การเปิดตัวของ ESPOIR กับสุดยอด Make up brand สัญชาติเกาหลีในประเทศไทยต้องบอกว่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้นนะคะ แต่เป็นการวาง กลยุทธ์การตลาด ที่สามารถเชื่อมโยงกับความต้องการและความชื่นชอบของกลุ่มเป้าหมาย บวกกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้า รวมถึงการใช้กลยุทธ์สุดพิเศษ ตั้งแต่การเปิดตัวงานจนไปถึงการใช้ช่องทางออนไลน์ในการเข้าถึงลูกค้ากับ การตลาด K-Beauty กับการเปิดตัว ESPOIR ในไทยกับการสร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับ
AI-Prompt: K-Beauty skincare products, radiant glowing skin, luxurious Korean beauty routine, elegant glass bottles, serums, moisturizers, face masks, aesthetic packaging, dewy complexion, high-end skincare, professional beauty photography, natural li.jpg
กระแส K-Beauty ที่กำลังมาแรง
K-Beauty คืออะไร? อธิบายง่าย ๆ เลยก็คือเทรนด์ความงามที่ส่งตรงจากเกาหลีที่เน้นในเรื่องของการดูแลผิวให้ดูสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ จากการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและมีเทคโนโลยีช่วยบำรุงผิวให้กระจ่างใสเป็นธรรมชาติ เช่น การใช้คุชชั่นที่ทำให้ผิวดูโกลว์และสดใส เป็นต้น ต้องบอกวว่ากระแส K-Beauty หรือความงามจากเกาหลีตอนนี้กำลังกลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากเลยในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทยของเราเอง และจากข้อมูลเพิ่มเติมยังพบอีกว่าในปี 2022 อเมริกาเหนือครองส่วนแบ่งตลาดของ K-Beauty มากถึง 35% เลยยกตัวอย่างเช่นแบรนด์เกาหลี AmorePacific ที่ขยายตลาดในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
และส่วนในภูมิภาค เอเชียแปซิฟิก (APAC) เราเองคาดว่าจะเติบโตเร็วที่สุดด้วยอัตรา CAGR 10.6%(Compound Annual Growth Rate หมายถึง อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีแบบทบต้นใช้เพื่อวัดการเติบโตของตัวเลขหรือตลาดในช่วงเวลาหนึ่ง) ระหว่างปี 2023-2030 และได้รับแรงผลักดันจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อหัวในประเทศกำลังพัฒนา เช่น อินเดีย และ จีน
Source
และถ้าหากผู้อ่านเป็นสาวก K-Beauty หรือแค่อยากเป็นคนที่อยากมีผิวหน้าโกลว์ใสฉ่ำ เชื่อว่าหลายคนคงไม่มีใครไม่รู้จัก ESPOIR แบรนด์ Make up ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศเกาหลี ที่ขึ้นชื่อและโดดเด่นในเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยี ที่แบบว่าทำให้การแต่งหน้าไม่ใช่แค่เรื่องของเครื่องสำอางเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างประสบการณ์ความงามในแบบที่ไม่มีที่สิ้นสุดเลยจริง ๆ (ยกในเกาหลีเขาจริง ๆ)
ESPOIR เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ที่เกาหลีใต้ ภายใต้คอนเซ็ปต์แบรนด์ ‘EXPECT BETTER YOU’ กับความมุ่งมั่นที่อยากจะช่วยให้ผู้หญิงทุกคนได้เฉิดฉายความสวยงามในแบบที่เป็นตัวเอง บวกกับสอดคล้องกับเทรนด์ K-Beauty ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก สามารถบอกได้เลยว่าแบรนด์ ESPOIR เขาไม่ใช่แค่เน้นในเรื่องการแต่งหน้าเท่านั้นนะคะ แต่ยังใส่ใจเรื่องการดูแลผิวและให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ พร้อมเฉิดฉายสวยอย่างมั่นใจอีกด้วยนะ
ESPOIR กับการเปิดตัวสุดอลังการในไทย
อัพเดทล่าสุด M CURATED ภายใต้การบริหารของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป เปิดตัวแบรนด์ ESPOIR อย่างเป็นทางการในไทยแล้ว กับผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Be Glow Volume Cushion ของ ESPOIR ต้องบอกว่านอกจากจะเป็นคุชชั่นที่จะช่วยให้ผิวดูโกลว์ใสแล้วนะคะ ทางแบรนด์ยังบอกอีกว่ารอบนี้คุชชั่นพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Volume Glow Technology หน้าที่หลัก ๆ ของน้องคุชชั่นก็จะช่วยปรับโทนสีผิวให้ดูสว่างกระจ่างใสแบบทันทีผสมผสานเข้ากับ Vegan Plumping Water ที่จะล็อกความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้ผิวดูอิ่มฟูฉ่ำวาวแบบสาวสุขภาพดี
ซึ่งงานเปิดตัวในครั้งนี้นะคะจะถูกจัดขึ้นใน บิวตี้ฮอลล์ ชั้น M พารากอน นั่นเอง แอบกระซิบเพิ่มเติมว่าไม่ใช่แค่การเปิดตัวสินค้าใหม่แค่นั้นนะคะ เพราะภายในงานจะมีเหล่า Celebrity, Beauty Influencer ที่มาร่วมในงาน และที่พลาดไม่ได้เลยสำหรับใครที่อยากจะฝึกเริ่มเเต่งหน้าหรือเริ่มอยากดูแลตัวเอง ภายในงานเขาก็มีการสาธิตการแต่งหน้าสไตล์ K-Beauty กันด้วยนะคะ
ชวนวิเคราะห์เพิ่มเติม
https://www.pongoshare.com/k-beauty-domination-southeast-asia/
การที่ ESPOIR เปิดตัวในประเทศไทยส่วนตัวผู้เขียนมองว่าไม่ได้เป็นแค่การขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เท่านั้นนะคะ แต่ยังเป็นการเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจใน K-Beauty อีกด้วย ถ้าลองสังเกตดูก็จะพบว่าในประเทศไทยเรา ผู้บริโภคไม่มากก็น้อยก็มักจะติดตามเทรนด์การแต่งหน้าและสกินแคร์จากเกาหลีกันใช่ไหมคะ?
ESPOIR ใช้กลยุทธ์การตลาดผ่านช่องทางออนไลน์
ตรงนี้ทางแบรนด์ก็เอาใจสายช้อปที่อยากช้อปแต่ไม่มีเวลา ผ่าน Concept เข้าถึงทุกคนด้วยช่องทางที่หลากหลาย จริงค่ะที่ยุคนี้ใครๆ ก็ชอบช้อปออนไลน์ จริงไหมคะ? การเข้ามาของออนไลน์ทำให้เราสามารถช้อปได้ทุกเวลาจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงเวลาที่ไหน ซึ่งก็ต้องบอกว่าทาง ESPOIR เห็นถึงความสำคัญของตรงนี้เหมือรกัน เลยจัดให้เหล่านักช้อปผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Lazada, Shopee และไม่ได้หยุดแค่การช้อปปิ้งออนไลน์เท่านั้นนะคะทาง ESPOIR เองเขายังเพิ่มช่องทางในร้านค้า EVEANDBOY และ BEAUTRIUM ด้วยนะต้องบอกเลยว่ามีทุกที่ทุกแฟลตฟอร์มจริง ๆ ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลายกลุ่มทั้งออนไลน์และออฟไลน์(ยกนิ้วให้เลยค่ะ)และต้องบอกว่าทุกวันนี้การเเข่งขันคือแข่งขันกันสูงมากก การเปิดช่องทางให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นสิ่งที่แบรนด์ในยุคนี้ไม่ควรมองข้ามจริง ๆ
เอาใจทุกความต้องการของลูกค้า
ในโลกที่ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อเครื่องสำอางจากหลายแบรนด์ได้ง่าย ๆ การสร้าง Brand Loyalty หรือความภักดีในแบรนด์เป็นสิ่งที่ถือได้ว่าสำคัญมาก ๆ อันดับต้น ๆ เลยนะคะ ซึ่งทาง ESPOIR เขาก็มีการใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า ‘Experience Marketing’ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น ไม่ว่าจะเป็นการทดลองผลิตภัณฑ์จริงในงานเปิดตัว หรือใช้ อินฟลูเอนเซอร์ มาทำการตลาด
ซึ่งสิ่งที่ทาง ESPOIR ทำผู้เขียนมองว่าเป็นการเชื่อมระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ได้ดีเลย ยังไงนะเหรอ? ก็เพราะว่าแบรนด์ไม่ใช่แค่ได้นำเสนอสินค้าที่ดีมีคุณภาพ แต่ยังได้นำเสนอสไตล์และประสบการณ์ให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การแต่งหน้าและดูแลผิวไม่ได้จำกัดแค่ในผู้หญิงอีกต่อไป
ผู้เขียนเองมองว่า ESPOIR สามารถสร้างจุดขายที่ แตกต่าง (Unique Selling Proposition) ได้โดยทางแบรนด์ดึงเอาความความโดดเด่นในเรื่อง Volume Glow Technology และ Vegan Plumping Water มาเป็นตัวชูโรงในเรื่องของการแต่งหน้าและบำรุง โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมีหรือส่วนผสมที่มีการใช้จากสัตว์
สรุป
การเปิดตัวแบรนด์เครื่องสำอางสุดฮอตจากเกาหลีอย่าง ESPOIR ในไทยครั้งนี้ผู้เขียนมองว่าไม่ได้แค่การนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เข้ามาให้ลูกค้าได้ลองใช้เท่านั้นนะคะ แต่เยังป็นการวางกลยุทธ์การตลาดที่เชื่อมโยงความต้องการของคนไทยเข้ากับกระแสอย่าง K-Beauty ที่กำลังมาแรงอีกด้วย ตามคอนเซ็ปต์ที่เน้นในเรื่องผิวโกลว์สุขภาพดีแบบธรรมชาติ พร้อมกับการเปิดตัวในแบบที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกกลุ่มเลยไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย ทุกเพศก็สามารถใช้ได้ พร้อมกับมีกิจกรรมสนุก ๆ และการสาธิตการแต่งหน้าสไตล์ K-Beauty
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ การตลาด K-Beauty กับการเปิดตัว ESPOIR ในไทยกับการสร้างประสบการณ์ที่เหนือระดับ
สำหรับผู้อ่านที่น่ารักทุกคนที่อยากติดตามข่าวสารทางการตลาด และไม่อยากพลาดแหล่งรวมความรู้ดี ๆ ที่อัปเดททุกวัน สไตลด์การตลาดวันละตอนทางผู้เขียนเองก็มีช่องทางแนะนำเพิ่มเติมให้ผู้อ่านทุกท่านแวะไปทักทายพูดคุยกันได้สามารถติดตามได้ไม่ว่าจะเป็นจาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึง เว็บไซต์ Twitter Instagram และ YouTube ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะการตลาดวันละตอนขอเป็นอีกหนึ่งแหล่งความรู้ที่ไม่ว่าจะเพศไหน อายุเท่าไหร่ ก็สามารถเเวะเข้ามาอัพเดทความรู้กันได้แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ see you ka ʕʽɞʼʔʕ•̫͡•ʔ
บทความที่เเนะนำเพิ่มเติม
