯ พร้อมการปิดท้ายแบบแสบๆ
“Thank you Mcdonald’s for being everywhere”
เรียกได้ว่าคนละหมัด ซัดกันคนละทีจริง ๆ ค่ะ ปัญหาที่ดูเหมือนจะถึงทางตันแก้ไข เอาคืนไม่ได้ Burger King กลับเอาคืนได้อย่างเจ็บแสบไม่น้อยหน้ากันเลยจริง ๆ
สรุป การตลาด Burger King แก้ปัญหาแบบเรียลไทม์ ขิงความเป็นคิงกับ Mcdonald’s
Shutterstock image generated prompt: Kings of burger fighting, flag in the background, on the flag there is a burger symbol
Burger King แสดงให้เราเห็นแล้วว่าทุกปัญหามีทางออก จะซ้ายจะขวาก็ออกได้ ถ้าหาไม่ได้ก็ต้องเอาสักทางให้ออกได้ เอาจริง ๆ ข้อด้อยเรื่องสาขาน้อย นี่เป็นอะไรที่ดูเถียงและกอบกู้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้ยาก แต่ Burger King กลับพลิกแพลง ใช้ความ Creative เอาชนะศึกในครั้งนี้มาได้
ใบเตย หรือเรียกว่าเตยก็ได้ค่ะ ทำ Data Research Insight เป็นอาชีพเสริม อาชีพหลักเลี้ยงแมว ทุกบทความเขียนออกมาด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจเพื่อหาเงินเลี้ยงแมวค่ะ😺🫶🏻