ในขณะที่เราเข้าสู่ปี 2024 และกำลังจะก้าวสู่ปี 2025 การเปลี่ยนแปลงในโลก เทคโนโลยียุคใหม่ และโซเชียลมีเดียกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว Facebook ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ไม่หยุดในการพัฒนาตนเองเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Young adults) ที่มีพฤติกรรมและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
วันนี้อยากขอชวนผู้อ่านที่น่ารักทุกคนไปสำรวจอนาคตของ Facebook กับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาที่มุ่งเน้นความสอดคล้องกับความต้องการของผู้โดยตรง ที่ทางการตลาดวันละตอนเองได้ไป เข้าร่วมฟังบรรยายสดกับ คุณทอม อลิสัน รองประธานของ Facebook จาก Meta จะมีอะไรกันบ้างนั้นตามไปอ่านกันได้เลย
ในวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา คุณ ทอม อลิสัน รองประธานของ Facebook ออกมาบรรยายสดในหัวข้อ ‘Future of Facebook’ ว่า “ในขณะที่เรามองไปที่การเติบโตในอีก 20 ปีข้างหน้า เรามุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างสรรค์แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยุคต่อไป เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ (Young adults) และการพัฒนาความสามารถใหม่ ๆ ของผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI” (Artificial Intelligence)
และเพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในอนาคต เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ถือเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมและการพัฒนาที่ต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น…
การสร้างโซเชียลมีเดียยุคใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่
ทาง Facebook ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อตอบสนองกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต เช่น การเข้ามหาวิทยาลัย การเริ่มงานแรก หรือการท่องเที่ยวในสถานที่ใหม่ๆ
โดยที่ Facebook มุ่งที่จะเป็นแพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกันผ่านฟีเจอร์ต่างๆ เช่น กลุ่ม (Groups) และ Reels ที่ช่วยให้การค้นหาและแบ่งปันคอนเทนต์ที่สนใจเป็นเรื่องง่ายขึ้น
ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่นั้นกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามหาวิทยาลัย การทำงานที่แรก การพบปะเพื่อนใหม่ หรือการไปท่องเที่ยวสำรวจเมืองใหม่ ๆ
Facebook อยากจะช่วยให้พวกเขาผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านี้ไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นการหา “กลุ่ม” (Groups) ที่มีใจรักในสิ่งเดียวกัน การค้นหาสิ่งที่พวกเขาสนใจผ่าน Reels หรือการค้นพบครีเอเตอร์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเขา
การพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ด้วย AI
aijourn.com
หนึ่งในทิศทางหลักของ Facebook คือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัย โดยในปี 2024 นี้ Facebook ได้อัปเกรดเทคโนโลยีการจัดอันดับ Reels และฟีด เพื่อให้การแนะนำเนื้อหาตรงใจผู้ใช้มากยิ่งขึ้น เน้นว่าตรงใจผู้ใช้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นโครงสร้างโมเดลใหม่ที่สามารถเรียนรู้จากชุดข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของ Facebook Reels ได้อีกมากมาย
ทาง Facebook กล่าวว่า “เราได้อัปเกรดเทคโนโลยีการจัดอันดับ Reels และฟีดของเรา เพื่อมอบการแนะนำเนื้อหาที่ตรงใจผู้ใช้ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เรายังกำลังสร้างหนึ่งในคอลเลกชันสำหรับ Open Model เครื่องมือต่าง ๆ และทรัพยากรสำหรับ Generative AI ที่ดีที่สุดด้วย Meta Llama เป้าหมายของเราภายในสิ้นปี พ.ศ. 2569 คือการมีเทคโนโลยีในการแนะนำเนื้อหาแก่ผู้ใช้ที่ดีที่สุดในโลก”
การพัฒนาประสบการณ์รับชมวิดีโอ
ในปัจจุบัน แน่นอนว่าวิดีโอยังคงเป็นเนื้อหาหลักที่ผู้ใช้ให้ความสนใจบนแพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram โดยมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ เพื่อให้การค้นหาและเชื่อมต่อกับเนื้อหาวิดีโอเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Reel วิดีโอยาว หรือคอนเทนต์แบบไลฟ์
ซึ่งเนื้อหาวิดีโอยังคงมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องบนแพลตฟอร์มของ Facebook โดยในปัจจุบันมีจำนวนเปอร์เซ็นอยู่ที่ 60%
อีกทั้งเวลาที่ผู้คนใช้บน Facebook และ Instagram มาจากการรับชมวิดีโอทั้งสิ้น ซึ่งคอนเทนต์วิดีโอสั้น Reels มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโต
นอกจากนี้ ทาง Facebook ยังได้ปรับปรุงประสบการณ์การรับชมวิดีโอบน Facebook ด้วยการอัปเดตการเล่นวิดีโอแบบเต็มจอ และฟีเจอร์ที่ช่วยเลื่อนไปยังเนื้อหาที่ต้องการสำหรับวิดีโอยาวต้องบอกเลยว่าฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์สายชอบดูวิดีโอแบบเต็มจอไม่ไหว
โอกาสในการเติบโตของครีเอเตอร์
ทาง Facebook เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถผันตัวเป็นครีเอเตอร์ได้ง่ายขึ้น โดยเปิดตัวฟีเจอร์ Professional Mode ที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการโพสต์เนื้อหาแบบสาธารณะ
และเพิ่มยอดผู้ติดตาม อีกทั้งยังมีการปรับปรุงโมเดลการจ่ายเงินให้กับเหล่าครีเอเตอร์ เพื่อให้การสร้างรายได้เป็นเรื่องง่ายและมีโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติมจากคอนเทนต์ทุกรูปแบบอีกด้วย
Professional Mode สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยมียอดผู้ใช้งาน 100 ล้านคนต่อวันภายใน 18 เดือน ทาง Facebook ก็จะจ่ายเงินให้กับเหล่าครีเอเตอร์ โดยเงื่อนไขนั้นพิจารณาจากประสิทธิภาพของคอนเทนต์บน Facebook
ถือว่าเป็นการช่วยให้การสร้างรายได้ของครีเอเตอร์เป็นเรื่องง่ายขึ้นอย่างมาก อีกทั้งยังขยายโอกาสในการสร้างรายได้เพิ่มเติมสำหรับคอนเทนต์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความอีกด้วย
กลุ่มบน Facebook
กลุ่ม (Groups) ยังคงเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่มีความสำคัญและเติบโตอย่างต่อเนื่อง Facebook กล่าวว่ามีผู้ใช้กว่า 1.8 พันล้านคนมีส่วนร่วมกับกลุ่มต่างๆ ในแต่ละเดือน Facebook มุ่งเน้นการพัฒนากลุ่มให้เป็นพื้นที่สำหรับการค้นพบและแบ่งปันข้อมูลที่มีคุณค่า
โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีการโพสต์ในกลุ่มแบบไม่ระบุตัวตนมากขึ้น
ซึ่งกลุ่มคนผู้ใช้รุ่นใหม่ (Young adults) จากการสำรวจนั้นพบว่ามีการโพสต์ในกลุ่มบน Facebook มากขึ้น โดยมักเป็นการโพสต์แบบไม่ระบุตัวตน ในกลุ่มที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะ
ซึ่งทาง Facebook มุ่งพัฒนา ไปในทิศทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาจากโซเชียลมีเดีย นั่นคือการค้นพบบนโลกโซเชียลที่ช่วยเปิดโลกกว้างในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งในมุมมองเล็กหรือใหญ่
อีกทั้งทาง Facebook กำลังดำเนินงานตามความมุ่งมั่นนี้กับชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งก็เต็มไปด้วยผู้คนที่มีความสนใจที่สอดคล้องกับเป้าหมายของเรา นั่นคือการพัฒนาฟีเจอร์ที่แปลกใหม่เพื่อช่วยให้ผู้คนได้มีส่วนร่วมกับสิ่งที่พวกเขาค้นพบในแบบที่พวกเขาต้องการ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยหนึ่งในเทคโนโลยี AI ที่ดีที่สุดในโลก (Facebookกล่าว)
กล่าวโดยสรุปก็คือ กลุ่ม (Groups) บน Facebook มีผู้ใช้กว่า 1.8 พันล้านคนต่อเดือน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่โพสต์แบบไม่ระบุตัวตนมากขึ้น Facebook พัฒนากลุ่มเพื่อการค้นพบและแบ่งปันข้อมูลที่มีคุณค่า พร้อมทั้งพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ด้วยเทคโนโลยี AI เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้
สรุป
Facebook กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อรองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมและความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วกับ เทคโนโลยียุคใหม่ โดยเน้นการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ต่าง ๆ
เช่น Reels และ Groups เพื่อให้ตอบโจทย์การค้นพบและการเชื่อมต่อกับกลุ่มคนที่มีความสนใจเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น การสร้างโซเชียลมีเดียยุคใหม่สำหรับคนรุ่นใหม่, การพัฒนาศักยภาพของผลิตภัณฑ์ด้วย AI, การพัฒนาประสบการณ์รับชมวิดีโอ, โอกาสในการเติบโตของครีเอเตอร์ บอกเลยว่าน่าสนใจมากก
สุดท้ายนี้ผู้เขียนอยากชวนทุกคนใช้โซเชียลกันอย่างมีสติและปลอดภัยกันนะคะและอย่าลืมรักษาสมดุลระหว่างการใช้โซเชียลมีเดียและการใช้ชีวิตจริง
ควรมีเวลาให้กับการทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี เช่น การออกกำลังกาย การอ่านบทความดี ๆ ของการตลาดวันละตอน อ่านหนังสือ หรือการใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อน ๆ
สำหรับผู้อ่านที่น่ารักทุกคนไม่อยากพลาดข่าวสารดี ๆ ติดตามข่าวสารทางการตลาด แหล่งรวมความรู้ดี ที่อัปเดททุกวัน สไตลด์การตลาดวันละตอนทางผู้เขียนเองก็มีช่องทางแนะนำเพิ่มเติมให้ผู้อ่านทุกท่านแวะไปทักทายพูดคุยกันได้สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์TwitterInstagram และ YouTubeของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ see you kaヽ(•‿•)ノ
บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ
