จากโจ๊กไม่น่ากินสู่แบรนด์ที่จริงใจ Quaker Oats กลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน

ต้องยอมรับว่าในยุคที่ภาพอาหารต้องดูดี เหมือนหลุดออกมาจาก Pinterest หรือ Instagram การเลือกโชว์อาหารที่หน้าตาไม่สวยงามอาจดูสวนกระแสและเสี่ยงต่อภาพลักษณ์แบรนด์ไม่น้อย แต่ไม่ใช่สำหรับ Quaker Oats แบรนด์โจ๊กอันดับหนึ่งจากสหราชอาณาจักร ที่กล้าใช้ความ “ไม่สวย” ของโจ๊กมาเป็นจุดเริ่มต้นของแคมเปญ Deliciously Ugly ที่ทั้งแหวกแนว และจริงใจ บทความนี้จึงจะพาวิเคราะห์แคมเปญจากโจ๊กไม่น่ากินสู่แบรนด์ที่จริงใจ Quaker Oats กลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน ค่ะ

โดยต้องบอกว่าแคมเปญนี้ไม่ได้แค่เรียกความสนใจด้วยภาพโจ๊กก้อน ๆ ขรุขระที่ไม่ผ่านการแต่งภาพใด ๆ แต่ยังเจาะลึกไปถึงหัวใจของผู้บริโภค ผ่านการสื่อสารแบบ Emotional Branding และกลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน ที่พลิกจุดด้อยให้กลายเป็นจุดเด่นได้อย่างเฉียบคมอีกด้วยค่ะ

จากโจ๊กไม่น่ากินสู่แบรนด์ที่จริงใจ Quaker Oats กลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน
ขอบคุณ quakeroats

ซึ่งความท้าทายของ Quaker Oats ไม่ใช่เรื่องรสชาติหรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่คือ ภาพลักษณ์ภายนอก ของโจ๊กที่ดู “ไม่สวย” และขัดกับสิ่งที่คนยุคนี้คาดหวังจากอาหารบนหน้าฟีดโซเชียล แทนที่จะพยายามเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ดูดีเหมือนคู่แข่ง แบรนด์กลับเลือก “ยอมรับ” และ “ใช้” จุดอ่อนนี้เป็นหัวใจของการสื่อสารนั่นเองค่ะ

กลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน เปลี่ยนความไม่น่ากินเป็นสิ่งที่ “อร่อยจริง” และ “จริงใจ”

แคมเปญ Deliciously Ugly เริ่มจากแนวคิดที่กล้าหาญ ยอมรับว่าผลิตภัณฑ์อาจจะดูไม่น่าทาน แต่ก็เป็นสิ่งที่ “อร่อยจริง” และ “จริงใจ” โปสเตอร์กลางแจ้ง 40 จุดทั่วลอนดอนถูกติดตั้งด้วยภาพโจ๊กที่ไม่มีการตกแต่ง พร้อมข้อความขำขันที่ใช้สำนวนภาษาอังกฤษอย่างเช่น LUMPY BUMPY ในการเรียกความ “น่าเกลียด” ของอาหารอย่างน่ารักน่าเอ็นดู

โดย Quaker Oats เปิดตัวแคมเปญโฆษณากลางแจ้งสุดสะดุดตาและนอกกรอบในชื่อว่า Deliciously Ugly โดยประกอบด้วยโปสเตอร์จำนวน 40 ชุดที่ติดตั้งในหลายเขตของกรุงลอนดอน ตลอดเดือนมีนาคมและเมษายน 2025

โฆษณาเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดแนวคิดหลักของแคมเปญที่ว่า Quaker Oats คือ “อร่อยอย่างแท้จริง และอร่อยอย่างน่าเกลียด” โดยได้รับแรงบันดาลใจจากสำนวนภาษาอังกฤษแบบ UK ที่ใช้เรียกสิ่งที่ดูไม่น่าดู โปสเตอร์แต่ละชุดจับคู่คำพูดขำขันกับภาพถ่ายข้าวโอ๊ต Quaker ในสภาพจริงโดยไม่ผ่านการปรับแต่งใด ๆ เพื่อเน้นความจริงใจของแบรนด์ค่ะ

ขอบคุณภาพจาก Twitter(X)

ส่วนโฆษณากลางแจ้งนี้ ซึ่งสร้างสรรค์โดย Uncommon Creative Studio มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนแนวคิด Deliciously Ugly โดยการนำเสนอข้าวโอ๊ตที่แม้จะ “หน้าตาไม่น่ากิน” แต่ก็อร่อยจริง และเน้นคุณค่าทางโภชนาการที่แท้จริง

โฆษณาตัวนี้ต่อเนื่องจากการปรากฏตัวของแบรนด์ในงาน London Fashion Week 2025 ที่ Quaker สร้างชุดเดรสแฟชั่นชั้นสูง (haute couture) จาก “โจ๊ก” ทั้งชุด

โดยชุดเดรสนี้ออกแบบโดย Uncommon Creative Studio และสวมใส่โดยอินฟลูเอนเซอร์ Lily Rose ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาเมื่อนางแบบเดินบนถนนในลอนดอน และโพสต์วิดีโอบน TikTok ไปยังผู้ติดตาม 2 ล้านคน พร้อมคำถามว่า “นี่คือเดรสที่น่าเกลียดที่สุด หรืออร่อยที่สุด?”

@itslilyrose

The ugliest dress ever? Or the most delicious? Thanks @Quaker Oats UK for giving me my fashion week debut wearing the world’s first ever porridge dress! Deliciously ugly and proud #ad #ootd #lfw #streetstyle

♬ original sound – Lily-Rose

ภาพและวิดีโอจากผู้บริโภคที่ร่วมสนุกโดยถ่ายรูปโจ๊กที่หน้าตาน่าเกลียด ถูกนำมาใช้ในวิดีโอโฆษณา และมีบทบาทสำคัญในการสร้างกระแสให้กับกิจกรรมชุดเดรสโจ๊กนี้ ด้วยการแชร์คอนเทนต์ของผู้คนที่พบเห็น

วิดีโอเดรสโจ๊กบน TikTok ได้รับยอดวิวมากกว่า 1 ล้านครั้งภายใน 48 ชั่วโมงแรก โดยได้แรงหนุนจาก Lily Rose และการรายงานข่าวของสื่ออย่าง London Evening Standard ปัจจุบัน วิดีโอดังกล่าวมียอดเข้าชมบน TikTok มากกว่า 5 ล้านครั้ง

Scott Dungate ประธานฝ่ายสร้างสรรค์ของ Uncommon Creative Studio กล่าวว่า “เราสร้างโปสเตอร์ขำขันเหล่านี้เพื่อผลักดันแนวคิด Deliciously Ugly ของ Quaker ให้ไปถึงขีดสุด ต่อเนื่องจากเดรสโจ๊กสุดโด่งดังแต่หน้าตาไม่น่าดูที่ London Fashion Week หัวข้อในโปสเตอร์ใช้สำนวนตลก ๆ ของภาษาอังกฤษแบบ UK เกี่ยวกับความน่าเกลียด แล้วนำมาเชื่อมโยงกับชามโจ๊กที่หน้าตาไม่น่าดูแต่เต็มไปด้วยความอร่อยของเรา”

การนำเสนอแบบไม่ปรุงแต่งนี้ ขัดกับภาพอาหารในสื่อทั่วไป ที่มักถูกจัดแต่ง แสงสวย เงาเป๊ะ ซึ่งทำให้ภาพของ Quaker ดู “ตรงไปตรงมา” และ “เข้าถึงได้” กว่าคู่แข่งโดยอัตโนมัตินั่นเองค่ะ

จากโจ๊กไม่น่ากินสู่แบรนด์ที่จริงใจ Quaker Oats กลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน
ขอบคุณภาพจาก reel360

สิ่งที่ทำให้แคมเปญนี้มีพลังมากกว่าความแปลก คือ อารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในการสื่อสาร Quaker ไม่ได้แค่ขายโจ๊ก แต่ขาย “ความรู้สึกของความจริงใจ” ผ่านสำนวนขบขันที่พิมพ์ตัวโต ๆ บนภาพอาหาร อย่าง lumpy (ก้อน), bumpy (ขรุขระ), messy (เละ), และ real (ของจริง)

ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator
Prompt : A bowl of unfiltered, lumpy and bumpy oatmeal steaming hot, placed on a simple wooden table with warm natural lighting. The background is minimal, in soft beige or off-white, with bold typography floating above the bowl saying: “Deliciously Ugly” Add hand-drawn-style labels pointing to textures like “lumpy,” “messy,” and “real.” The overall tone is warm, authentic, and slightly humorous.

นี่คือจุดที่ Emotional Branding ทำงาน เพราะผู้บริโภคยุคนี้เริ่มเหนื่อยกับความสมบูรณ์แบบ และหันมาให้ค่ากับสิ่งที่ดูไม่เนียน ไม่หลอก ไม่ดัดแปลง แคมเปญนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วม ด้วยการส่งภาพโจ๊กหน้าตาไม่เป๊ะของตัวเองเข้ามาแชร์ใน TikTok และใช้คอนเทนต์เหล่านี้ในวิดีโอโปรโมต ซึ่งยิ่งตอกย้ำภาพแบรนด์ที่ “ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ” ของตัวเองและของลูกค้า

สิ่งที่น่าจับตามองคือ Quaker ไม่ใช่แบรนด์ challenger แต่เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มอาหารเช้าร้อนในสหราชอาณาจักร การตัดสินใจทำแคมเปญที่สวนทางกับภาพจำเดิม ๆ ของสินค้ากลุ่มนี้ จึงเป็นการเคลื่อนไหวที่กล้าหาญ ในขณะที่แบรนด์อื่นอาจเลือกเล่น safe ด้วยโฆษณาแบบเน้นประโยชน์ เช่น “อิ่มท้องตอนเช้า” หรือ “ดีต่อสุขภาพ” Quaker กลับเล่าเรื่องความ “ไม่สมบูรณ์แบบ” ให้กลายเป็นอัตลักษณ์ที่แข็งแรงและมีชีวิตนั่นเองค่ะ

สรุป จากโจ๊กไม่น่ากินสู่แบรนด์ที่จริงใจ Quaker Oats กลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน

แคมเปญนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าแบรนด์ไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟกต์หรือดูดีเสมอไป บางครั้ง “จุดอ่อน” ที่ดูเหมือนจะเป็นอุปสรรค อาจกลายเป็น จุดเชื่อมโยงทางอารมณ์ที่แข็งแรงที่สุด หากสื่อสารออกมาอย่างจริงใจ และมีอารมณ์ร่วม และในโลกที่เต็มไปด้วยฟิลเตอร์ ความจริงใจที่ไม่แต่งเติม อาจเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับแบรนด์ในระยะยาว

และทั้งหมดจากโจ๊กไม่น่ากินสู่แบรนด์ที่จริงใจ Quaker Oats กลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน ถ้าชอบ หรือ สนใจอยากอ่านบทความด้านการตลาดแบบนี้อีก ผู้เขียนฝากติดตามด้วยนะคะ หรือ ถ้าใครอยากให้ผู้เขียนนำมุมมองการตลาดแบบไหนมาเล่าให้ฟัง สามารถคอมเมนต์บอกกันได้เลยนะคะ 

สำหรับนักอ่านที่ชอบ และ อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารด้านการตลาดต่าง ๆ สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึง TwitterInstagramYouTube ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ

Source Source Source

มิวมิ้น เรียก มิ้น ก็ได้ ● ⋏ ● เป็น Marketing Content Creator & Data Research Insight ของการตลาดวันละตอน ٩(◕‿◕)۶ ทำงานด้าน Merchandiser / Digital Marketing / Ads optimizer / Data Research Insight ตั้งใจสรรสร้างทุกบทความ หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์ และ ชอบนะคะ ʕっ•ᴥ•ʔっ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *