ในยุคที่ E-commerce เติบโตอย่างรวดเร็ว การแข่งขันในตลาดก็เป็นสิ่งที่ท้าทายมากขึ้นเรื่อย ๆ การเข้าใจพฤติกรรมและการตัดสินใจของลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง Lazada เองได้เห็นถึงความสำคัญในส่วนนี้ จึงพัฒนา เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Advisor) เพื่อช่วยให้ร้านค้าบนแพลตฟอร์มสามารถเข้าใจลูกค้า ขยายตลาด และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
Ansoff Matrix กับการขยายตลาดใน E-commerce
ซึ่งพอพูดถึงการขยายตลาด สิ่งที่มักมาคู่กันก็คือ Ansoff Matrix หนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการวางแผนขยายตลาด เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเลือกแนวทางในการเติบโตได้อย่างชัดเจนค่ะ โดยเฉพาะในธุรกิจ E-commerce ที่มีความรวดเร็วและมีการแข่งขันสูง ดังนั้นการใช้ Ansoff Matrix จะช่วยให้ธุรกิจเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมสำหรับขยายตลาดหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้นั่นเองค่ะ
โดย Ansoff Matrix ประกอบด้วย 4 กลยุทธ์หลัก คือ
- Market Penetration (การเจาะตลาด) เป็นการเพิ่มยอดขายของสินค้าปัจจุบันในตลาดเดิม โดยใช้โปรโมชัน การลดราคา หรือการทำแคมเปญโฆษณาเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้ามากขึ้น
- Market Development (การพัฒนาตลาดใหม่) ใช้สินค้าเดิมในตลาดใหม่ เป็นการขยายตลาดไปยังที่ใหม่ ๆ หรือกลุ่มลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยเข้าถึงมาก่อนค่ะ
- Product Development (การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่) เป็นการพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อขายในตลาดเดิม อาจเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ หรือปรับปรุงสินค้าเดิมให้ดียิ่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้วค่ะ
- Diversification (การกระจายความเสี่ยง) เป็นการพัฒนาสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดใหม่ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงแต่หากสำเร็จก็จะสามารถขยายธุรกิจได้ค่ะ
ซึ่งในธุรกิจ E-commerce กลยุทธ์เหล่านี้จะสามารถประยุกต์ใช้ได้ในหลายรูปแบบ เช่น การใช้ Market Development เพื่อขยายไปสู่ตลาดลูกค้าใหม่ และ Market Penetration เพื่อเพิ่มยอดขายในกลุ่มลูกค้าเดิม เป็นต้นค่ะ
แต่การที่เราจะรู้ว่าเราควรใช้กลยุทธ์ไหน เราก็ต้องมีการวิเคราะห์และดูว่าปัจจุบันธุรกิจของเราเป็นยังไง สินค้าไหนที่เป็นสินค้าหลักของเรา ซึ่งตรงนี้เองที่ เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ จาก Lazada จะเข้ามาช่วยให้เราวิเคราะห์ธุรกิจของเราได้ค่ะ
เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ ของ Lazada คืออะไร ?
เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Advisor) ของลาซาด้าถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าและธุรกิจของตัวเองได้ค่ะ โดยจะช่วยให้ผู้ขายสามารถรวบรวมข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ต่อยอดในการเพิ่มยอดขาย ขยายตลาด ซึ่งเครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้ขายเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า ประสิทธิภาพของสินค้า รวมถึงผลลัพธ์จากการเข้าร่วมแคมเปญต่าง ๆ ทำให้ผู้ขายสามารถตัดสินใจด้านกลยุทธ์ได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
ซึ่งก่อนจะเข้าไปเรียนรู้การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ มีหนึ่งสิ่งที่ควรรู้ คือ สูตรพื้นฐานสำหรับ E-commerce และฟีเจอร์สำคัญ ๆ เหล่านี้ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ธุรกิจและเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูตรพื้นฐานสำหรับการเพิ่มยอดขายนั่นคือ
โดยการทำความเข้าใจกับสูตรนี้ จะเป็นการช่วยให้ผู้ขายสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงธุรกิจของตนเองได้ผ่านการใช้งานเครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจของ Lazada ซึ่งผู้ขายสามารถเข้าไปวิเคราะห์ข้อมูลได้ผ่านฟีเจอร์ต่าง ๆ เหล่านี้ค่ะ
ยอดเข้าชม (Traffic) : แดชบอร์ด/ยอดเข้าชม/สินค้า/ข้อมูลเชิงลึกของสปอนเซอร์เซอร์วิส
อัตราการซื้อ (Conversion) : แดชบอร์ด/ยอดเข้าชม/สินค้า/โปรโมชัน/ลูกค้า/บริการ
ยอดขายต่อผู้ซื้อ (Average revenue per buyer) : แดชบอร์ด/สินค้า/โปรโมชัน/บริการ
ซึ่งผู้เขียนจะขออธิบายแต่ละฟีเจอร์คร่าว ๆ ดังนี้ค่ะ
- แดชบอร์ด จะแสดงข้อมูลภาพรวมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของร้านค้าในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น กราฟ
- ยอดเข้าชม ฟีเจอร์นี้แสดงจำนวนลูกค้าที่เข้ามาหน้าร้านค้า รวมถึงแหล่งที่มา และยังแสดงอัตราการซื้อด้วย
- สินค้า ฟีเจอร์นี้ช่วยให้เห็นประสิทธิภาพของสินค้าแต่ละตัว โดยสามารถดูได้ว่าสินค้าตัวไหนมีอัตราการซื้อที่ดี หรือมีความสามารถในการแข่งขันสูง และยังช่วยระบุสินค้าที่อาจต้องปรับปรุงอีกด้วยค่ะ
- ข้อมูลเชิงลึกของสปอนเซอร์เซอร์วิส ดูภาพรวมและประสิทธิภาพของสินค้าที่มีการใช้เครื่องมือโปรโมตสินค้า
- โปรโมชัน ฟีเจอร์นี้เพื่อดูประสิทธิภาพของแคมเปญ, แฟลชเซล, โปรแกรมพิเศษกับลาซาด้า และโปรโมชันต่าง ๆ
- ลูกค้า เพื่อดูข้อมูลประชากร และประสิทธิภาพของเครื่องมือ Broadcast ข้อความ (CEM) ค่ะ
- บริการ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ขายดูสรุปภาพรวมของการตอบแชทตามช่วงเวลาที่คุณเลือก
- ตลาด ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ขายดูเทรนด์ และอันดับต่าง ๆ ทั้งในแง่ของหมวดหมู่สินค้า และคีย์เวิร์ด
- FAQ เป็นการรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้งานการวิเคราะห์ธุรกิจค่ะ
โดยจากสมการด้านบนเราจะเห็นเลยว่าหนึ่งในฟีเจอร์ที่ขึ้นทุกอันคือ แดชบอร์ด นั่นเองค่ะ ดังนั้นเรามาดูในส่วนของแดชบอร์ดกันก่อนดีกว่าค่ะ
Dashboard
หน้าแดชบอร์ด คือหน้าที่รวบรวมข้อมูลสำคัญ ๆ ที่ช่วยให้สามารถดูภาพรวมของร้านค้าเราได้แบบง่าย ๆ ค่ะ
โดยจุดแรกเราสามารถดูข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ที่นี่ โดยสามารถดูเปรียบเทียบกับเมื่อวานได้ และจุดต่อมาที่แสดงลำดับแบบเรียลไทม์จะเป็นการแสดงสินค้า 3 รายการที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในแง่ของ “ยอดขาย” หรือ “ผู้เข้าชม” นั่นเองค่ะ
นอกจากนั้นสามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องการดูข้อมูลได้ รวมทั้งตัวชี้วัด เช่น ยอดขาย, อัตราการซื้อ ที่ต้องการ โดยเลือกได้สูงสุด 5 ตัวชี้วัดค่ะ
สรุปแล้วแดชบอร์ดจะช่วยให้เราเห็นภาพรวมของข้อมูลธุรกิจแบบเรียลไทม์ เช่น ยอดขาย, ยอดเข้าชม, อัตราการซื้อ ทำให้สามารถดูผลได้ทันที นอกจากนั้นยังเปรียบเทียบประสิทธิภาพข้อมูลในช่วงเวลาต่าง ๆ เช่น วันนี้กับเมื่อวาน หรือสัปดาห์นี้กับสัปดาห์ก่อน ทำให้เราสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงและสามารถปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมค่ะ
ต่อมาอีกหนึ่งแถบเครื่องมือจาก เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ ที่น่าสนใจก็คือ สินค้า เพราะจะทำให้เรารู้ว่าสินค้าไหนในร้านที่ขายดี สินค้าไหนควรนำออก รวมทั้งการพัฒนาต่อยอดจากสินค้านั้น ๆ ด้วยค่ะ
Product (สินค้า)
โดยเราจะแบ่งการวิเคราะห์สินค้าตามหัวข้อต่าง ๆ โดยหัวข้อแรกเริ่มจาก การติดตามประสิทธิภาพของสินค้า โดยแสดงลำดับแบบเรียลไทม์ ซึ่งเราสามารถเข้าไปที่ ข้อมูลเชิงลึก > การวิเคราะห์ธุรกิจ > สินค้า > ลำดับแบบเรียลไทม์
#การติดตามประสิทธิภาพของสินค้า : ลำดับแบบเรียลไทม์
ซึ่งลำดับสินค้าที่แสดงจะเป็น 100 อันดับแรก ซึ่งเราสามารถเลือกการแสดงผลที่ต้องการดูได้ 4 อย่าง คือ โดยผู้เข้าชม/โดยยอดขาย/ โดยจำนวนสินค้าที่ขายได้/โดยจำนวนสินค้าที่อยู่ในตะกร้า ค่ะ นอกจากนั้นเราก็จะสามารถเลือกตัวชี้วัดที่ต้องการดูข้อมูล เช่น ยอดเข้าชมสินค้า โดยความหมายของตัวชี้วัดแต่ละตัว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ด้วยการเลื่อนเมาส์ไปที่ไอคอน “?” ค่ะ
#การติดตามประสิทธิภาพของสินค้า : ประสิทธิภาพ
สามารถเข้าไปโดยคลิกที่ ข้อมูลเชิงลึก > การวิเคราะห์ธุรกิจ > สินค้า > ประสิทธิภาพ หรือสังเกตฝั่งซ้ายมือ ประสิทธิภาพ จะอยู่อันดับสองรองจาก ลำดับแบบเรียลไทม์ ค่ะ
ซึ่งเราสามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องการดูข้อมูลได้ เช่น เมื่อวาน, 7 วันที่ผ่านมา, 30 วันที่ผ่านมา ต่อมาก็เป็นการกรองข้อมูลที่ต้องการดู เช่น หมวดหมู่สินค้า, แบรนด์ หรือ ค้นหาด้วยรหัสหรือชื่อสินค้า แล้วก็มาเลือกตัวชี้วัดที่ต้องการดู โดยเราสามารถคลิก “นำข้อมูลออก” เพื่อดาวน์โหลดข้อมูลออกมาเป็นไฟล์ Excel ได้อีกด้วยค่ะ
#การติดตามประสิทธิภาพของสินค้า : สินค้าใหม่
โดยเราจะสามารถดูข้อมูลที่หน้านี้ได้ เมื่อมีสินค้าใหม่เท่านั้น สามารถทำได้ดังนี้
1. คลิกเพื่อเปลี่ยนหมวดหมู่ของสินค้าใหม่
2. เลือกช่วงเวลาที่ต้องการดูข้อมูล
3. หรือ คลิกที่ “ลืมวันที่สร้างสินค้า?” เพื่อดูว่าคุณสร้างสินค้าใหม่ไปเมื่อไหร่ ซึ่งการแสดงข้อมูลจะเป็น 3 เดือนล่าสุดที่ผ่านมา
หลังจากตั้งค่าตามด้านบนแล้ว ข้อมูลของสินค้ามาใหม่จะแสดงดังนี้ ส่วนแรกจะเป็นข้อมูลตัวชี้วัด จะเป็นการเปรียบเทียบวันที่เราเลือก และวันก่อนหน้า โดยเราสามาถเลื่อนไปทางขวา เพื่อดูตัวชี้วัดที่เหลือได้ค่ะ ในส่วนต่อมา ข้อมูลของสินค้าใหม่เป็นกราฟในช่วง 30 วันที่ผ่านมาจากตัวชี้วัดที่เลือก
ต่อมาเราสามารถค้นหาสินค้าด้วยการพิมพ์ Product ID, ชื่อสินค้า และรหัสสินค้าได้ด้วย เมื่อสินค้าแสดงขึ้นมาแล้วสามารถคลิกที่ชื่อของสินค้านั้น ๆ เพื่อไปยังหน้าสินค้าได้ และยังกดปุ่ม แก้ไข เพื่อแก้ไขสินค้าได้อีกด้วยค่ะ
นอกจากนั้นเรายังสามารถดูสินค้าตามหมวดหมู่ และดูสินค้าที่ต้องการปรับปรุงได้ผ่านทางแถบสินค้าอีกด้วย โดยสามารถเข้าไปดูได้ที่ Lazada University ได้เลยค่ะ
และนี่คือการกระตุ้นยอดขาย ขยายตลาด ด้วยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ธุรกิจ (Business Advisor) จาก Lazada ไม่เพียงแค่ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและการติดตามประสิทธิภาพสินค้า
แต่ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ เพื่อขยายตลาดและเพิ่มยอดขายในระยะยาว การนำข้อมูลที่ได้มาใช้เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดและการขายอย่างต่อเนื่องจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจในตลาด E-commerce ที่มีการแข่งขันสูงนั่นเองค่ะ
สำหรับท่านที่อยากติดตามข่าวสารทางการตลาด รวมทั้งความรู้การตลาด และความรู้จาก Lazada ผู้เขียนฝากติดตามไว้ด้วยนะคะและนอกจากนั้นสามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะヽ(•‿•)ノ
Source Source