แค่เห็นชื่อเรื่องทุกคนก็ต้องสงสัยแล้วแน่ๆ เลยว่า ชวนขโมยเบอร์เกอร์คือยังไง แล้วทำไม Burger King ถึงนำแรงบันดาลใจจากซีรีส์ Money Heis ของ Netflix มาใช้ ซึ่งที่จริงแล้วมันเป็นแคมเปญส่งเสริมการตลาดของเบอร์เกอร์คิงที่จัดใหญ่จัดเต็ม ชวนคนที่สัญจรไปมาให้มาขโมยเบอร์เกอร์ของเขานั่นเองค่ะ เดี๋ยวเรามาดูความน่าสนใจของแคมเปญนี้กันดีกว่า
ต้องบอกว่า Burger King ได้รับแรงบันดาลใจในการทำแคมเปญมาจากซีรีส์ Money Heis ที่เป็นซีรีส์ยอดนิยมใน Netflix เป็นเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการโจรกรรมการปล้นสุดมันส์ จนเป็นซีรีส์ในดวงใจของหลายๆ คน นั่นทำให้เบอร์เกอร์คิงต้องการร่วมมือกับ Netflix เพื่อสร้างแคมเปญที่ชื่อว่า Whopper Heist ในการเชิญชวนลูกค้าให้มาขโมย Whopper จากจอดิจิทัลที่อยู่รอบเมือง Buenos Aires ประเทศอาร์เจนตินา
แคมเปญ Whopper Heist
สำหรับแคมเปญดังกล่าว เป็นแคมเปญแบบ OOH เป็นสื่อดิจิทัลนอกบ้านที่บวกกับเทคโนโลยี NFC หรือที่เรียกว่า Near Field Communication เป็นเทคโนโลยีสื่อสารแบบไร้สายระยะใกล้ โดยมันจะเชื่อมต่อกับแอปฯ เบอร์เกอร์คิงบนโทรศัพท์ของผู้สัญจรไปมาบริเวณนั้น ผู้ใช้แอปฯ จะได้รับข้อความแจ้งเตือนว่าพวกเขาอยู่ใกล้กับ Whopper และสามารถขโมยได้
ซึ่งในการขโมยนั้น จะต้องใช้โทรศัพท์ของเราส่องและถ่ายไปที่โปสเตอร์ดิจิทัลที่ยังมีรูปเบอร์เกอร์อยู่ในนั้น เมื่ออุปกรณ์ NFC เชื่อมต่อกับโทรศัพท์แล้วเครื่องจะส่งสัญญาณไปยังเซิร์ฟเวอร์ เพื่อให้แฮมเบอร์เกอร์หายไปจากหน้าจอสื่อดิจิทัล แล้วไปปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของเราแทน จากนั้นเราหรือผู้ที่ไปขโมยมาได้สามารถเอาไปแลกเบอร์เกอร์ Whopper จริงๆได้บนแอปฯ ของเบอร์เกอร์คิง และนอกจากนี้ถ้ายังขโมยไม่หนำใจแล้วนั้นอยากขโมยอีกก็สามารถดูในแอปกว่าตอนนี้ Whoppers เหลืออยู่กี่ชิ้น แล้วอยู่ที่ไหนบ้างได้ด้วยนะคะ
ผลลัพธ์ของแคมเปญ
การทำแคมเปญในครั้งนี้ของ Burger King ที่ใช้แรงบันดาลใจจากซีรีย์ดังของ Netflix มาสร้างยอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของตัวเอง ปลื้มมองว่าเขาใช้ไอเดียและประโยชน์จากการ Co-Branding ได้ดีเลยนะคะ อีกทั้งแคมเปญนี้สามารถสร้างประสบการณ์ร่วมกันระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ได้แบบน่ารักๆ อีกด้วย เพราะว่าแค่ถ่ายจอดิจิทัลนั้นได้เบอร์เกอร์มาฟรีๆ ใครจะไม่ชอบล่ะคะจริงไหม แถมดูสนุกในการไล่ล่า แล้วเขาไม่ได้แจกเหมือนยืนแจกใบปลิวอะปลื้มว่า มันทำให้คนได้รู้สึกว่ามันไม่ได้ได้มาง่ายๆ นะ และเห็นคุณค่ามันมากกว่าวิธีแบบธรรมดาทั่วไป
ซึ่งจากการทำแคมเปญเขาบอกว่าเพียง 2 วัน เบอร์เกอร์บนสื่อ OOH ก็ถูกขโมยจนหมด และที่สำคัญวัตถุประสงค์ในการสร้างยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของเขาก็ประสบผลสำเร็จไปด้วยค่ะ โดยการดาวน์โหลดแอปฯ รายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 49.5% เลย แถมยอดขายที่สั่งซื้อผ่านโทรศัพท์เพิ่มขึ้น 25.3% ต่อร้านอีกด้วย
จริงๆ แล้ว Burger King สามารถพี่จะโชว์ศักยภาพโดยไม่ต้อง Co-Branding กับ Netflix เลยก็ได้ แต่จุดนี้มันสามารถดึงกลุ่มเป้าหมายแฟนของซีรีส์ แฟนของ Netflix เข้ามาเป็นลูกค้าของเขาได้อีกด้วย และที่สำคัญทำให้เห็นว่า Burger King ไม่ได้ขโมยไอเดียจากใคร ไม่ใช่แค่ให้เครดิตว่าได้แรงบันดาลใจมาจากไหน แต่เขายินดีที่จะใช้ความที่เป็นซีรีย์ดังจาก Netflix มาเป็นแนวคิดของแคมเปญนี้เลย ซึ่งตรงนี้ปลื้มมองว่าก็ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย Netflix เองก็ได้โปรโมทหนังไปด้วย win win ทั้งคู่ค่ะ
สุดท้ายนี้ปลื้มหวังว่านักการตลาดจะได้เห็นไอเดียตรงนี้และสามารถนำไปปรับใช้ในแบรนด์ของตัวเองได้เพราะว่าปลื้มเห็นหลายจุดเลย ที่มีความน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการ Co-Branding การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในแคมเปญการทำแคมเปญและการสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ถ้าใหม่คิดเป็นไอเดียใหม่ที่คล้ายๆ กับแคมเปญ Whopper Heist นี้ ปลื้มนึกถึงเกมล่าโปเกม่อน ที่ดูเป็นแนวคิดการตามหาเพื่อเก็บไอเท็มอะไรสักอย่าง ถ้าเอาปรับใช้กับแคมเปญการตลาดก็ดูน่าสนใจดีนะคะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
Source : https://adage.com/creativity/work/burger-king-and-netflix-made-money-heist-billboard-game/2389146