เบื้องหลังแคมเปญการตลาด heygoody โบรกเกอร์ประกันที่ชนะใจชาว Introvert

คิดจะทำ Introvert Marketing ต้องเข้าใจ ‘วิธีการสื่อสาร’ บทความนี้จะชวนทุกคนมาเปิดเบื้องลึกเบื้องหลังวิธีคิดของการทำ Introvert Marketing จาก แคมเปญการตลาด heygoody ลูกเงินติดล้อ โบรกเกอร์ประกันที่ชนะใจชาว Introvert

เนื่องจากทางทีมการตลาดวันละตอนได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์และพูดคุยกับพี่โยโย่ ภคมน ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ผู้บริหารด้าน Digital Transformation ของเงินติดล้อ ทั้งในส่วนของ Digital Marketing, การสร้าง Platform รวมถึงเรื่องของดีไซน์และทำการตลาดออนไลน์ ที่มีทั้ง Mobile App, เว็บไซต์ และล่าสุดคือตัว heygoody.com

heygoody

heygoody.com กับแนวคิดที่ว่า ‘เป็นไปได้ไหม ที่คนไทยจะซื้อประกันได้ด้วยตัวเอง’

พี่โยโย่ได้แชร์ถึงจุดเริ่มต้นของการทำ heygoody.com ขึ้นมาเพราะเกิดจากความรู้สึกที่ว่า มันจะเป็นไปได้ไหม ที่คนไทยจะซื้อประกันได้ด้วยตัวเอง? เพราะจริง ๆ ที่เมืองนอกถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในเมืองไทยส่วนใหญ่การซื้อประกันยังคงต้องให้ข้อมูลส่วนตัวไว้แล้วรอคนโทรกลับ บางทีก็โทรมาในจังหวะที่ไม่สะดวกรับสายอีกด้วย

ยิ่งในปัจจุบันเรื่องของข้อมูล ที่คนมักให้ความสำคัญกับ Privacy กันมากขึ้น หวงข้อมูลมากกว่าสมัยก่อน รวมถึงหลาย ๆ คนที่ไม่ได้อยากรับสายคนแปลกหน้าตลอดเวลา ไม่ต้องรอเซลล์โทรหา ดังนั้น heygoody น่าจะเข้ามาตอบโจทย์คนที่อยากซื้อประกันได้ด้วยตนเอง เลือกเอง เปรียบเทียบเอง แบบไม่มีคนมากวนใจ

เพราะเรื่องของ ‘ประกัน’ ไม่ว่าจะเป็นประกันประเภทไหน มันก็ไม่ควรจะเป็น Product ที่น่ารำคาญ อย่างช่วง Covid-19 ก็ถือได้ว่าได้สอนให้เราได้เรียนรู้กันว่าจริง ๆ ว่าเรื่องของประกันสุขภาพนั้นเป็นสิ่งจำเป็น ทำให้คนมีมุมมองที่ดีเกี่ยวกับประกันมากขึ้น เพียงแต่ว่าด้วยวิธีการขายที่อาจจะทำให้คนรู้สึก ‘กลัว’หรือ ‘ขยาด’ ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ ทำให้ไม่อยากซื้อ สุดท้ายแล้วก็จะไม่สามารถเข้าถึงสิ่งที่ดีที่เราควรมีนั่นเองค่ะ

สรุปแล้วก็คือ heygoody เกิดขึ้นมาจากความสงสัยที่ว่า ‘ทำไมประกันถึงซื้อด้วยตัวเองไม่ได้’ รวมถึงความคิดที่ว่าเป็นไปได้ไหมที่เราจะลองสร้าง Platform ที่ขายประกันแบบจบทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง โดยไม่เจอคนเลยนั่นเอง

Insight จาก Pain Point ของคนซื้อประกัน

ความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นคนประเภทไหน ก็รำคาญคนโทรมาขายของกันได้ทั้งนั้น รวมถึงความคิดที่ว่าเขาเอาเบอร์เรามาจากไหนกันนะ? แถมต้องบอกเลขบัตรเครดิต  ซึ่งบางคนก็ไม่ได้รู้สึก Comfortable ที่จะให้ข้อมูลส่วนตัวขนาดนั้น โดยเฉพาะเรื่องของเงินทองที่ต้องระมัดระวังกันมากขึ้น

ยิ่งยุคปัจจุบัน พูดกันแบบง่าย ๆ คือโจรเก่งขึ้นทุกวันค่ะ มิจฉาชีพก็มีหลากหลายรูปแบบ ไม่รู้อันไหนจริงหรือปลอม heygoody จึงเหมือนเข้ามาช่วยตอบโจทย์ให้กับคนที่กลัวสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้นั่นเอง

ออกแบบ Solution เพื่อคน Introvert

heygoody team

สำหรับ Solution ต่าง ๆ ที่ทาง heygoody ตั้งใจออกแบบมาเพื่อคน Introvert รวมถึงใครก็ตามที่ชอบทำอะไรด้วยตัวเอง

  1. ไม่โทรกวนแน่นอน
  2. สามารถซื้อประกันเงียบ ๆ คนเดียวได้
  3. เปิด 24 ชั่วโมง อยากซื้อตอนไหนก็สามารถทำได้เลย ไม่หลอกหลอน ไม่คอยตาม
  4. ให้ความสำคัญกับความ Privacy ของข้อมูลส่วนตัว ลูกค้าเห็นราคาได้เลยโดยไม่ต้องกรอก ชื่อ นามสกุล บอร์โทร 
  5. Line Chat สำหรับคนที่ไม่ชอบโทรคุย แต่สะดวกใจกับการแชทมากกว่า เพราะจริง ๆ สินค้าประกันไม่ได้จำเป็นต้องมีฟีเจอร์อะไรเยอะแยะมากมายถ้าลูกค้าไม่ต้องการ รวมถึงในแชทสามารถย้อนกลับไปดูประวัติที่เคยคุยกับลูกค้าได้เช่นกัน

ความเป็นจริงแล้วก็ไม่ใช่แค่ Introvert แต่รวมถึงใครก็ตามที่อยากจะทำเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอคนมาโทรขาย ก็ถือได้ว่า heygoody มี Solution ที่พร้อมตอบโจทย์คนเหล่านี้แน่นอน

โดยพี่โยโย่ได้แชร์ว่าทาง heygoody นั้นให้ความสำคัญและใส่ใจกับทีม Service ใน Line มาก เพราะอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าหากมีปัญหาอะไร heygoody สามารถตอบและช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมงจริง ๆ ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความสบายใจหายห่วงนั่นเอง

คิดจะทำ Introvert Marketing ต้องเข้าใจ ‘วิธีการสื่อสาร’

ในมุมมองของพี่โยโย่ Introvert Marketing ก็คือการทำการตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มคน Introvert เพียงแต่สิ่งสำคัญคือการเข้าใจ ‘วิธีการสื่อสาร’ มากกว่า ที่อาจจะไม่ได้อลังการงานสร้าง เหมาพื้นที่ใหญ่ ๆ มากนัก

อย่างโฆษณาที่ heygoody ทำก็แทบจะไม่มีคำพูดเลย แต่ให้ความสำคัญกับการสื่อสารด้วยการใช้ ‘ความรู้สึกคุยกับความรู้สึก’ ทำให้คนดูรู้สึกว่าเราเข้าถึงและเข้าใจเขาได้มากที่สุดจริง ๆ มากกว่า ก็เลยทำแคมเปญหรือโฆษณานี้ออกมาผ่านการ ‘วาดรูป’จากศิลปินไทย และทำเป็น animation เพื่อให้คนเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายขึ้น

เพราะหลาย ๆ ครั้งเวลาคนเราอยากที่จะสื่อสารบางเรื่องออกไปให้คนอื่นรับรู้ มันก็ยากที่จะถ่ายทอดออกมาผ่านคำพูดหรือรูปประโยค บางคนจึงระบายความรู้สึกออกมาผ่านการวาดรูปหรือการแต่งเพลง เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่อาจจะดูเป็นการสื่อสารเชิงศิลปะ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถสื่อถึงความรู้สึกภายในใจได้เช่นกัน

จุดเริ่มต้นไอเดีย แคมเปญการตลาด heygoody Introvert

จากไอเดียที่ว่า ‘อยากให้คนซื้อประกันได้ด้วยตนเอง’ ดังนั้นอันดับแรกเลยที่ heygoody จะต้องไม่มีเหมือนคนอื่นก็คือ ‘พนักงานขาย’ แต่พอไม่มีพนักงานขาย ก็นำมาสู่คำถามที่ว่าแล้วจะทำยังไงให้ลูกค้ายังคงรู้สึกว่า ‘กล้าซื้อ’

จึงนำมาสู่การมี Line Chat ให้คนรู้สึกอุ่นใจว่าถ้าเกิดมีปัญหา ก็มีคนดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ใช่ว่าพอไม่มีการโทรขายแล้วจะไม่ดูแล

ทีนี้ในเรื่องของกลุ่มเป้าหมาย ก็ต้องมาคิดว่าแล้วเราจะคุยกับใครดี ที่ทำให้รู้สึกว่าเราเกิดมาเพื่อเค้าจริง ๆ อันดับแรกเลยคือต้องเป็นคนที่ไม่ชอบคุยกับใครเยอะ มีโลกส่วนตัวสูง อาจจะรู้สึกสะดวกใจที่จะคุยกับคนสนิท ถ้าไม่สนิทก็จะรู้สึกอึดอัด จึงเกิดความคิดต่อมาที่ว่าเราโฟกัสไปเลยว่าเป็นประกันสำหรับคน Introvert 

จากนั้นพอได้ Concept มาแล้ว ก่อนที่จะทำแคมเปญก็ต้องลอง Test และเล่าให้คนอื่น ๆ ฟัง ว่าหากจะใช้คำว่า ‘ประกันสำหรับคน Introvert’ นั้นคนมีความรู้สึกว่ายังไง ซึ่ง Feedback ออกมาดี คนชอบ จึงหยิบมาทำเป็นแคมเปญการตลาดต่อไป

ความตั้งใจที่ให้คนทำโฆษณานี้เป็น Introvert ทั้งหมด

heygoody ตั้งใจเลือกสรรคนทำแคมเปญนี้ให้เป็น Introvert ทั้งหมด เพื่อที่จะสามารถเข้าใจความเป็นคน Introvert ได้อย่างลึกซึ้ง และถ่ายทอดออกมาได้โดยไม่ต้องผ่านคำพูดอะไรมากมาย

ไม่ว่าจะเป็น ผู้กำกับ คนแต่งเพลง ศิลปินวาดภาพ รวมถึงนักแสดงทั้งหมดก็เช่นกัน ที่ต้องผ่านการสัมภาษณ์ และดูว่าเหมาะกับการสื่อสารและถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสถานการณ์ไหนมากที่สุด เป็นหนังที่สร้างจากความรู้สึกจริงของคน Introvert

คีย์หลักสำหรับการทำแคมเปญให้ชาว Introvert 

  1. คน Introvert อยู่ที่ไหน เราต้องอยู่ที่นั่น ดูว่ากลุ่มเป้าหมายเราชอบไปที่ไหน ทำอะไร เค้ารู้สึกอย่างไร โดยการยกสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เจอมาถ่ายทอดในหนัง
  2. การทำการตลาดผ่าน KOL เพื่อเข้าถึงกลุ่มคน Introvert เช่น เลือก Influencer ที่เป็น Introvert หรือเป็นกลุ่มคนที่ Introvert ติดตามอยู่แล้วนั่นเอง

ติดอันดับ 1 ใน 6 ของหนังโฆษณาที่ดีที่สุดจากหนังโฆษณาทั่วโลก

heygoody introvert

กระแสตอบรับของแคมเปญนี้ที่เกินความคาดหมายไปมาก โดยได้รับยอดวิวถึง 1,000,000 ภายใน 12 ชั่วโมงแรก รวมถึงมีคอมเมนต์ดี ๆ ที่ทำให้ใจฟูมากมาย ที่สำคัญคือการได้เห็นคนที่มีมุมมองและความรู้สึกกับ ‘ประกัน’ ดีขึ้น 

ซึ่งทำให้แบรนด์รู้สึกดีมาก ๆ เพราะมันไม่ใช่แค่การ Unlock ในส่วนของแบรนด์ heygoody แต่ Unlock ความรู้สึกของคนไทยในภาพรวมว่าประกันไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่น่ากลัวนะ ยังมีประกันที่ Friendly และสามารถเข้าถึงได้จริง

อีกทั้งผลงานโฆษณา heygoody Introvert Based on true feelings นี้ยังได้ Best Ads on TV ที่เป็นเว็บไซต์รวบรวมผลงานโฆษณาที่โดดเด่นจากทั่วโลก มีการคัดเลือกและจัดอันดับผลงานโฆษณาในทุกสัปดาห์ ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 6 ของหนังโฆษณาที่ดีที่สุดจากหนังโฆษณาทั่วโลกเลยทีเดียว

ทิ้งท้ายสำหรับคนที่อยากทำแคมเปญเพื่อคน Introvert เหมือนกัน

พี่โยโย่ได้แชร์ว่า heygoody ใส่ใจกับเรื่องของ Customer Centric เป็นหลัก ให้เอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง ใส่ใจว่าลูกค้าอยากได้ยินอะไร ลูกค้าอยู่ที่ไหน และจะใช้แค่สัญชาตญาณหรือทำตามคนอื่นอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องหา Insight ของตัวเองให้เจอ 

ใช้ Winning Zone หรือจุดแข็งของแบรนด์เรา ซึ่งเป็นสิ่งที่คู่แข่งไม่มี และเป็นสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ มา วิเคราะห์ และนำมาสื่อสารเป็น Message ออกไปให้ได้

ทิ้งท้ายสำหรับทีมงานของ heygoody แม้จะมีไม่มาก แต่ทำงานด้วยใจและแพชชันเต็มเปี่ยม ด้วยความที่อยากยกระดับประกันของคนไทย heygoody ให้ความสำคัญกับความคุ้มครอง การเคลม และการเบิกจ่ายเป็นหลัก 

ไม่ได้มองว่าใครให้ค่าคอมกับบริษัทเยอะสุด แต่มองถึงเรื่องของความคุ้มครองที่ดีที่สุดและราคาที่เหมาะสม ทีมงานที่คัดสรรประกันต้องรู้สึกอยากได้ก่อน ถึงจะอยากนำมาขายต่อ สินค้าดี บริการเยี่ยม ราคาเข้าถึงได้ และเมื่อมีของดีแล้วต้องสื่อสารให้เป็น

ดังนั้นสำหรับใครที่กำลังมองหาประกันออนไลน์แบบไม่รบกวน ไม่โทรขาย ซื้อเองได้ 24 ชั่วโมง อย่าลืมนึกถึง heygoody โบรกเกอร์ประกันออนไลน์ ที่เข้าใจคุณ นะคะ

รับชมหนังที่สร้างจากความรู้สึกจริงของคน Introvert จาก heygoody ที่นี่

และทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอนที่ เว็บไซต์Facebook  Instagram Twitter  และ Youtube ได้เลย

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

เฟิร์น Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *