ใครจะไปคิดว่า คุกกี้รูปถั่ว ที่ดูเหมือนจะธรรมดา ๆ จะสามารถทำให้โลกโซเชียลฮือฮาและกลายเป็นไวรัลได้ขนาดนี้? กับ Nutter Butter แบรนด์คุกกี้ที่ไม่ได้ดังแค่รสชาติ แต่เพราะ กลยุทธ์การตลาด ที่แปลกใหม่ และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ จนทำให้แบรนด์นี้กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก โดยเฉพาะในโลกของโซเชียลมีเดีย เช่น TikTok, Instagram, และ Twitter กับ การตลาด Compel Don’t Tell ดัน Nutter Butter เป็น Viral Marketing
ถึงตรงนี้อาจจะสงสัยว่า Nutter Butter คืออะไร ไม่ต้องห่วงเพราะในบทความนี้ผู้เขียนจะพาคุณเจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังของแบรนด์นี้ ตั้งแต่ที่มาไปจนถึงกลยุทธ์ที่ทำให้ Nutter Butter กลายเป็นที่พูดถึงถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย
Nutter Butter คืออะไร ?
Nutter Butter เป็นแบรนด์คุกกี้ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้รักขนมที่ชื่นชอบรสชาติเนยถั่ว คุกกี้ของ Nutter Butter ตัวคุกกี้จะเป็นถั่วลิสงที่มีเนยถั่วผสมอยู่ข้างใน ต้องบอกว่าแบรนด์นี้ เป็นแบรนด์ที่อยู่ในตลาดมานานตั้งแต่ยุค 60s เลยนะ แต่ในช่วงปี 2023 กลับสร้างกระแสการตลาดที่ร้อนแรงจนทำให้แบรนด์นี้กลับมาได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในโลกออนไลน์ส่วนจะเป็นอะไรนั้นก็ไปกันเลย
เหตุเกิดจากอะไรทำไม Nutter Butter ถึงเป็นที่พูดถึงกัน ?
ต้องบอกว่าสิ่งที่ทำให้ Nutter Butter ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงปี 2023 ไม่ใช่แค่เพราะเจ้าแสนอร่อยเท่านั้นนะคะ แต่คือการสร้างไวรัลบนโซเชียลมีเดีย ผ่าน Viral Marketing ที่เน้นให้ผู้คนแชร์คอนเทนต์ที่แปลกและท้าทายนั่นเอง แวะทำความรู้จักกับ Viral Marketing ก็คือการทำคอนเทนต์ออกมาในแนวที่สนุก ตื่นเต้น แปลกใหม่ และทำให้ผู้ชมหรือคนที่ดูคอนเท้นต์นี้รู้สึกอยากแชร์หรืออยากพูดถึง ซึ่งในกรณีของ Nutter Butter นี้พวกเขาใช้การ Create ที่แปลกและประหลาดมาก จนทำให้ผู้คนในโลกออนไลน์ต่างก็พากันอยากรู้ว่ามันคืออะไร และมีกระแสการแชร์ การหาที่มาที่ไปของคอนเท้นต์นี้อย่างมาก
คอนเทนต์ที่เป็น Viral ของ Nutter Butter
ต้องบอกว่าหนึ่งในคอนเทนต์ไวรัลที่โด่งดังมากก็คือ วิดีโอบ้านตุ๊กตา ที่ทาเนยถั่วจนเต็มไปหมด พร้อมกับเพลงที่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดออกมาจากหนังสยองขวัญ ต้องบอกเลยว่าต้องที่ผู้เขียนนั่งดูก็แอบ งง และถึงแม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่ก็ต้องให้กับความแปลกและประหลาดจนแบบว่าอยากรูํ้เลยว่ามันคืออะไรนะ? กับวิดีโอนี้ก็กลายเป็นไวรัลใน TikTok ที่มียอดการดูมากกว่า 11.2 ล้านครั้งเลยทีเดียว (โหห เกินไปมาก)
Compel Don’t Tell ดึงดูดความสนใจโดย(ไม่ต้อง)บอกทุกอย่าง
ต้องบอกว่าทาง Nutter Butter เองตอนที่ทำ Content แต่ละอันออกมาก็ไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมานะ ทางเเบรนด์เลือกที่จะสร้าง ‘ความสงสัย’ และ ‘กระตุ้น’ ให้ผู้ชมอยากรู้ต่อ (ฟีลเหมือนอะไรอ่ะ? ทำไมถึงต้องเป็นแบบนี้? อยากรู้ต่อ ๆ) ซึ่งจากตรงนี้นี่เอง เลยทำให้ผู้ชมมีความอยากรู้และติดตามแบรนด์มากขึ้น และเป็นที่พูดถึงมากขึ้นจากคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่แบรนด์ปล่อยออกมา
การใช้กลยุทธ์ ‘Compel Don’t Tell’ หรือ ‘ดึงดูดความสนใจด้วยการไม่ต้องบอกทุกอย่าง’ อธิบายง่าย ๆ ก็คือการสร้างความสงสัยและท้าทายให้กับผู้ชมโดยไม่เปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดตั้งแต่แรกนั่นเอง และในกรณีของแบรนด์ Nutter Butter ก็คือการสร้าง Content แปลก ๆ อย่างวิดีโอบ้านตุ๊กตากับเนยถั่วนั่นเองและแน่นอนแหละค่ะว่าถ้าด฿ตอนแรกก็อาจจะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่มันก็สร้างความสงสัยและทำให้เราอยากหาคำตอบ หรือดูต่อจนคอนเทนต์นั้นกลายเป็นไวรัลนั่นเองง
ชวนวิเคราะห์คอนเทนต์ของ Nutter Butter
- 1+1 มากกว่า 2
ต้องบอกว่าการตลาดแบบ Compel Don’t Tell และ Viral Marketing เป็นกลยุทธ์ที่ผู้เขียนเองมองว่าเป็นการทำงานร่วมกันอย่างลงตัวเลยทีเดียวถ้าเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย Compel Don’t Tell จะเหมือนการกระตุ้นให้ผู้ชมเกิดความอยากรู้และอยากติดตาม โดยไม่เปิดเผยข้อมูลทั้งหมดตั้งแต่แรก ทำให้เกิดความตื่นเต้นและอยากรู้ติดตาม
ซึ่งถ้าลองมองให้ดีก็เป็นเหมือนพื้นฐานสำคัญเลยในการสร้าง Viral content ในทางเดียวกัน Viral Marketing เองจะเหมือนการสร้างความรู้สึกของการมีส่วนร่วม ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเหมือนพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์หรือกระแสที่แบรนด์กำลังสร้างอยู่นะ คอนเทนต์ที่ไม่บอกทุกอย่างในทันทีแต่กระตุ้นให้ผู้ชมร่วมค้นหาคำตอบและแบ่งปันความคิดเห็นไปด้วยกัน ต้องบอกว่าไม่ใช่แค่ดึงดูดความสนใจแต่ยังสามารถสร้างการเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำและมีส่วนร่วมกับผู้ชมในระยะยาวได้อีกด้วยนะ และนี่ก็คือการผสมผสานกันที่ทำให้การตลาดมีประสิทธิภาพ และยังสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ในระยาวให้กับผู้บริโภคอีกด้วย
2. คอนเทนต์ที่แปลกใหม่และไม่คาดคิด
สิ่งที่ทำให้คอนเทนต์ของ Nutter Butter น่าสนใจในมุมมองของผู้เขียนคือการใช้ธีมที่สุดจะแปลกและแปลกประหลาดและแตกต่างจากแบรนด์ขนมทั่ว ๆ ไป แทนที่แบรนด์จะเน้นแค่รสชาติหรือคุณสมบัติของคุกกี้ แต่แบรนด์นี้คือเลือกที่จะสร้างความตื่นเต้นไปด้วย การนำเสนอคอนเทนต์ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เช่น การใส่เนยถั่วเยอะ ๆ จนเกินแบบงง ๆ หรือการเอาเนยถั่วมาทาบ้าน คือทั้งแปลกและ งง ในเวลาเดียวกันหรือการสร้างคอนเทนต์ที่ทำให้ผู้ชม ‘คิดว่าเกิดอะไรขึ้น?’ หรือ ‘เฮ้ย! นี่มันอะไร?’ ยิ่งเป็นการใช้ ความสงสัยและความแปลกประหลาดเข้าไปอีกในการดึงดูดความสนใจ และทำให้คนอยากแชร์และพูดถึงอย่างมาก
การใช้กลยุทธ์แบบนี้ในแบรนด์อื่น ๆ ก็มีเหมือนกันนะ
ต้องบอกว่าการดึงดูดความสนใจด้วยการไม่บอกทุกอย่างหรือ ‘Compel Don’t Tell’ ไม่ได้มีแค่ Nutter Butter อย่างเดียวนะคะที่ทำออกมาแล้วน่าสนใจ ในหลาย ๆ แบรนด์ในปัจจุบันเองก็มีวิธีการเดียวใช้ในการสร้างให้แบรนด์ของตัวเองเป็น Viral เหมือนกัน เช่น Apple ที่เวลาที่จะออกอะไรมาก็มักจะไม่ชอบบอกข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ในโฆษณาเลยทั้งหมดในทันที แต่จะเน้นสร้างความตื่นเต้นและให้คาดเดาไปเรื่อย ๆ จนทำเอาคนที่ได้เห็นอยากรู้มากขึ้น ซึ่งก็ทำเอาเรา ๆ แฟนคลับเองตามไปหาแบบพลิกแผ่นดินกันเลยทีเดียวและสุดท้ายก็ไปจบที่ตัดสินใจซื้อในที่สุด ฮ่าๆ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ การตลาด Compel Don’t Tell ที่ทำให้คุกกี้ Nutter Butter กลายเป็น Viral ดังผ่าน Viral Marketing
สำหรับผู้อ่านที่น่ารักทุกคนที่อยากติดตามข่าวสารทางการตลาด และไม่อยากพลาดแหล่งรวมความรู้ดี ๆ ที่อัปเดททุกวัน สไตลด์การตลาดวันละตอนทางผู้เขียนเองก็มีช่องทางแนะนำเพิ่มเติมให้ผู้อ่านทุกท่านแวะไปทักทายพูดคุยกันได้สามารถติดตามได้ไม่ว่าจะเป็นจาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึง เว็บไซต์ Twitter Instagram และ YouTube ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะการตลาดวันละตอนขอเป็นอีกหนึ่งแหล่งความรู้ที่ไม่ว่าจะเพศไหน อายุเท่าไหร่ ก็สามารถเเวะเข้ามาอัพเดทความรู้กันได้แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ see you ka ʕʽɞʼʔʕ•̫͡•ʔ
บทความที่แนะนำเพิ่มเติม