การตลาด Heygoody เปิด Insight การออมภาษีคนไทย 4 Segment

ในยุคที่การวางแผนภาษีกลายเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสนใจและมองว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น บทความนี้พามาดู การตลาด Heygoody แพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัล ได้เผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการออมภาษีของคนไทยครับ โดยแบ่งได้ทั้งหมดเป็น 4 กลุ่ม ซึ่งสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงด้านทัศนคติและการจัดการทางการเงิน ซึ่งปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจและมีความรู้ด้านนี้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ 4 กลุ่มนี้มีอะไรบ้าง แต่ละกลุ่มมี Insight เป็นอย่างไร ติดตามในบทความนี้ได้เลยครับ

กลุ่มที่ 1 First Jobbers มือใหม่หัดออม

  • 80% ของคนกลุ่มนี้เป็นพนักงานบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงาน
  • ส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วยการออมผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund: PVD) โดยเฉลี่ย 10% ของรายได้
  • พฤติกรรมนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะสร้างรากฐานการเงินที่มั่นคงตั้งแต่ช่วงต้นของชีวิตการทำงาน

คนกลุ่มนี้เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานอย่างเต็มตัว เริ่มมีรายได้สม่ำเสมอและเริ่มตัดสินใจที่จะบริหารเงินในแบบของตนเอง การเลือกออมผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD) จึงเป็นทางเลือกที่ทั้งสะดวกและมีระบบระเบียบครับ แม้จะยังไม่ค่อยมีประสบการณ์หรือความรู้เชิงลึกด้านการลงทุนมากนัก แต่การหัก 10% ของรายได้ให้เป็นเงินออมอัตโนมัติ สะท้อนถึงจุดเริ่มต้นที่มุ่งมั่นในการสร้างความมั่นคงให้ตนเอง หลายคนในกลุ่มนี้อาจมีเป้าหมายระยะสั้น เช่น สะสมเงินดาวน์รถหรือที่พักอาศัย ในขณะเดียวกันก็เริ่มวางแผนระยะยาวด้านวัยเกษียณไปพร้อมกันอย่างค่อยเป็นค่อยไปครับ

กลุ่มที่ 2 Career Growers มืออาชีพสายเติบโต

การตลาด Heygoody

เมื่อพ้นช่วงเริ่มต้นของอาชีพมาได้ระยะหนึ่ง รายได้ที่เพิ่มขึ้นและประสบการณ์ในการทำงานทำให้กลุ่มมืออาชีพสายเติบโตเริ่มอยากใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางการเงินที่ซับซ้อนขึ้นครับ หลายคนอาจเริ่มแบ่งเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในกองทุนรวม ตราสารหนี้ หรือซื้อหุ้นเป็นครั้งแรก ความสนใจเรียนรู้วิธีเลือกหลักทรัพย์และมองหาโอกาสทางการลงทุนก็เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับภาระค่าใช้จ่ายหรือเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนขึ้น เช่น การวางแผนแต่งงาน การสร้างครอบครัว หรือการดูแลพ่อแม่ ทำให้พวกเค้ามีแรงจูงใจในการขยับขยายพอร์ตออมและลงทุนให้ตอบโจทย์เป้าหมายในหลายด้านพร้อม ๆ กันครับ

กลุ่มที่ 3 Investment-Minded Achievers นักลงทุนมุ่งเป้า

  • กลุ่มนี้เริ่มผสมผสานการลงทุนผ่าน PVD, RMF (Retirement Mutual Fund) และ SSF (Super Savings Fund)
  • พบว่า 9% ของพวกเค้าเริ่มกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ เพื่อการวางแผนที่ยืดหยุ่นและมั่นคงในระยะยาว

สมาชิกในกลุ่มนี้ไม่เพียงต้องการเก็บออม แต่ยังให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงและแสวงหาผลตอบแทนที่มากขึ้นอย่างเป็นระบบด้วยครับ พวกเค้ามักศึกษาข้อมูลด้านการลงทุนจากหลากหลายแหล่ง ทั้งบทวิเคราะห์การเงิน แพลตฟอร์มออนไลน์ หรือติดตามข่าวเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินหลายรูปแบบไปพร้อมกัน เช่น PVD, RMF และ SSF อีกทั้ง 9% ของกลุ่มนี้ยังลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ซึ่งอาจเป็นอสังหาริมทรัพย์ ทองคำ หรือกองทุนเฉพาะทาง เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างความยืดหยุ่นในการวางแผนการเงินระยะยาวครับ 

กลุ่มที่ 4 Retirement Strategists ผู้เชี่ยวชาญวัยเกษียณ

  • จาก 100 คนในกลุ่มนี้ มี 28 คนลงทุนใน SSF และอีก 25 คนเลือก RMF
  • แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในการวางแผนภาษีเพื่อการเกษียณและการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต
การตลาด Heygoody

ด้วยความที่อยู่ในช่วงอายุหรือสถานการณ์ที่เตรียมตัวใกล้เกษียณ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญวัยเกษียณจึงให้ความสำคัญกับการวางแผนทางการเงินที่รอบคอบและมองระยะยาวเป็นหลัก พวกเค้าคำนึงถึงการใช้ประโยชน์จากกฎหมายและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ อย่างเช่น การลดหย่อนภาษีผ่าน SSF หรือ RMF จึงทำให้เห็นสัดส่วนการลงทุนในทั้งสองกองทุนนี้ชัดเจนขึ้นครับ 

คนกลุ่มนี้มักมีตารางการลงทุนและเป้าหมายชัดเจน เช่น การตั้งเป้าว่าจะมีเงินใช้เดือนละเท่าไรหลังเกษียณ ควบคู่ไปกับการประเมินสุขภาพและค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลในอนาคต การคิดวางแผนรอบด้านนี้แสดงออกถึงความต้องการมั่นใจในคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนแม้ยามสิ้นสุดการทำงานประจำแล้วก็ตาม

ที่น่าสนใจคือ 90% ของผู้ใช้บริการ heygoody.com มีรายได้ระหว่าง 300,000 – 5,000,000 บาทต่อปี สะท้อนว่าการวางแผนภาษีไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปในปัจจุบันนี้ครับ และต้องบอกว่าแพลตฟอร์มออนไลน์อย่าง heygoody.com ยิ่งทำให้เรื่องยากเป็นเรื่องที่เข้าใจง่ายได้อย่างแท้จริงครับ

คุณภคมน ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ผู้ร่วมก่อตั้ง heygoody.com และ ผู้อำนวยการอาวุโส-Digital Transformation บมจ.เงินติดล้อ หรือ TIDLOR กล่าวว่า

แสดงให้เห็นว่า Heygoody ให้ความสำคัญกับการออกแบบแพลตฟอร์มที่คำนึงถึง “พื้นที่ส่วนตัว” ในการตัดสินใจด้านการเงินของลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยเปิดให้สามารถวางแผนภาษีได้ตลอด 24 ชั่วโมงตามความสะดวกของแต่ละคน ซึ่งต้องอาศัยทั้งข้อมูล ความรู้ และเวลาสำหรับการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ การไม่ถูกรบกวน ไม่ถูกบังคับหรือเร่งเร้าในการตัดสินใจ สามารถเลือกรับคำปรึกษาและจัดสรรเวลาจัดการเรื่องการเงินได้อย่างอิสระ ในขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้ใช้งานมีโอกาสศึกษาและเปรียบเทียบทางเลือกต่าง ๆ ได้อย่างสบายใจ ทำให้การวางแผนทางภาษีและการเงินมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นครับ

สรุป การตลาด Heygoody เปิด Insight การออมภาษีคนไทย 4 Segment

การตลาด Heygoody
AI image generated by Shutterstock (Prompt: A realistic portrayal of a modern Thai professional, deeply focused while reviewing tax documents at a tidy desk, dressed in semi-formal attire, illuminated by soft natural lighting from a nearby window, subtle emotions of concentration and thoughtfulness, cinematic tone.)

จากข้อมูล Insight ที่ Heygoody เปิดเผย เราจะเห็นภาพรวมของพฤติกรรมการออมภาษีและการวางแผนการเงินของคนไทยที่มีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น เริ่มตั้งแต่กลุ่ม First Jobbers ที่เพิ่งเริ่มสร้างรากฐานทางการเงิน ไปจนถึงกลุ่ม Retirement Strategists ที่เน้นการเตรียมพร้อมเพื่อวัยเกษียณอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ยังมีข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้บริการ Heygoody.com ถึง 90% มีรายได้ต่อปีระหว่าง 300,000 – 5,000,000 บาท

สะท้อนว่าการวางแผนภาษีได้ขยับเข้ามาเป็นเรื่องที่ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและตัดสินใจทำได้ด้วยตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ออกแบบให้ตอบโจทย์ “พื้นที่ส่วนตัว” เพื่อการตัดสินใจได้ 24 ชั่วโมง ลดความกังวลในเรื่องการถูกกดดันหรือเร่งเร้า ทำให้การศึกษาและเลือกเครื่องมือทางการเงินเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย สะดวก และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

ชื่อเติ้ลครับ ทำงานเป็น Data Research Insight & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *