ขอบคุณภาพจาก Shutterstock (AI Generator Prompt: A futuristic robot with a sleek metallic body lounging on a beach chair, dressed in a vibrant Hawaiian shirt with colorful floral patterns, glowing blue eyes reflecting the soft light of the setting sun. The beach is made of fine cocoa powder, with the robot and chair near the shore of a vast chocolate sea, rich chocolate waves gently crashing. Above, fluffy candy-like clouds drift in the warm, golden sky, creating a dreamlike atmosphere.)
เพราะใคร ๆ ก็คงคิดไม่ถึงว่า AI ก็ต้องพักผ่อนเหมือนกัน และที่สำคัญคือการที่สามารถดึง Tagline ของตัวเองมาใช้ในการสื่อสารในรูปแบบที่ทันสมัย แต่รักษา Core Value ของตัวเองไว้ได้
ในขณะเดียวกันแบรนด์ก็ต้องทำการศึกษาพฤติกรรมหรือความสนใจของกลุ่มเป้าหมายว่ามีอะไร แล้วทำการเลือกมาใช้เป็นหนึ่งใน Element ของการสร้าง Key Message ในแคมเปญนี้ ซึ่งก็กลายมาเป็น Have AI Break, Have A KitKat นั่นเอง
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะถึงแม้ว่าแบรนด์จะมีการปรับการสื่อสารให้เข้ากับเทรนด์ AI แต่สโลแกนและ Key message หลักของ KitKat ยังคงยึดมั่นในแนวคิดเดิมเรื่อง “Have a Break” ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภครู้จักและจดจำ KitKat ได้
ซึ่งการรีเฟรชในที่นี้จึงไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบรนด์ทั้งหมด แต่เป็นการใช้บริบทใหม่ในการนำเสนอ Identity และ Core value ที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งช่วยให้แบรนด์ยังคงดูสดใหม่โดยไม่สูญเสียความเป็นตัวตนของแบรนด์
#Content is King แค่ Creative คงไม่พอ แต่ต้องตอบวัตถุประสงค์ด้วย
แคมเปญนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เป็นการผสมผสานความเป็นตัวตนของแบรนด์ให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างลงตัว ถึงแม้ว่า AI อาจจะไม่ได้ใหม่สำหรับใครบางคน แต่ด้วย Content ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งในแง่ของการสื่อสารความเป็นแบรนด์ด้วย “Have a Break” และการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วยการใช้ Topic เรื่อง AI เข้ามาเป็นจุดเชื่อมโยง
การตลาด KitKat ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการรีเฟรชแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ โดยยังคงความสม่ำเสมอในการนำเสนอ Core Value และสโลแกนที่คุ้นหูอย่าง “Have a Break” ในขณะเดียวกันก็สามารถเชื่อมโยงเข้ากับเทรนด์ปัจจุบันอย่าง AI ได้อย่างลงตัว แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่แค่คนที่ต้องการพัก แม้แต่ AI ก็ต้องการพักเช่นกัน