เคยสังเกตไหมคะว่า ทุกวันหยุดยาว ฟีดโซเชียลเต็มไปด้วยภาพเช็กอินจากสนามบิน คาเฟ่สุดฮิต หรือแลนด์มาร์กดัง ๆ ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่บ่งบอกว่า “คนชอบเที่ยว” แต่เป็นสัญญาณว่าพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ค่ะ ทุกวันนี้การเดินทางกลายเป็นมากกว่าการพักผ่อน เพราะเป็นการเติมเต็ม Passion สร้างประสบการณ์ใหม่ และแชร์คอนเทนต์ให้โลกรู้ 50% และมาพร้อม 6 เทรนด์เที่ยวซัมเมอร์ 2025 ที่ธุรกิจต้องจับตา ไม่ว่าจะเป็นการตามศิลปินไปคอนเสิร์ต เที่ยวเมืองลับที่คุ้มค่ากว่า หรือการหาข้อมูลผ่าน TikTok มากกว่า Google!
แล้วเทรนด์เหล่านี้กำลังบอกอะไรเรา? และแบรนด์ของคุณจะคว้าโอกาสจากกระแสนี้ยังไง? ไปดูกันเลยค่ะ
ทำไมเทรนด์ท่องเที่ยวถึงสำคัญต่อธุรกิจ ?ยอดจองกิจกรรมท่องเที่ยวผ่าน Klook ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และวันหยุดยาว พุ่งขึ้น 50% เมื่อเทียบกับปีก่อน (2024) นี่ไม่ใช่แค่การฟื้นตัวหลังโควิด แต่เป็นสัญญาณว่า การเดินทางกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการใช้เงินของคนยุคนี้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลอย่างสงกรานต์และวันหยุดยาวที่คนไทยมองว่าเป็นโอกาสทองในการออกไปสร้างความทรงจำดี ๆ กับครอบครัว เพื่อน หรือคนรักค่ะ
AI image generated by Shutterstock (Prompt : a group of Thai friends on the back of a pickup truck, joyfully spraying water guns during Songkran festival, soaked clothes, colorful flags strung across the street, motion blur and splashes create dynamic energy, cinematic wide shot –ar 16:9)
โอปอว่าสิ่งที่น่าสนใจคือ “การท่องเที่ยว” ไม่ใช่แค่เรื่องของอุตสาหกรรมสายท่องเที่ยวอีกต่อไป แต่เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงไปถึงธุรกิจอื่น ๆ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ และแม้แต่แบรนด์เทคโนโลยี ธุรกิจที่เข้าใจพฤติกรรมนี้และปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มที่เกิดขึ้น จะสามารถใช้โอกาสนี้ขยายตลาดและสร้างการเติบโตได้อย่างมหาศาลค่ะ
ถ้าพร้อมแล้ว มาเจาะลึก 6 เทรนด์ท่องเที่ยวรับซัมเมอร์ที่ธุรกิจต้องจับตา และมาดูกันว่าเทรนด์เหล่านี้สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคได้ยังไงบ้าง
6 เทรนด์ท่องเที่ยวรับซัมเมอร์ ที่ธุรกิจต้องจับตา 1. Theme Park Fever สวนสนุกยังมาแรง ประสบการณ์ที่ซื้อซ้ำได้เสมอ สวนสนุกระดับโลกอย่าง Disneyland และ Universal Studios ยังคงเป็นจุดหมายหลักที่คนอยากไป เพราะมันให้มากกว่าความสนุก มันให้ “เรื่องราว” และโมเมนต์ที่แชร์ได้ เทรนด์นี้เหมือนเป็นการตอกย้ำว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์ที่รู้สึก” มากกว่าแค่จุดหมายปลายทาง และพร้อมจ่ายเพื่อโมเมนต์ที่มีความหมาย
2. Cruise for All ล่องเรือสำราญ กลายเป็นทริปยอดฮิตของคนรุ่นใหม่ เรือสำราญเคยถูกมองว่าเป็นทริปของผู้สูงวัย แต่ตอนนี้ Gen Z และ Millennials กำลังเปลี่ยนมุมมอง โดยเฉพาะเมื่อมี Disney Cruise เพราะมันไม่ได้ขายแค่การเดินทาง แต่เป็นประสบการณ์ที่แฟน ๆ อยากมีส่วนร่วม กับกิจกรรมและบรรยากาศที่ให้ฟีลเหมือนได้เข้า Disneyland บนน้ำ ทำให้เรือสำราญกลายเป็นทริปที่คนรุ่นใหม่อยากไป
เทรนด์นี้สะท้อนว่า ถ้าแบรนด์สามารถเปลี่ยนภาพจำของตัวเอง และสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าใหม่ ๆ ได้ ก็สามารถขยายตลาดไปได้ไกลกว่าที่คิด ค่ะ
3. TikTok Travel Hacks คนหาข้อมูลเที่ยวจาก TikTok มากกว่า Google Gen Z และ Millennials ไม่ใช้ Google หาข้อมูลเที่ยวเหมือนเดิมแล้วค่ะ พวกเขาหันไปดูวิดีโอรีวิวจาก TikTok ที่ให้ข้อมูลจริงแบบเรียล ๆ (โอปอเองก็เป็น) เทรนด์นี้บอกเราว่า ผู้บริโภคต้องการข้อมูลที่ “จริง” และ “รวดเร็ว” มากกว่าคอนเทนต์ที่ปรับแต่งจนสวยเกินจริง
4. Drive Your Own Adventure เช่ารถขับเอง = อิสระในการออกแบบทริป การเดินทางแบบแพ็กเกจสำเร็จรูปเริ่มไม่ตอบโจทย์ คนอยากจัดทริปของตัวเอง และ “ขับรถเที่ยวเอง” ก็กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่ขับรถง่ายอย่างญี่ปุ่นและเกาหลี เทรนด์นี้สะท้อนว่า ความยืดหยุ่นกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสินค้าและบริการ
5. Destination Dupes เที่ยวเมืองรองแต่ได้ฟีลเดียวกัน นักท่องเที่ยวเริ่มเบื่อความแออัดและค่าครองชีพที่สูงของเมืองยอดฮิต ทำให้พวกเขาเลือก “เมืองรอง” หรือสถานที่ที่มีบรรยากาศคล้ายกันแต่คุ้มค่ากว่า เทรนด์นี้สะท้อนว่า คนไม่ได้อยากได้ของถูกที่สุด แต่ต้องการ “คุ้มค่าที่สุด”
6. Gig Tripping & Stadium Safaris เที่ยวตาม Passion คนพร้อมจ่ายเพื่อฝัน คนรุ่นใหม่ยอมลงทุนเดินทางข้ามประเทศเพื่อไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินที่รัก หรือเชียร์ทีมฟุตบอลที่ชอบติดขอบสนาม เทรนด์นี้ตอกย้ำว่า ผู้บริโภคพร้อมจ่ายถ้าสิ่งนั้นเติมเต็มความฝันและสร้างอารมณ์ร่วมให้พวกเขาได้
Klook กับกลยุทธ์การตลาดสุดเฉียบ เมื่อเข้าใจว่าคนให้ความสำคัญกับ “ดีลที่คุ้มค่า + ประสบการณ์ที่น่าจดจำ” Klook จึงไม่ได้แค่ขายแพ็กเกจท่องเที่ยว แต่สร้าง “เหตุผล” ให้คนอยากเที่ยว และทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
Flash Sale และโปรโมชันต่อเนื่อง กระตุ้นให้เกิดการจองKlook Summer Fest (21-23 มีนาคม 68, Central World) เชื่อมโยงอีเวนต์ออฟไลน์เข้ากับการจองแบบดิจิทัล ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ทันทีCollaboration กับพาร์ทเนอร์ เช่น สายการบิน และบัตรเครดิต เสนอส่วนลดและสิทธิพิเศษเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายPersonalized Service อย่าง “กูรูช่วยแพลนทริป” ที่ตอบโจทย์เทรนด์ Customizable Trip
โอกาสใหม่จะเป็นของแบรนด์ที่เข้าใจ “Mindset” ของนักเดินทางยุคนี้ 6 เทรนด์ที่เกิดขึ้นไม่ได้แค่เปลี่ยนวิธีที่คนเดินทาง แต่มันกำลังสะท้อนพฤติกรรมการใช้เงินที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เน้นการซื้อของ มาเป็นการลงทุนในประสบการณ์ เพราะนักเดินทางยุคนี้ไม่สนแค่ปลายทาง แต่สนใจว่าระหว่างทางมีอะไรที่ทำให้ทริปพิเศษขึ้น
สำหรับธุรกิจ นี่คือโอกาสสำคัญที่จะเข้าไปเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของประสบการณ์เหล่านั้น แต่จะทำได้ยังไง? ลองดู 6 มุมคิดที่ธุรกิจควรปรับใช้ ที่โอปอสรุปมาให้ เพื่อเข้าถึงนักเดินทางยุคนี้ให้ได้จริงกันค่ะ
สร้างคุณค่าที่เชื่อมโยงกับประสบการณ์ ถ้าสินค้าหรือบริการของคุณช่วยให้ทริปของลูกค้าสะดวกขึ้น สนุกขึ้น หรือเติมเต็มความพิเศษได้ มันจะขายได้ง่ายเข้าใจว่า “ คุ้มค่า” สำคัญกว่าถูกที่สุด คนยุคนี้ไม่เน้นของถูกที่สุด แต่ต้องรู้สึกว่าจ่ายแล้ว “สมราคา”ทำให้แบรนด์เป็นส่วนหนึ่งของโมเมนต์ที่แชร์ได้ ถ้าสินค้าของคุณทำให้ทริปของลูกค้าน่าจดจำ และเป็นคอนเทนต์ที่อยากแชร์ = ได้การบอกต่อแบบฟรี ๆขายของให้ Passionate Travelers ถ้าสินค้าของคุณช่วยให้คนได้ใช้ชีวิตตาม Passion ไม่ว่าจะเป็นดนตรี กีฬา หรือของกินอร่อย ๆ คนก็พร้อมจ่ายเสนอ “Dupe Experience” หรือประสบการณ์ที่คุ้มค่ากว่า คนมองหาทางเลือกที่ให้ฟีลเดียวกับของแพง แต่ราคาเข้าถึงได้“ความยืดหยุ่น” คือมาตรฐานใหม่ของทุกธุรกิจ ผู้บริโภคต้องการ Customization ถ้าธุรกิจคุณให้พวกเขาเลือกปรับแต่งได้เอง คุณจะได้เปรียบมากกว่า
สรุป 6 เทรนด์เที่ยวซัมเมอร์ 2025 คนยุคนี้เที่ยวเพื่อ Passion ไม่ใช่แค่พักผ่อนพูดง่ายๆ คือ ตอนนี้คนไม่ได้เที่ยวแค่เพราะอยากพักผ่อน แต่พวกเขา “เลือกใช้เงินกับประสบการณ์ที่มีความหมาย” มากกว่าการซื้อของที่จับต้องได้ค่ะ ทริปแต่ละทริปต้อง สนุก คุ้มค่า และแชร์ได้ นี่แหละที่ทำให้การท่องเที่ยวกลายเป็นตลาดใหญ่ ที่ไม่ใช่แค่ธุรกิจสายเที่ยวที่ต้องสนใจ แต่แบรนด์อื่น ๆ ก็สามารถเข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางได้เหมือนกัน
สำหรับแบรนด์ที่อยากเติบโตในยุคที่ผู้บริโภคขับเคลื่อนด้วย Passion และ Experience มากกว่าราคา นี่คือโอกาสสำคัญค่ะ คนรุ่นใหม่ไม่ได้มองหาสินค้าหรือบริการที่ถูกที่สุด แต่พวกเขามองหาสิ่งที่ “ใช่” และ “เติมเต็มประสบการณ์ของตัวเอง” ถ้าธุรกิจของคุณสามารถช่วยให้พวกเขาเที่ยวสนุกขึ้น สะดวกขึ้น มีโมเมนต์ที่น่าจดจำมากขึ้น หรือเติมเต็มความฝันพวกเขาให้เป็นจริงได้ พวกเขาพร้อมจ่ายแบบไม่ลังเล
สุดท้ายแล้ว คำถามสำคัญไม่ใช่แค่ว่า “นักเดินทางยุคนี้กำลังออกไปค้นหาประสบการณ์อะไร?” แต่คือ “แบรนด์ของคุณพร้อมจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทริปในฝันของพวกเขาหรือยัง?” แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :0)
อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่
