LINE Thailand กับ Roadmap Ecosystem ยกระดับ Platform Business Model เพื่อดิจิทัลไทย

• Facebook
• X
• Line

ในยุคที่เทคโนโลยีคือหัวใจสำคัญของการสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ LINE Thailand ได้ประกาศ Roadmap ใหม่ในงาน LINE CONFERENCE THAILAND 2025 (LCT25) ที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการวางรากฐาน Ecosystem Strategy และยกระดับ Platform Business Model อย่างเป็นระบบ เป้าหมายหลักคือการเปิดพื้นที่ให้กับนักพัฒนาไทย พาร์ทเนอร์ และภาคธุรกิจได้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมบนแพลตฟอร์มที่คนไทยคุ้นเคยมากที่สุด ซึ่งก็คือ LINE Thailand ที่มีผู้ใช้งานกว่า 56 ล้านรายค่ะ

LINE ประเทศไทย ตอกย้ำการเป็น ‘แพลตฟอร์มเปิดเพื่อคนไทย’ ผ่านวิสัยทัศน์และโร้ดแมปการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เปิดรับการเชื่อมต่อไอเดียของนักพัฒนา พาร์ทเนอร์ และผู้ประกอบการ เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งาน LINE กว่า 56 ล้านคน มุ่งลดต้นทุนด้านทรัพยากรและเวลา พร้อมสร้าง Ecosystem ที่เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ สร้างโอกาสไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยค่ะ

การวางรากฐาน Model Platform และ Ecosystem ที่เติบโตไปด้วยกัน

สิ่งที่น่าสนใจคือ การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของ LINE Thailand ไม่ได้เป็นเพียงการประกาศนวัตกรรมใหม่เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการใช้โมเดล Platform Business Model อย่างชัดเจนค่ะ โดย LINE ทำหน้าที่เป็น “แพลตฟอร์มกลาง” ที่เปิดโอกาสให้กลุ่มผู้ใช้งานและนักพัฒนามีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน สร้างคุณค่าใหม่ร่วมกัน และทำให้แพลตฟอร์มมีศักยภาพในการเติบโตแบบยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังมีการใช้แนวคิด Ecosystem Strategy ควบคู่กัน ซึ่งหมายถึงการสร้าง “ระบบนิเวศทางดิจิทัล” ที่สนับสนุนทุกฝ่ายให้เติบโตไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นนักพัฒนา ธุรกิจ หรือผู้ใช้งาน โดยมีเครื่องมือ พื้นที่ทดลอง และช่องทางการสร้างรายได้อย่างเป็นระบบค่ะ

LINE Thailand ประกาศ Roadmap ผ่าน LINE CONFERENCE THAILAND 2025

โดยภายในงาน LINE CONFERENCE THAILAND 2025 บนเวทีสัมมนาด้านเทคโนโลยี ได้มีการเผย Roadmap เทคโนโลยีของ LINE ประเทศไทย พร้อมทิศทางสู่การเป็น Platform Provider ผนึกกำลังนักพัฒนาผนวกศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานของ LINE เพื่อนำไปต่อยอดเป็นโซลูชั่นที่หลากหลาย ตอบโจทย์ธุรกิจได้อย่างครอบคลุมค่ะ

ซึ่งเผยถึง 3 ไฮไลท์สำคัญสำหรับนักพัฒนาไทย กับการเปิดตัว LINE MINIAPP อย่างเป็นทางการ อัปเดตแผนการพัฒนา LINE OAPLUS แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานช่วยนักพัฒนาสร้างโซลูชั่นบน LINE ได้สะดวกขึ้น รวมถึงเตรียมส่งโปรเจ็กต์ใหม่ Bot Marketplace รวมหลากหลายแชทบอทในกรุ๊ปแชทให้ผู้ใช้ LINE ในไทยเลือกใช้งานได้ตามความต้องการในอนาคตอีกด้วยค่ะ

1. LINE MINIAPP

LINE MINIAPP คือก้าวสำคัญในการขยายขีดความสามารถของแพลตฟอร์มให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปฯ ของตัวเองบน LINE ได้โดยไม่ต้องพัฒนา Native App ที่ใช้เวลาและต้นทุนสูงค่ะ นี่คือการปรับโมเดลธุรกิจของ LINE ให้เป็นแบบ Platform Business Model อย่างชัดเจน ที่เปิดพื้นที่ให้คนภายนอกมาร่วมสร้างนวัตกรรมบนแพลตฟอร์มได้อย่างอิสระ

การแบ่งประเภท MINIAPP เป็น Verified และ Unverified รวมถึงฟีเจอร์ที่เพิ่มมา เช่น Short Cut บนโฮมสกรีน และ Service Message ฟรี ล้วนแต่ช่วยสร้างความได้เปรียบให้กับนักพัฒนาในการเข้าถึงผู้ใช้งานค่ะ

Platform Business Model เป็นรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ที่เน้นการเป็น “ตัวกลาง” เชื่อมต่อ 2 ฝ่ายขึ้นไป
เช่น LINE เป็นตัวกลางระหว่างนักพัฒนา & ผู้ใช้ หรือ แบรนด์ & ผู้บริโภค
รายได้มักมาจาก ค่าสมาชิก, ค่าธรรมเนียม, การโฆษณา หรือการใช้ API/บริการเสริม

ที่สำคัญคือการมี MINIAPP Playground ซึ่งเป็นเหมือน Sandbox หรือพื้นที่ทดลองพัฒนาสำหรับนักพัฒนาที่อาจยังไม่พร้อมเต็มที่ ถือเป็นกลยุทธ์ด้าน Ecosystem Strategy ที่ช่วยให้ระบบนิเวศของ LINE เติบโตจากภายใน พร้อมทั้งเปิดเวทีให้ 2 พาร์ทเนอร์อย่าง The Omelet and Anybot Thailand มาร่วมแบ่งปันโซลูชั่นสำหรับธุรกิจที่ขาดความพร้อมด้านทีมนักพัฒนา ให้สามารถสร้าง MINIAPP แบบ Low-code ได้สะดวกยิ่งขึ้นค่ะ

และอีกหนึ่งพาร์ทเนอร์อย่าง OKKAMI หนึ่งในเทคฯ พาร์ทเนอร์ ผู้มากประสบการณ์ที่สร้าง LINE MINIAPP ด้านการจัดการโรงแรมให้กับแบรนด์และองค์กรต่างๆ มากมายในกลุ่มธุรกิจ Hospitality ทั่วโลกค่ะ

2.LINE OAPLUS

ในมุมของกลยุทธ์แบบ Ecosystem Strategy แพลตฟอร์ม LINE OAPLUS ทำหน้าที่เป็น Infrastructure ที่นักพัฒนาสามารถใช้สร้างบริการได้โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ค่ะ ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนและเวลาในการพัฒนา แต่ยังเสริมความเชื่อมั่นจากตัวเลขการใช้งานจริง เช่น ความเสถียรที่สูงถึง 98.36% ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าแพลตฟอร์มนี้พร้อมต่อยอดสู่บริการระดับองค์กร

3. LINE BOT Marketplace

แนวคิด Network Effect ถูกต่อยอดอย่างชัดเจนผ่านการพัฒนา LINE BOT Marketplace ซึ่งเป็นศูนย์รวมแชทบอทในอนาคต ที่ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานตามความต้องการ ทั้งด้านไลฟ์สไตล์และธุรกิจได้ค่ะ

สิ่งที่น่าสนใจคือการเปิดโอกาสให้นักพัฒนาภายนอกสามารถออกแบบบอทและนำเสนอใน Marketplace นี้ได้ด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นถึงการเปิดระบบแพลตฟอร์มในเชิง Platform Business Model และการสร้างชุมชนนักพัฒนาในเชิง Ecosystem Strategy ค่ะ

สร้างโครงสร้างสนับสนุนผ่าน LINE Developer Partner

นอกเหนือจากแผนด้านเทคโนโลยีแล้ว LINE ยังได้เปิดตัว LINE Developer Partner Program ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในเชิง Ecosystem ที่เน้นการสร้าง “โครงสร้างสนับสนุน” ให้กับนักพัฒนาไทย โดยมีระบบ Certified Badge แบ่งระดับ Authorize, Professional และ Expert ค่ะ

เพื่อเข้าถึงทักษะความรู้เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญจาก LINE การสนับสนุนด้านการตลาด และโอกาสในการร่วมโปรเจ็กต์กับพาร์ทเนอร์ธุรกิจองค์กรต่างๆ ระดับประเทศมากมาย โดย LINE DEVELOPER PARTNER มีแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ ภายในงาน LINE ยังได้เปิดเวทีให้ 3 พาร์ทเนอร์ผู้ผ่านเข้าร่วมโปรแกรมแล้ว มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์และ Use Case ที่น่าสนใจ ได้แก่

พาร์ทเนอร์ในโปรแกรม เช่น Jenosize, EGG Digital และ Crescendo Lab ล้วนแต่เป็นตัวอย่างของการสร้าง Co-Creation ระหว่าง LINE และภาคเอกชนในรูปแบบที่ยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนด้านความรู้ เทคโนโลยี และการตลาดค่ะ

Jenosize ผู้พัฒนาเครื่องมือ MarTech แบบ All-in-One ช่วยแบรนด์สร้างโซลูชั่น Shop & Chat ได้อย่างครบวงจร โดยพร้อมปรับแผนโซลูชั่นให้ตอบโจทย์เฉพาะของแต่ละธุรกิจได้ รวมถึงจัดการบริหาร LINE OA ให้ลูกค้าแบรนด์มากมาย ช่วยธุรกิจเชื่อมต่อกับลูกค้าบน LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

EGG Digital ผู้พัฒนาเครื่องมือ MarTech ครบวงจรด้วยดาต้าอินไซต์ และเป็นผู้พัฒนาต่อยอด LINE Official Notification (LON) ระบบส่งข้อความแจ้งเตือนอัตโนมัติจาก LINE สู่บริการ E-LON ที่ช่วยติดตามการส่งข้อความ เพื่อเพิ่มอัตราการส่งข้อความสำเร็จและให้แบรนด์มั่นใจว่าสื่อสารได้ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้นค่ะ

Crescendo Lab บริษัทเทคฯ จากไต้หวันที่กำลังขยายธุรกิจสู่ไทย มุ่งเน้นโซลูชั่นสำหรับธุรกิจ Retail โดยพัฒนาโซลูชั่น MAAC ซึ่งเป็นระบบ AI Learning ที่ช่วยคาดการณ์พฤติกรรมลูกค้าและแนะนำข้อความที่ช่วยเพิ่ม Engagement ให้กับลูกค้าหลากหลายแบรนด์ได้เป็นอย่างดีค่ะ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีและโอกาสใหม่ๆ ที่เปิดกว้างสำหรับนักพัฒนาไทยจากงาน LCT25 เพื่อเดินหน้าสู่การเป็นแพลตฟอร์มเปิดที่สนับสนุนนักพัฒนาไทย สามารถเข้ามามีส่วนร่วม ต่อยอดการสร้างสรรค์โซลูชั่นที่ตอบโจทย์คนไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีไทยสู่อนาคตดิจิทัลอย่างแข็งแกร่งค่ะ

สิ่งที่ LINE Thailand แสดงให้เห็นจากงาน LCT25 ไม่ใช่แค่การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่เป็นการวางแนวทางธุรกิจที่มองไกลกว่าเดิม โดยใช้แนวคิด Platform Business Model เพื่อเปิดโอกาสให้นักพัฒนาและธุรกิจไทยเข้ามาร่วมสร้างคุณค่าบนแพลตฟอร์มได้จริง และขับเคลื่อนผ่าน Ecosystem Strategy ที่วางรากฐานไว้รองรับในระยะยาวค่ะ

LINE Thailand ไม่ได้เป็นแค่แอปแชทอีกต่อไป แต่กำลังก้าวสู่การเป็น “โครงสร้างพื้นฐานของดิจิทัลไทย” ที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วม เติบโต และสร้างสรรค์ไปด้วยกันค่ะ

Source

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่

• ก้าวสู่ปี 2025 เปิด กลยุทธ์เซ็นทรัลพัฒนา “Your Success Partner” ดูแลแบรนด์ทุกระดับ เล็ก-กลาง-ใหญ่ ด้วย Ecosystem ที่แข็งแกร่ง
• การสร้าง Brand Ecosystem แบบ LINE ที่ทำให้คนติดใจ

• Facebook
• X
• Line