การตลาดร้านกาแฟ The Baristro เปลี่ยน Pain Point ให้กลายเป็นโอกาส

หลายคนเวลาที่อยากจะออกไปนั่งทำงานข้างนอก หรืออยากจะหาที่พักผ่อนพร้อมกับจิบกาแฟที่ถูกปากในวันหยุดสุดสัปดาห์ แน่นอนคำตอบของคำถามนั้นส่วนใหญ่ก็คงจะเป็น “ร้านกาแฟหรือคาเฟ่” แต่การที่เราจะหาร้านเหล่านี้ดี ๆ สักร้านที่ถูกใจเราก็ไม่ใช่เรื่องง่าย “อยากได้บรรยากาศร้านที่ดี แต่รสชาติของกาแฟก็ต้องถูกปาก” วันนี้ผมเลยอยากจะพาทุกคนมาทำความรู้จัก การตลาดร้านกาแฟ The Baristro แบรนด์ Local จากจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีเสน่ห์ทั้งด้านรสชาติของกาแฟ และบรรยากาศที่ชวนให้หลงใหล จนสามารถขยายสาขาได้ถึง 9 สาขา

ถ้าพูดถึงอุตสาหกรรม Coffee & Cafe บอกเลยว่าใคร ๆ ก็อยากเข้ามาลงสนามในตลาดนี้ แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าสนามแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้เล่นมากมายที่พร้อมแข่งขันกันอย่างดุเดือด จนนักการตลาดหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันคือ ‘ทะเลแดงเดือด หรือ Red Ocean’ โดยเฉพาะในเชียงใหม่ เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘เมืองปราบเซียน’ สำหรับผู้ประกอบการ

AI-Generated by Shutterstock (Prompt: A surreal image of multiple coffee cups, each filled with coffee, floating and gently drifting on a vast red ocean. The cups are white ceramic, varying in size and placed at different distances across the vibrant, reflective red water. The scene is illuminated by a dramatic sky, enhancing the dreamlike and imaginative atmosphere, with ripples in the water around each cup.)

The Baristro หนึ่งในแบรนด์กาแฟที่ประสบความสำเร็จในเชียงใหม่ มีจุดเริ่มต้นจากความตั้งใจของ คุณต่อ-ธนิต สุวณิชย์ ผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังอย่าง ‘กูโรตีและชาชัก’ ซึ่งไอเดียในการเริ่มสร้างร้านกาแฟคุณต่อก็เริ่มมาจากการสังเกต Pain Point ในตลาดกาแฟเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน ซึ่งในตอนนั้นมักได้ยินเสียงสะท้อนจากผู้บริโภคว่า “ร้านกาแฟที่รสชาติดีร้านก็ไม่สวย ส่วนร้านที่บรรยากาศดีแต่รสชาติก็สวนทางกัน”

ขอบคุณรูปภาพจาก: The Cloud

นอกจากนี้ คุณต่อยังได้ตระเวนชิมกาแฟจากหลากหลายร้านและพบว่าหลาย ๆ แห่งมักจะเสิร์ฟรสชาติตามความชอบของเจ้าของร้าน มากกว่าจะพยายามตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า อีกทั้งร้านกาแฟในเชียงใหม่ส่วนใหญ่ในยุคนั้นมักเน้นการออกแบบเป็นร้าน Outdoor ที่รองรับลูกค้าได้เพียงไม่กี่ที่นั่ง เนื่องจากอากาศในเชียงใหม่เย็นสบาย แต่กลับไม่ค่อยมีร้าน Indoor พร้อมที่นั่งกว้างขวางและมีเครื่องปรับอากาศ

จากการสังเกตเหล่านี้ ทำให้คุณต่อมองเห็น Pain Point และช่องว่างในตลาดกาแฟที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็ม The Baristro จึงถือกำเนิดขึ้น โดยเน้นตอบโจทย์ทั้งเรื่องรสชาติ บรรยากาศ และประสบการณ์ จนสามารถขยายสาขาได้ถึง 9 แห่งในปัจจุบัน และกลายเป็นแบรนด์กาแฟที่ยืนหนึ่งในเมืองปราบเซียนแห่งนี้ได้นั่นเอง

หลายคนอาจจะคิดว่าเวลาการตั้ง Positioning เราจำเป็นที่จะต้องแตกต่าง แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกต้องแต่มันก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป The Baristro มีจุดยืนในเรื่องของ Quality และ Service ซึ่งถ้าเรามองแบบผิวเผินมันก็คงเป็นตำแหน่งทางการตลาดที่ดูธรรมดาไม่ได้โดดเด่นอะไร

ขอบคุณรูปภาพจาก: The Baristro Coffee Roaster 

แต่เชื่อไหมครับว่า 2 จุดยืนนี้แหละที่เป็นจุดแข็งให้กับแบรนด์ หลายครั้งที่แบรนด์ในตลาดมักจะมี Positioning ที่เหมือนหรือคล้ายกัน แต่สิ่งที่จะทำให้แบรนด์นั้นสามารถแตกต่างแต่ยังคงจุดยืนของตัวเองไว้ได้นั่นก็คือ การที่แบรนด์สามารถทำให้จุดยืนของตัวเองที่เหมือนหรือคล้ายกับตัวเองได้เหนือกว่า หรือถ้าศัพท์สมัยนี้ก็คงใช้คำว่า “ทำถึง” นั่นเอง

พอมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า “ทำถึง” ในที่นี้หมายความว่าอะไร ผมขอพาทุกคนมาทำความเข้าใจผ่านกลยุทธ์ของ The Baristro ว่าเขาสามารถเปลี่ยน Positioning ธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นจุดแข็งของแบรนด์ได้อย่างไร โดยแบรนด์ถ่ายทอดจุดแข็งผ่าน 3 องค์ประกอบหลักที่สำคัญ ได้แก่ Product, Place และ People ซึ่งช่วยสร้างความโดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในตลาดได้เป็นอย่างดี

Delivering Taste and Quality รสชาติและคุณภาพที่ตอบโจทย์ลูกค้า

แน่นอนว่าจุดขายของร้านกาแฟก็ต้องอยู่ที่ตัวกาแฟ The Baristro ไม่ได้แค่เสิร์ฟกาแฟธรรมดา แต่ตั้งใจพัฒนาเมนูให้มีรสชาติที่หลากหลาย เพื่อรองรับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบกาแฟเข้มข้น หรือลูกค้าที่ต้องการเครื่องดื่มแนวใหม่ที่ดูดีและถ่ายรูปสวยเพื่อลงโซเชียล

ขอบคุณรูปภาพจาก: The Baristro Coffee Roaster 

โดยแบรนด์ให้ความสำคัญในการคัดเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟทั้งจากในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ที่แบรนด์ได้นำเมล็ดที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่มาใช้ ซึ่งก็เป็นการช่วยเหลือเหล่าเกษตรกรชาวไทยไปในตัวอีกด้วย โดยปัจจุบันที่นี่เองก็มี Special Coffee Bean มากกว่า 70 ชนิดเลยทีเดียว อย่างเทพเสด็จของจังหวัดเชียงใหม่ และห้วยน้ำดังของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั่นเอง

รวมไปถึงการคั่วเมล็ดกาแฟ ทางแบรนด์ก็มีโรงคั่วเป็นของตัวเองที่ตั้งอยู่สาขา Ping River ทำให้สามารถควบคุมปัจจัยต่าง ๆ จนสามารถกลายเป็นเมล็ดกาแฟที่สามารถสร้างสรรค์รสชาติได้อย่างลงตัว

Attractive Locations and Ambience ดึงดูดด้วยทำเลและบรรยากาศที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย

นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของ The Baristro ที่ช่วยทำให้แบรนด์สามารถครองใจเหล่าผู้ที่ได้ไปเยือนร้านได้ เพราะแบรนด์ให้ความสำคัญในการออกแบบดีไซน์ร้านที่สะท้อนบรรยากาศและกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่นในบริเวณนั้น

รวมไปถึง Location ก็ยังมุ่งเน้นที่จะตอบโจทย์กลุ่มคนที่อยู่และมีโอกาสที่จะมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ในบริเวณนั้น หรือก็คือการใช้หลักการทำ Segmentation ด้วยเกณฑ์ Geographic แต่นำมาประยุกต์ใช้สำหรับการเลือกที่ตั้งและออกแบบร้านนั่นเอง

การตลาดร้านกาแฟ The Baristro
ขอบคุณรูปภาพจาก: The Baristro Coffee Roaster 

ตัวอย่างเช่น The Baristro ที่ใจกลางเมืองอย่างนิมมาน ก็ถูกออกแบบให้เป็นลักษณะของ Co-Working Space ซึ่งต้องบอกว่าพื้นที่นั้นโดยส่วนใหญ่คนที่มาท่องเที่ยวก็เป็นนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ ซึ่งที่ทางแบรนด์ออกแบบสถานที่ให้สามารถนั่งทำงานได้ ก็เพื่อสอดรับกับเทรนด์ Digital Nomad นั่นเอง

การตลาดร้านกาแฟ The Baristro
ขอบคุณรูปภาพจาก: The Baristro Coffee Roaster 

หรืออย่าง The Baristro Asian Style ก็ถูกออกแบบโดยการใช้ไม้เป็นหลัก เพื่อสะท้อนถึงความร่มรื่นที่สื่อถึงบริเวณตีนดอยสุเทพ ที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ชวนให้ผู้คนที่ได้แวะเวียนไปอยากจะกลับมาที่นี่อีกครั้ง

Exceptional Service บริการที่สร้างความประทับใจทุกครั้งที่มาเยือน

The Baristro ให้ความสำคัญในการเทรนเหล่า Barista เป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่ฝีมือในการชงกาแฟเก่งเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมี Service Mind หรือความเต็มใจในการบริการให้กับลูกค้าอีกด้วย

การตลาดร้านกาแฟ The Baristro
ขอบคุณรูปภาพจาก: The Baristro Coffee Roaster 

นอกจากนี้ แบรนด์ยังพร้อมที่จะรับฟัง Feedback จากลูกค้ามาปรับปรุงทั้งในด้านเมนูและบริการ ทำให้ The Baristro ไม่เคยหยุดพัฒนาและทำให้แบรนด์สามารถเติบโตจนมาถึงในปัจจุบัน

สรุป

การตลาดร้านกาแฟ The Baristro ที่เริ่มต้นจากการมองเห็น Pain Point ของตลาด และใช้มันเป็นโอกาสในการสร้างจุดยืนของตัวเอง ด้วยการผสมผสานรสชาติและกาแฟที่มีคุณภาพ บรรยากาศร้านที่ตอบโจทย์ที่พร้อมจะดึงดูดผู้คน และบริการที่เอาใจใส่ในทุกรายละเอียด ทำให้ The Baristro ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟธรรมดา แต่ยังกลายเป็นแบรนด์ที่สามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้าในทุกครั้งที่มาเยือน

จากร้านกาแฟเล็ก ๆ ในเชียงใหม่ สู่แบรนด์ที่มีถึง 9 สาขา The Baristro ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การใส่ใจในคุณภาพและการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างจริงจังคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จได้นั่นเอง

Source, Source, Source

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่

สวัสดีครับ ชื่อดิวนะครับ จะพยายามนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้เขียนบทความดี ๆ ให้กับทุกคนครับ *_*

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *