การตลาด Supermarket Lidl ลดการใช้ถุงพลาสติก ด้วยรถเข็นสุด Cool

เมื่อเอ่ยถึงการลดการใช้ถุงพลาสติกใน Supermarket หลายคนอาจนึกถึงมาตรการบังคับซื้อถุง หรือรณรงค์ลดใช้ถุงพลาสติกอย่างเคร่งครัดใช่มั้ยล่ะครับ แต่สำหรับ การตลาด Supermarket ยักษ์ใหญ่สัญชาติเยอรมันอย่าง “Lidl” (ลีดล์) ไม่ได้ทำแบบนั้น Lidl พลิกมุมมอง โดยใช้ความสนุก ความ Cool และความคิดสร้างสรรค์มาทำให้ลูกค้าอยากลดการใช้ถุงพลาสติกไปโดยปริยายครับ Lidl จะทำยังไง สร้างสรรค์ขนาดไหน ติดตามได้ในบทความกันเลยครับ

Lidl เป็นเครือ Supermarket ร้านค้าปลีกสัญชาติเยอรมันที่มีสาขากว่า 30 ประเทศในยุโรป และเริ่มมีการขยายตลาดไปยังสหรัฐอเมริกา จุดแข็งของ Lidl คือราคาที่เป็นมิตร และสินค้าคุณภาพคุ้มค่า ซึ่งทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย หรือกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้าแบรนด์เฮาส์แบรนด์คุณภาพดี ซึ่งผมมองว่าจุดยืนของ Lidl คือความเรียบง่ายไม่เน้นความหรูหราภายในร้าน อาศัยการบริหาร Supply Chain และการจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อมอบราคาที่คุ้มค่าแก่ผู้บริโภคครับ

ต้องเล่าแบบนี้ก่อนครับในยุโรปมีมาตรการหลากหลายในการลดขยะพลาสติก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดการใช้ถุงพลาสติกในร้านสะดวกซื้อหรือ Supermarket แม้ลูกค้าหลายคนจะเข้าใจถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่พฤติกรรมการเปลี่ยนแปลงกลับไม่ง่ายอย่างที่คิดครับ ต้องบอกว่าในบางประเทศในยุโรปหนึ่งในสิ่งที่ใช้แก้ปัญหานี้ได้ดีก็คือ Shopping Trolley แบบถุงผ้าครับ ซึ่งสามารถช่วยลดถุงพลาสติกที่ใช้ในการซื้อของในสถานที่ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะครับ

การตลาด Supermarket Lidl

แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นอุปสรรคสำคัญคือ ภาพลักษณ์ของ Shopping Trolley ซึ่งเป็นรถเข็นถุงผ้าแบบลากสองล้อ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นของคนสูงอายุ ยังไม่น่าดึงดูดสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากพกถุงช้อปปิ้งเท่ ๆ Lidl จึงมองเห็น Pain Point และ Opportunity ที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมการช้อปปิ้ง ไม่เพียงแต่ทำให้การลดการใช้พลาสติกเป็นเรื่องของจริยธรรมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างค่านิยมใหม่ให้กับ Shopping Trolley ให้กลายเป็นอุปกรณ์สุด Cool ครับ

Lidl เปิดตัวแคมเปญ The Lidl Cart รถเข็นถุงช้อปปิ้งดีไซน์เรียบง่าย แต่สะดุดตาด้วยโลโก้ Lidl และความสามารถในการ Custom ด้วยสติกเกอร์ของแบรนด์ซึ่งรวมแล้ว 18 ชิ้นเลยทีเดียว ในราคา €19.99 แถมยังมีส่วนลดอีก €5 ให้กับผู้ใช้แอป Lidl Plus ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมหลักของแบรนด์ที่ต้องการให้ลูกค้าประหยัดเงินให้ได้มากที่สุดครับ

จุดเด่นของแคมเปญคือการสื่อสารที่ไม่ใช่แค่บอกว่าเป็นการ “ลดถุงพลาสติกนะ” แต่สร้างเรื่องราวผ่านโฆษณาวิดีโอรูปแบบ Music Video ขนาดสั้น ประมาณ 2 นาที โดยเล่าเรื่องชายหนุ่มที่ถูกตัดสินโดย ศาลความ Cool

การตลาด Supermarket Lidl

เพราะดันใช้รถเข็นช้อปปิ้งแทนถุงพลาสติกจึงโดนตัดสินว่าไม่ Cool เค้าจึงแก้ต่างด้วยการแร็ปปลดปล่อยความ Cool ของเจ้าตัวรถเข็น Lidl พร้อมโชว์เมิร์ชแบรนด์ Lidl อื่น ๆ อย่างเช่น ชุดวอร์มและหมวกทรงบัคเก็ต สะท้อนว่ารถเข็นช้อปปิ้งไม่ใช่แค่ของคนแก่ แต่เป็นแฟชั่นไอเทมที่สนุกสนาน มีสไตล์ และยังเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้ครับ

การตลาด Supermarket Lidl

การสื่อสารนี้ถูกเผยแพร่ผ่านอินสตาแกรมและ X (Twitter) ของ Lidl ซึ่งกินกระแสโซเชียล สร้างความสนใจและกระตุ้นให้คนเข้ามามีส่วนร่วมจนเป็นไวรัล เมื่อสินค้าขายหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว Lidl จึงสร้างภาพจำใหม่ให้กับการใช้รถเข็นแทนถุงพลาสติกว่าเป็นเรื่อง In Trend สร้าง FOMO ให้กับคนที่ Out Trend ครับ

การตลาด Supermarket Lidl

ต้องบอกว่าแคมเปญ The Lidl Cart ทำให้ Shopping Trolley ขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว การสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้รถเข็นช้อปปิ้ง ทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าอีกทางเลือกหนึ่งในการลดใช้ถุงพลาสติกไม่ได้น่าเบื่อ แต่มีลูกเล่นและสนุก Lidl ได้รับความสนใจจากสื่อ สร้างไวรัลในสังคมออนไลน์ และอาจกระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถเข็นช้อปปิ้งแทนถุงพลาสติกมากขึ้นในระยะยาว นอกจากการขาย Merch แล้ว ยังได้ประโยชน์ทางภาพลักษณ์ และสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมในมุมที่สนุกสนานครับ

  • Reframing ปรับมุมมองและค่านิยม: แทนที่จะเน้นย้ำด้านศีลธรรมในการลดใช้ถุงพลาสติก Lidl เลือกจะ Reframing ให้ Shopping Trolley เป็นไอเทมน่าใช้ ทำให้คนหนุ่มสาวรู้สึกว่าการใช้รถเข็นคือการแสดงตัวตนแบบเท่ ๆ ไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไปครับ
  • Fun & Engagement: การใช้ Music Marketing ด้วยการแร็ป ช่วยดึงความสนใจและสร้างความบันเทิง ทำให้ผู้บริโภคจำแคมเปญได้ง่าย และเกิดความรู้สึกเชิงบวกต่อแบรนด์ โดยเฉพาะผู้บริโภคที่เป็นคนสมัยใหม่ครับ
  • สร้าง Viral: การใช้แคมเปญที่สามารถกระตุ้นความสนใจบนโซเชียลมีเดีย ช่วยเร่งการกระจายข้อมูลจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่งด้วยต้นทุนที่ต่ำ การสร้างคอนเทนต์ที่เป็นที่พูดถึง ดึงดูดความสนใจจาก Influencer หรือสื่อต่าง ๆ นำไปสู่การกระจายข่าวให้แพร่ขยายแบบทวีคูณได้ครับ
  • Accessibility ราคาเข้าถึงได้: การตั้งราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมส่วนลดสำหรับลูกค้าในแอป ทำให้การนำ Shopping Trolley ใช้ทดแทนดูเป็นตัวเลือกที่ดูคุ้มค่ากว่าการซื้อถุงพลาสติกซ้ำ ๆ
  • Nudge Behavior ด้วยแฟชั่น: แทนที่จะบังคับหรือสร้างความรู้สึกผิดลูกค้าที่ไม่ลดการใช้ถุงพลาสติด Lidl ใช้กลยุทธ์แนว Nudge หรือการกระตุ้นแบบอ้อม ๆ ให้ผู้บริโภคเลือกทำสิ่งที่ดีกว่า เมื่อลูกค้าเอนเอียงมาทาง Shopping Trolley ก็เท่ากับลดใช้ถุงพลาสติกไปโดยปริยาย

The Lidl Cart ไม่ใช่แค่การขายรถเข็นสำหรับช้อปปิ้ง แต่มันคือภาพสะท้อนว่าการตลาดที่ชาญฉลาดสามารถเปลี่ยนค่านิยมและพฤติกรรมการบริโภคได้ โดยใช้ความคิดสร้างสรรค์ ความสนุก และความอินเทรนด์มาสร้างแรงจูงใจ เมื่อเรื่องรักษ์โลก ถูกทำให้ Cool และเข้าถึงง่าย ผู้บริโภคก็พร้อมที่จะเปิดใจ และการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นได้จริงในโลกของการตลาดยุคใหม่ครับ

Source Source

(AI-Generated Image by Shutterstock Prompt: A vividly decorated Lidl shopping cart with bold, neon-colored stickers featuring quirky and fun patterns, set against a sunny, vibrant park with colorful flowers and a clear blue sky)

การตลาดยุคใหม่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความคิดสร้างสรรค์และความสนุกสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี แคมเปญ The Lidl Cart ของ Lidl ชี้ให้เห็นว่าการลดการใช้ถุงพลาสติกไม่จำเป็นต้องมาพร้อมการตำหนิหรือบีบบังคับ แต่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการพลิกมุมมอง รีแบรนด์สิ่งที่เคยถูกมองว่าเชยให้เป็นไอเทมสุดคูล และใช้กลยุทธ์การสื่อสารแบบมีสีสัน เพื่อสร้างแรงดึงดูดทางจิตวิทยาและสังคม ความสำเร็จนี้ไม่เพียงส่งเสริมความยั่งยืน แต่ยังตอกย้ำว่าในโลกของการตลาด การเปลี่ยนพฤติกรรมสามารถเริ่มต้นจากความสนุกและรสนิยมได้อย่างแท้จริง

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

ชื่อเติ้ลครับ ทำงานเป็น Data Research Insight & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *