ซึ่งบทความ Research Financial Times กล่าวไว้เรื่องนี้เช่นเดียวกัน สำหรับกลุ่มคนที่เรียกว่า The Season connoisseur หรือกลุ่มคนที่ใช้สินค้าประเภทลักซัวรี่เป็นประจำนั้น ใส่อะไรไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นรู้ หรือความต้องการให้คนอื่นรับรู้มีเพียง 50%
ในขณะที่คนอีกกลุ่มคือ The New Guard เป็นกลุ่มคนที่เด็กที่สุดในการจำแนกกลุ่มคนซื้อสินค้า Luxury ซึ่ง 40% อายุต่ำกว่า 35 ปี ถ้าใส่สินค้าลักซัวรี่ก็อยากให้คนอื่นรับรู้มากถึง 72% ลองไปหาบทความนี้ได้นะครับ บทความนี้ออกมาประมาณเดือนพฤษภาคมปีนี้หลังจาก Financial Time Luxury Summit
ดังนั้นถ้าคนที่เขาเข้าใจเรื่องของ Fashion เข้าใจในตลาดนี้จริง ๆ ผมมองว่าคนที่แต่งตัวแบบ Quiet Luxury เขา Don’t Aim to Show off but Aim for Best Quality ที่เขาสามารถ Afford ได้ ไม่ใช่ต้องแพงเท่านั้น ดังนั้นสรุปแล้วก็อยู่ที่ Attitude ของคนมากกว่า
ถ้าย้อนกลับไปไกลกว่า 15-20 ปีที่แล้ว คุณก็จะเห็นว่ายุคนั้นก็เป็น Quiet Luxury แล้วเหมือนกัน เช่น Giorgio Armani เป็นแบรนด์แฟชั่นที่เราจะนึกถึงเสื้อสูทหรือเดรสสีดำ ไม่มี Logo แต่หากใครสวมใส่ แน่นอนว่าคนอื่นสามารถสังเกตเห็นได้แต่ไกลเลยว่าคนนี้ใส่เสื้อผ้าดูดีมาก หรือเป็นของมียี่ห้อแน่นอน
Hermès ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่บางคนลืมนึกถึงเสื้อผ้าที่เรียบแต่คุณภาพจัดได้ว่าเป็น one of the best หรือแม้กระทั่ง Loewe ที่ล่าสุดเป็นอันดับ 1 บน Lyst index ที่ดีไซเนอร์ JW Anderson มีทิศทางแบบนี้มานานแล้ว
FacebookFacebookXXLINELineเมื่อธุรกิจกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำต้องปรับตัวให้ทันกับความท้าทาย เทคโนโลยี และความคาดหวังของพนักงาน การตลาดวันละตอนได้มีโอกาสไปร่วมงาน Future Trends Ahead Summit 2025 และใน Session New Rules of Leadership: Adapting to a New World โดยคุณนภัส ศิริวรางทูรจาก Hewitt จะพูดถึงเทรนด์ของการเป็นผู้นำในยุคใหม่ว่าเป็นยังไงค่ะ ซึ่งใน Session นี้ได้ชี้ให้เห็นถึง 3 เทรนด์หลักที่กำหนดลักษณะของผู้นำในอนาคต ได้แก่ The Anatomy of Future Leaders (โครงสร้างของผู้นำแห่งอนาคต) , Insights – The Most Powerful “C’s” for Leading the Future (ปัจจัยสำคัญของความสามารถในการนำองค์กร) และ The Imperfect Leader Era (ยุคของผู้นำที่ไม่สมบูรณ์แบบ) […]