แบรนด์มีเป็นล้าน การจะอยู่ในสายตาของลูกค้าสักคนจึงเป็นเรื่องยาก ดังนั้นในบทความนี้เตยจะพามารู้จักกับ 5 วิธีปรับภาพลักษณ์ ยกระดับ Instagram Branding เพื่อให้ภาพลักษณ์เด่นชัดในสายตาลูกค้า เอาชนะคู่แข่งให้อยู่หมัด จะมีอะไรกันบ้าง เลื่อนอ่านบรรทัดถัดไปได้เลยค่ะ
ก่อนที่เราจะสร้างภาพลักษณ์ในสายตาของผู้คนได้ เราจะต้องเลือกก่อนว่า ‘ภาพลักษณ์’ ของเราจะเป็นอย่างไร เปรียบเทียบง่าย ๆ อยากให้ใครเห็นเราเป็นแบบไหน เราต้องแสดงออกไปแบบนั้นก่อนนั่นเองค่ะ ซึ่งในการทางการตลาด ภาพลักษณ์ของแบรนด์สามารถสื่อสารออกไปได้
และหนึ่งในวิธีการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ง่าย ๆ คือ การเลือกใช้ Brand Personality ที่เป็นคุณลักษณะและบุคลิกภาพที่บริษัทหรือแบรนด์ต้องการมีและปรากฏผ่านการติดต่อและการสื่อสารการตลาดกับลูกค้า
ที่มา: vemt
โดย Framework ของ Brand Personality นั้นมีอยู่ด้วยกัน 5 ลักษณะ
ความจริงใจ (Sincerity) สะท้อนถึงความเสียสละ คนจิตใจดี รู้สึกอบอุ่น
ความตื่นเต้นเร้าอารมณ์ (Excitement) สะท้อนถึงความท้าทาย โลดโผน ไม่อยู่ในกรอบ
ความสามารถ (Competence) สะท้อนถึงพลัง ทรงอำนาจ ฉลาด เป็นผู้นำ
ความแพรวพราว (Sophistication) สะท้อนถึง ความดูดี เป็นสง่า มีระดับ
ความแข็งแรง (Ruggedness) สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง ทนทาน
หากเราอยากให้ ‘ภาพลักษณ์’ ของเราเป็นแบบไหน เตยมองว่าการใช้ Brand Personality เป็นตัวตั้งก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีค่ะ เพราะ Branding ที่ดี ต้องสร้างภาพจำที่แตกต่างให้กับลูกค้าได้ คนที่โดดเด่นที่สุดท่ามกลางคนเป็นร้อยเป็นพัน อยากจะลบยังไงก็จำไม่ลืมแน่ ๆ ค่ะ
2. สร้างแบรนด์ด้วย ‘ภาพ’
อย่างที่เรารู้กันดีว่า Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่เอื้ออำนวยและโดดเด่นเป็นอย่างมากในเรื่องของ ‘ภาพ’ กดเข้าปุ๊ป สิ่งแรกที่เห็นเตะตาคือภาพจำนวนมหาศาล สายตาจะโฟกัสที่ภาพมากกว่าแคปชั่นเสมอ เรียกได้ว่าเป็น Photogenic platform ก็ยังได้
ดังนั้น การทำ Branding อีกทางหนึ่งที่แนะนำคือการสร้าง ‘ภาพ’ นี่แหละค่ะ แบบภาพ รูปภาพจริง ๆ ไม่ใช่ภาพในมโน รับรู้ด้วยจิต ซึ่งเราสามารถสร้างแบรนด์ด้วยภาพ โดยการเลือกใช้ โทนสี มู้ด โทนของภาพ โลโก้ รูปแบบตัวอักษร ลำดับการจัดวาง ให้ตรงกับ ‘ภาพลักษณ์’ ที่เราต้องการ
ทั้งนี้ ภาพที่สร้างออกมาจะต้องมีความสอดคล้องกับ Personality จากตอนแรกที่เราตั้งเอาไว้ด้วย เพื่อที่จะได้ให้การรับรู้ของผู้คนเป็นไปในทางเดียวกันนั่นเองค่ะ
3. Instagram Branding ที่ดีต้องสม่ำเสมอและมีไกด์ไลน์
ต่อเนื่องจากหัวข้อที่แล้ว เมื่อเราได้ Personality ที่ต้องการและภาพที่ต้องการให้ผู้คนเห็น สิ่งถัดมาที่ต้องคำนึงคือเรื่องของความสม่ำเสมอ เพราะความสม่ำเสมอจะทำให้คนจดจำได้ง่ายและเร็วกว่า เหมือนสโลแกน ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อไป อะไรประมาณนั้นค่ะ
และเพื่อความสม่ำเสมอแบบจริง ๆ เราจำเป็นต้องมีไกด์ไลน์ เพื่อให้สิ่งที่เรานำเสนอออกไปนั้นไปในทางเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ที่จะทำให้คนในองค์กรหรือสมาชิกในทีม เข้าใจตรงกันอีกด้วยว่า ภาพลักษณ์ ของแบรนด์จะไปในทางนี้ สีแบบนี้ที่จะใช้ อักษรแบบนี้ที่จะเอา โทนสีแบบไหนที่ต้องการ
ลองนึกดูเล่น ๆ ก็ได้ค่ะ ว่าแบรนด์หนึ่งใน Instagram ลงรูปภาพเละเทะ สะเปะสะปะ เดี๋ยวไปซ้าย เดี๋ยวมาขวา คนก็จะงงว่านี่ใช่แบรนด์เดียวกันจริง ๆ หรือเปล่า สามวันดีสี่วันไข้ ดีไม่ดีคนเลิกติดตามได้เพราะความไม่มั่นคงของแบรนด์ที่ต่างไปจากเดิม
4. ร่วมมือกับแบรนด์อื่น ๆ บน Instagram
อีกวิธีในการยกระดับการสร้างแบรนด์ของคุณคือการร่วมมือกับแบรนด์อื่น ๆ บน Instagram รวมไปถึง ดารา นักแสดง KOL, Influencer ชื่อดังต่าง ๆ เพื่อเป็นการยืมภาพลักษณ์จากแบรนด์หรืออินฟลูฯ นั้น ๆ มา เตยมองว่าเป็นหนึ่งในวิธีทางลัดที่เสริมภาพลักษณ์ในเราได้ดีทีเดียว
เผื่อใครที่นึกภาพไม่ออกว่าสิ่งนี้จะช่วยสร้าง ‘ภาพลักษณ์’ ให้เราได้ยังไง เตยขอยกตัวอย่างแบบนี้ค่ะ แบรนด์ A เป็นแบรนด์กระเป๋าน้องใหม่ที่ต้องการให้คาแรคเตอร์หรูหรา ผู้ดี มีระดับ จึงหันไปร่วมงานกับดาราท่านนึงที่มีคาแรคเตอร์คล้าย ๆ กัน เพื่ออาศัยภาพลักษณ์ของดาราคนนั้นมาเสริมภาพลักษณ์ให้แข็งแกร่งในจิตใจของคนมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
5. สนุกและสร้างช่วงเวลาดี ๆ ไปกับผู้ติดตาม
ในส่วนนี้ไม่มีอะไรที่ซับซ้อนค่ะ เพราะ ภาพลักษณ์ ไม่ได้มาจากแค่ภายนอกหรือสิ่งที่คนเห็นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมาจากการกระทำอีกด้วย ในฐานะแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย จุดประสงค์แรกและสำคัญที่สุดของ Instagram คือการจัดหาสถานที่สำหรับผู้คนในการพบปะสังสรรค์และสื่อสารระหว่างกัน
และในฐานะแบรนด์ เราจำเป็นต้องจดจำสิ่งนี้และสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ โดยการมีส่วนร่วมกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เพราะการมีส่วนร่วมกับสังคมจะสร้างความไว้วางใจและทำให้แบรนด์ของคุณมีความเป็นมนุษย์และทำให้ลูกค้าสามารถเชื่อมโยงกับแบรนด์ของคุณได้มากขึ้น
แถมยังเป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้าง Branding ที่ดีอีกด้วย เพราะคำพูดที่เราตอบกลับหรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราสร้างขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วม สามารถสื่อสารออกไปให้พวกเขารับรู้ได้ว่าแบรนด์ของเราเป็นแบบไหนนั่นเองค่ะ
สรุป 5 วิธีปรับภาพลักษณ์ ยกระดับ Instagram Branding
หลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่าจำเป็นจะต้องยึดติดกับ ‘ภาพลักษณ์’ นั้น ๆ ตลอดไปไหม? เตยมองว่าไม่จำเป็นค่ะ เพราะเราสามารถ Rebranding ได้อยู่เสมอ แต่ ๆๆๆ การรีแบรนด์ใช่ว่าคิดจะทำก็ทำนะคะ เพราะผลเสียที่ตามมาก็ปวดหัวมากอยู่ ต้องแน่ใจแล้วจริง ๆ ว่าปรับเปลี่ยนแล้วมันจะดีกว่าเดิม
และ 5 วิธีที่เตยนำมาแชร์กันในบทความนี้ เป็นวิธีที่ปรับใช้ได้ไม่ยาก ทำตามได้ง่าย ๆ และไม่ซับซ้อน ไม่ได้อาศัยเครื่องมือไฮเทคอะไรมากมาย แค่เป็นการปรับในจุดที่บางทีเราอาจจะมองข้ามกันไป หากกลับมาปรับจูนได้ เตยมองว่าจะอยากสร้างภาพลักษณ์แบบไหนก็เอาแน่นอนนน
หวังว่าตัวอย่างเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
Source