ก่อนจะพูดว่า ChatGPT ยังไม่เวิร์ค เราลองถามตัวเองดูก่อนไหม ว่าเราใช้ Prompt ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้วหรือยัง ดังคำกล่าวที่ว่า ”คุณภาพของคำตอบ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของคำถาม” ดังนั้นการทำความรู้จักกับ CRAFT Prompts Framework จะช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบการใช้งาน ChatGPT ได้ดียิ่งขึ้น
CRAFT Prompts Framework กับ ChatGPT
ครั้งแรกที่ผมได้ยินเกี่ยวกับ CRAFT Prompts Framework มาจากการที่ผมได้มีโอกาสเรียนการใช้ ChatGPT กับคุณโชค – Chogo Visavayodhin ซึ่งนับว่าเป็นอะไรที่เปิดโลกมาก คำถามแรกเมื่อได้รู้จักกับ Framework การใช้คำสั่ง Prompt นี้คือ ..ทำไมไม่รู้ให้เร็วกว่านี้?
เพราะโดยพื้นฐานแล้ว Prompt คือข้อมูลหรือชุดคำสั่งที่เราป้อนให้กับ ChatGPT เพื่อที่จะได้รับคําตอบตามที่เราต้องการ ดังนั้นการสร้าง Prompt ที่มีประสิทธิภาพด้วย CRAFT Prompts Framework จะเป็นกุญแจสําคัญในการดึงศักยภาพการทำงานสูงสุดของ Chatbot ออกมาได้ โดย CRAFT นั้นจะประกอบไปด้วย 5 องค์ประกอบในการสร้าง Prompt ดังนี้
#C : Context (บริบท)
บริบทคือคีย์สำคัญในการสร้าง Prompt โดยเราต้องกำหนดบริบทในการทำงาน โดยการระบุรายละเอียด สถานการณ์ ช่วงเวลา ข้อมูล องค์ประกอบสำคัญ หรือตัวแปรต่าง ๆ ที่คาดว่าน่าจะมีผลต่อคำตอบที่เราต้องการ
ซึ่งมันจะช่วยให้เราได้คำตอบที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นตามรายละเอียดในบริบทนั้น ๆ และยิ่งเรากำหนดบริบทละเอียดและชัดเจนเท่าไหร่ เราจะได้รับคำตอบที่ตรงกับความต้องการของเรามากขึ้น ซึ่งบริบทในที่นี้อาจหมายรวมถึง ภาพรวมการใช้ Framework นี้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน ในการเขียน Prompt อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น
ฉัน:<สมมุติว่าคุณเป็น Marketing Analyst Content Creator และมีหน้าที่เขียนคอนเทนต์การตลาดให้นักการตลาดอ่าน โดยที่คุณมีทักษะ Copy Writing ที่สามารถเขียนบทความให้เด็กอ่านเข้าใจและสนุก , ตอนนี้เป็นปี 2024 สถานการณ์การตลาดของไทยกำลังวุ่นวายจากการเข้ามาของ AI , ฉันอยากให้คุณเขียนบทความ ”แนะนำวิธีการปรับตัวในยุคที่ AI Driven Marketing ”>
#R : Relevant (สิ่งที่เกี่ยวข้องหรือจำเป็นต้องรู้ในการทำงาน)
สิ่งสําคัญในการเขียน Prompt คือต้องระบุรูปแบบการทำงานหรือการตอบกลับ รายละเอียดที่เกี่ยวข้องในการทำงานที่เราคิดว่าจำเป็นต้องรู้ หรือองค์ประกอบสำคัญ ให้ ChatGPT ได้รับรู้เอาไว้
โดยอาจคํานึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น วิธีการทำงาน ขั้นตอนการทำงาน น้ําเสียงในการเล่า ลักษณะการใช้คำหรือไวยากรณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสําคัญอย่างยิ่งในการกําหนดความสามารถในการทำงานที่มีความเฉพาะเจาะจง
ตัวอย่างเช่น
ฉัน : <บทความที่เขียนจะต้องยาวมากกว่า 300 คำ , มีลำดับการเขียนเริ่มจาก ชื่อเรื่อง บทนำ เนื้อเรื่อง สรุป เรียงตามลำดับ , มีภาพประกอบที่เกี่ยวข้อง ขนาด 16:9 จำนวน 3 รูป>
เพื่อแจ้งให้ ChatGPT ทราบเกี่ยวกับรูปแบบการเขียนบทความที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่จะให้ตัวอย่างการเขียนหรือขอการพิจารณาสําหรับความสามารถทางภาษา ระบุอย่างชัดเจนว่าควรใช้น้ําเสียงแบบเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ นอกจากนี้ ให้อธิบายว่าอนุญาตให้ใช้คําศัพท์เฉพาะหรือการเปรียบเทียบได้หรือไม่ และระบุภาษาที่ควรให้คําตอบ โดยการให้รายละเอียดดังกล่าว ChatGPT จะสร้างคําตอบตามนั้น
#A : Action (บทบาท)
คือการกำหนดคาแรคเตอรืหรือบทบาทของ ChatGPT โดยการเลือกอาชีพ บุคคล ตำแหน่งหน้าที่ หรือบทบาทที่เราต้องการ เพื่อให้ ChatGPT ทำงานโดยการสวมบทบาทสมมุติที่เรากำหนด ซึ่งการกำหนดบทบาทสามารถจำกัดขอบเขตการทำงานได้ตามบทบาทที่เราเลือก
ตัวอย่างเช่น
ฉัน:< สมมุติว่าคุณเป็น Marketing Analyst Content Creator ชื่อดังที่มีผู้ติดตามกว่า 3 ล้านคนในไทย และมีทัศนคติที่ดีและอบอุ่น ,คุณมีหน้าที่เขียนคอนเทนต์การตลาดให้นักการตลาดอ่านทุกสัปดาห์ , คุณมีทักษะ Copy Writing ที่สามารถเขียนบทความการตลาดให้เด็กอ่านเข้าใจง่ายและสนุก >
นอกจากนี้เรายังสามารถกำหนดกรอบความคิด ทัศนคติ หรือมุมมอง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดหรือมุมมองในการทำงานที่หลากหลายได้ อีกทั้งระดับความเชี่ยวชาญและจํานวนผู้ติดตามอาจมีอิทธิพลอย่างมากต่อคําตอบของ ChatGPT ดังนั้นจึงจําเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้คําแนะนําเฉพาะเพื่อแนะนํา ChatGPT อย่างถูกต้องในทิศทางที่เราต้องการ
ระบุลักษณะการจัดรูปแบบตามที่เราต้องการ เช่น โทน สไตล์ การจัดวาง ขนาด จำนวน หรือลักษณะการทำงานของเรา การป้อนข้อมูลสำหรับให้คําแนะนําด้านการจัดรูปแบบอย่างละเอียดแก่ ChatGPT จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า ผลลัพธ์ที่สร้างขึ้นจะออกมาตรงตามรูปแบบที่เราต้องการมากที่สุด
ตัวอย่างเช่น
ฉัน:<จัดระเบียบเนื้อหา Insight ในรูปแบบตารางหรือกราฟ , ใส่สัญลักษณ์ [#]แสดงหน้าหัวข้อย่อย,ใส่ข้อมูลในตาราง>
#T : Terms (เงื่อนไข)
เป็นการระบุเงื่อนไขการทำงานต่าง ๆ ทั้ง หน้าที่ ขั้นตอนการทำงาน ขอบเขตการทำงาน ข้อจำกัด สิ่งที่ต้องทำ หรือวัตถุประสงค์ในการทำงานที่ชัดเจน โดยอาจกำหนดเงื่อนไขการทำงานด้วยคํากริยา เช่น make, compose , create , summarize , translate , generate , revise ,review, หรือ re-write เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น
ฉัน:<ให้ ChatGPT เขียนบทความ การตลาดในหัวข้อเทรนด์คอนเทนต์Tiktok 2024 > หรือ <ให้ ChatGPT สรุปไฟล์ PDF นี้ , ห้ามใส่ข้อมูลที่ไม่ชัดเจนหรือไม่รู้จักแหล่งที่มา , ปฏิบัติตามคําแนะนําเหล่านี้อย่างเคร่งครัด >
สิ่งสำคัญในการกำหนด Prompt คือวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน และการจดจ่อกับงานเพียงงานเดียวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และอีกเคล็ดลับสำคัญคือ หากเราต้องการให้ ChatGPT ปฏิบัติตามคําแนะนําของเราอย่างเคร่งครัด เพียงแค่ใช้คำสั่ง prompt <ปฏิบัติตามคําแนะนําเหล่านี้อย่างเคร่งครัด> ในทางกลับกันหากต้องการยกเลิก Prompt ก่อนหน้าก็ใช้คำว่า <ยกเลิก..ตามด้วยการกระทําที่ต้องการหยุด>
และหากต้องการเริ่มต้นแชทใหม่และรีเซ็ต Prompt ก่อนหน้า เพียงใช้ Prompt <รีเซ็ตคําแนะนําก่อนหน้าและเริ่มใหม่> สิ่งนี้จะช่วยให้เราสามารถสร้าง Prompt ใหม่ได้โดยไม่ต้องยกเลิกทีละ Prompt นั่นเอง
ข้อควรระวังการใช้ ChatGPT :
- ความสามารถในการใช้ภาษาไทยนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะนำมาใช้ในการทำงาน ดังนั้นการใช้ภาษาอังกฤษจะช่วยให้ได้คำตอบที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า
- หากจะใช้ข้อมูลที่ได้จาก ChatGPT เป็นอ้างอิง คำแนะนำแรกจากผมคือคุณควรมีความรู้ในด้านนั้น ๆ อย่างเพียงพอที่จะสามารถตรวจสอบข้อมูลที่ผิดพลาดเจอ เพราะ ChatGPT ยังขาดความแม่นยำและให้ข้อมูลผิดพลาดได้เสมอ แต่หากคุณไม่มั่นใจว่าจะสามารถหาข้อมูลที่ผิดพลาดนั้นเจอ คำแนะนำต่อไปคือการตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งอื่นว่าตรงกันหรือไม่ หรือคำแนะนำสุดท้ายคือการใช้ Prompt กำหนดขอบเขตการทำงาน เช่น <ให้ข้อมูลที่คุณรู้เท่านั้น ถ้าไม่รู้ไม่ต้องให้>
- ChatGPT การทำหนด Prompt อย่างละเอียด และกำหนดเงื่อนไขการทำงานที่ชัดเจนทั้งสิ่งที่ต้องการและไม่ต้องการจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิ์ภาพมากขึ้น และแน่นอนว่าจากที่ผมใช้มา ChatGPT ค่อนข้างความจำสั้น หรือลืมบางเงื่อนไขอยู่บ่อย ๆ เพราะฉนั้นการที่คุณกำหนดคำสั่งสำหรับกำชับให้ทำตามเงื่อนไข เช่น <ห้ามใส่ข้อมูลที่ไม่รู้หรือมีที่มาไม่ชัดเจน,ทำตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด,ทำงานตามลำดับขั้นตอนอย่างเคร่งครัด> จะช่วยให้การทำงานตรงตามเงื่อไขมากขึ้น
- การใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ จะช่วยให้สื่อสารได้ง่ายขึ้น เพราะการพิมพ์โดยไม่มีเครื่องหมายคั่น หรือเว้นวรรคอาจทำให้ ChatGPT สับสนได้
ตัวอย่างการใช้ CRAFT Prompts Framework กับ ChatGPT
จากตัวอย่างจะเห็นว่าการใช้ Prompt นั้นไม่จําเป็นต้องจัดเรียงตามลำดับ Framework แต่สิ่งสําคัญที่ควรคำนึงคือความละเอียดของคำสั่ง ซึ่ง Prompt จะต้องครอบคลุมทุกส่วนของ Framwork เราจะกำหนดขั้นตอนไหนขึ้นก่อนก็ได้ เพียงแค่ต้องกำหนดขั้นตอนหรือรูปแบบการทำงานให้ชัดเจนก็เพียงพอแล้ว
หากเพื่อน ๆ อยากลองใช้ Framework นี้กับเครื่องมือ AI เจ้าอื่น อย่างเช่น MidJourney หรือ Shutter Stock ซึ่งมีหลักการใช้งานที่คล้ายกัน เพื่อน ๆ สามารถสั่งให้ ChatGPT สร้าง Prompt สําหรับใช้กับเจ้าอื่นได้
หรือหากเพื่อน ๆ มีภาพตัวอย่างที่ต้องการใช้เป็นแรงบันดาลใจในการเจนภาพออกมา เพื่อน ๆ สามารถอัปโหลดภาพนั้น เพื่อให้ ChatGPT สร้างคำบรรยายภาพที่ละเอียดออกมา ก่อนนำไปเจนภาพจาก AI ตัวอื่น ก็จะทำให้ได้ผลงานที่ตรงตามความต้องการมากขึ้นอีกด้วย
อ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะครับ
Source