หลายคนอาจจะเคยได้ยิน End-to-End Marketing หรือ การตลาดแบบครบวงจรกันมาบ้าง วันนี้ปลื้มจะพาทุกคนมาทำความรู้จักการตลาดดังกล่าวแบบละเอียดๆ เพราะมันมีความสำคัญอย่างมากสำหรับในการทำธุรกิจและการตลาดปัจจุบัน ที่ต้องการปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ กับการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นนั่นเองค่ะ
End-to-End Marketing คือ
End-to-End Marketing คือ กลยุทธ์ตลาดที่เน้นการควบคุมทุกขั้นตอนของการขายสินค้าและการตลาด ตั้งแต่เริ่มจนจบ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ตลาด การวางแผนกลยุทธ์ การผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การกำหนดราคา การทำการตลาดผ่านสื่อต่างๆ การกระตุ้นยอดขาย และการบริการหลังการขาย เป็นต้น
การตลาดดังกล่าวจะมีความสำคัญในยุคปัจจุบัน เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการที่สูงขึ้นในการรับบริการที่มีคุณภาพและรวดเร็ว ดังนั้นแบรนด์จะต้องคำนึงถึงทุกขั้นตอนของการตลาด เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้การตลาด End-to-End จะช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการทุกขั้นตอนของกระบวนการตลาดได้โดยเป็นระบบและสอดคล้องกับกลยุทธ์การตลาดที่กำหนดไว้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตและพัฒนาได้อย่างรวดเร็วอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้บริโภคพึงพอใจในผลิตภัณฑ์และบริการของแบรนด์ค่ะ
นอกจากนั้น มันยังช่วยให้แบรนด์สามารถปรับแผนกลยุทธ์การตลาดได้อย่างรวดเร็ว แบรนด์เก็บข้อมูลลูกค้าได้มากขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีและโปรแกรมที่มีอยู่แล้วเช่น CRM ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าได้ง่ายขึ้น
วิธีการทำการตลาด End-to-End
สำหรับการทำEnd-to-End Marketingจะขึ้นอยู่กับธุรกิจและวัตถุประสงค์ของการทำการตลาด เนื่องจากวิธีการทำ การตลาดดังกล่าวจะมีความแตกต่างกันตามการใช้งาน แต่ก็จะมีขั้นตอนหลักๆ ดังนี้ค่ะ
1.วางแผนกลยุทธ์การตลาด
เริ่มต้นด้วยการวางแผนกลยุทธ์การตลาด เพื่อให้เราสามารถก้าวไปสู่จุดหมายตามเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง ในขั้นตอนนี้เราจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์การตลาด กำหนดกลุ่มเป้าหมาย เน้นไปที่ลักษณะของผู้บริโภค เช่น อายุ หรือเพศ วิเคราะห์ตลาดและวิเคราะห์คู่แข่ง ที่สอดคล้องกับธุรกิจของเราค่ะ
2. การสร้าง Branding
เราจะต้องการกำหนดตัวตน เอกลักษณ์ และวางตำแหน่งของธุรกิจ เพื่อสร้างจุดขายและสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้าได้ ในขั้นตอนนี้จะต้องกำหนดความแตกต่างของแบรนด์ กำหนดชื่อแบรนด์และโลโก้ การเลือกใช้คำโฆษณา รวมถึง CI ของแบรนด์ด้วยค่ะ
3. วิเคราะห์ช่องทาง ทางการตลาด
ในขั้นตอนนี้จะต้องวิเคราะห์ช่องทาง ทางการตลาด ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของเรา เช่น การโฆษณาทางโทรทัศน์หรือวิทยุ การทำโฆษณาเว็บไซต์ออนไลน์ บนโซเชียล การจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้นค่ะ และหลังจากที่เราเลือกช่องทางที่เหมาะสมเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำในสู่การดำเนินการตลาด ซึ่งเป็นการออกแบบและจัดทำตามแผนที่วางไว้
4. Content Creation
การสร้างคอนเทนต์ที่เหมาะสมและน่าสนใจต่อกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจของเรา โดยใช้เทคนิคการตลาดที่เหมาะสมกับช่องทางการตลาดที่เราเลือกไว้ ตัวอย่างเช่น สร้างบทความบนเว็บไซต์/บล็อก สร้างวิดีโอ /รูปภาพ บนช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือทำสื่อ OOH ฯลฯ
5. การประเมินผล และ Improvement
เมื่อการตลาดที่เราวางไว้ได้ถูกดำเนินการ ในขั้นตอนนี้เราจะต้องวัดผล วิเคราะห์ และปรับปรุงการตลาดในอนาคต ซึ่งการวิเคราะห์ผลการตลาดในขั้นตอนนี้จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ผลการตลาดของเราได้ว่ามีประสิทธิภาพหรือไม่ และจะช่วยปรับปรุงแผนกลยุทธ์การตลาดของเราให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อๆ ไปค่ะ
ประโยชน์ของการใช้การตลาด End-to-End
- การปรับปรุงประสิทธิภาพการตลาด : คือช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าและตลาด เพื่อให้ผลการตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การลดต้นทุน : การใช้ End-to-End Marketing ช่วยลดต้นทุนในการตลาด เพราะสามารถลดการใช้ทรัพยากรและบุคคลในการจัดการกลยุทธ์การตลาดได้ค่ะ
- การเพิ่มยอดขาย : ช่วยเพิ่มยอดขายโดยการปรับแต่งการตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าและตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการได้นั่นเอง
- การสร้างภาพลักษณ์และผลิตภัณฑ์ที่ดี : ช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้กับธุรกิจ และผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าคู่แข่ง โดยการใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงสินค้าและบริการให้ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้า
- การบริหารจัดการทรัพยากร : ช่วยให้ธุรกิจบริหารจัดการทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ได้ดียิ่งขึ้น เพราะสามารถใช้ข้อมูลลูกค้าในการวิเคราะห์และวางแผนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากรต่างๆ เช่น การจัดการคลังสินค้า เป็นต้น
ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้การตลาด End-to-End
ปลื้มขอตัวอย่างธุรกิจที่ใช้End-to-End Marketing อย่าง Amazon ซึ่งเป็นบริษัท E-Commerce ที่ใช้กลยุทธ์การตลาดที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของการขายสินค้าออนไลน์ ตั้งแต่การวิจัยตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การใช้เทคโนโลยี AI เพื่อแนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับความต้องการ และประวัติการสั่งซื้อของลูกค้า
รวมถึง การส่งเสริมการขายเพื่อเพิ่มยอดขาย ด้วยการให้บริการที่มีคุณภาพและรวดเร็ว เช่น การจัดส่งสินค้าในเวลาที่กำหนด และ การผลักดันลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งบอกเลยว่ามันค่อนข้างที่กับครอบคลุมจริงๆ ค่ะ
หรือ Netflix เอง ก็ใช้การตลาด End-to-End โดยการใช้ข้อมูลลูกค้าที่รวบรวมได้จากการใช้แพลตฟอร์ม และการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อแนะนำหนังที่เหมาะสมกับความต้องการและประวัติการดูของลูกค้า ทุกคนพอจะเห็นภาพการใช้งานที่ชัดขึ้นไหมคะ
โดยสรุปแล้ว End-to-End Marketingนั้นเป็นเทรนด์การตลาดที่สำคัญอย่างมากในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ค่ะ เนื่องจากพฤติกรรมการซื้อขายของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล แบรนด์เองก็ต้องการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างถูกต้องและทันเวลา เพื่อความสำเร็จในการแข่งขันในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
จึงทำให้หลายแบรนด์ในตอนนี้ หันมาจับกลยุทธ์ตลาดที่เน้นการควบคุมทุกขั้นตอนเอง อย่าง End-to-End นั่นเองค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึง เว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
Source