Psychology in Data Instagram เมื่อการวิเคราะห์จากรูปใน Instagram ก็สามารถบอกได้ว่าใครที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคซึมเศร้าได้แม่นยำถึง 70% อีกหนึ่งเคสในการใช้ Data ด้าน Psychology ที่อาจสามารถช่วยคนหลายร้อยล้านคนบนโลกให้รู้ตัวก่อนที่จะเป็นหนัก หรือรักษาคนที่เป็นหนักก่อนที่จะถลำลึกครับ
ในยุค Big Data ที่ไม่ว่าใครก็พยายามทั้งเก็บและวิเคราะห์ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพราะการมี Data ว่าสำคัญแล้ว แต่การตีความหมายที่ซ่อนอยู่ใน Data นั้นสำคัญกว่า เพราะ Data ชุดเดียวกันแต่จะมีค่ามากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ การตีความ หรือประสบการณ์ของผู้ใช้ครับ
โดยเฉพาะกับ Public Data หรือ Data บน Social media ที่ใครๆต่างก็อยากจะใช้ขุมทรัพย์ Big Data แห่งนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพราะข้อดีคือไม่ต้องไปเริ่มเก็บหาใหม่ตั้งแต่ต้น แต่สามารถเอา Algorithm มาต่อยอดค้นหาคุณค่าที่ซ่อนอยู่เพื่อให้เกิดมูลค่าตามมา
เหมือบกับที่สองนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอย่าง Andrew Reece แห่งมหาวิทยาลัย Harvard University และ Massachusetts กับ Chris Danforth แห่งมหาวิทยาลัย Vermont ที่ค้นพบเบาะแสสำคัญจาก Data ที่ซ่อนอยู่ในรูปที่เราโพสลง Instagram ที่สามารถบอกได้ว่าใครกันที่กำลังจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้าครับ
Selfie อาจหมายถึง Sad Selfie หรือต้องเรียกใหม่ว่า Sadfie ก็ได้ครับ
แล้วจากการวิจัยนี้ที่ใช้การวิเคราะห์รูปถ่ายที่โพสบน Instagram ก็ทำให้สามารถบอกได้ว่าใครกำลังอยู่ในภาวะซึมเศร้าได้แม่นยำถึง 70% เมื่อเทียบกับการใช้แบบสอบถามที่ใช้ทดสอบสุขภาพจิตใจเป็นมาตรฐานในวันนี้ นั่นหมายความว่าการค้นพบจากการวิจัยในครั้งนี้กำลังจะเปลี่ยนวิธีการค้นพบ และเข้าถึงผู้ที่กำลังป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้สะดวกและรวดเร็วขึ้นมาก เพียงแต่ใช้ public data หรือ data จาก social media อย่าง Instagram ก็สามารถบอกได้ว่าใครกันนะที่กำลังอยู่ในภาวะซึมเศร้า
เป็นอย่างไรครับกับการใช้ Big Data ในด้านการแพทย์ในสาขา Psychology ที่อาจจะช่วยคนอีกหลายร้อยล้านคนให้ไม่ต้องจมอยู่กับภาวะซึมเศร้าคนเดียวอีกต่อไป Psychology in Data Instagram
ใต้รูป Ryan ประโยคที่ว่า “ คนที่อยู่ในภาวะซึมเศร้ามีโนวแน้มว่าจะใช้เลือกฟิวเตอร์ Inkwell“
โนวแน้ม > แนวโน้ม
ผมก็ผวนตามเลย
ขอบคุณที่ทักท้วงมา แก้ไขเรียบร้อยครับ ^^