ตัวอย่าง Universal Design จากแคมเปญผงซักฟอก ที่จะมาช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยต้องซักผ้าแล้วพบกับปัญหากล่องผงซักฟอก ที่ถูกออกแบบมาให้ปิดแน่นมากซะจนแกะจนเจ็บมือก็ยังเปิดไม่ออก แต่ที่ต้องแน่นหนาขนาดนี้เพราะป้องกันเด็กเล่นซนแล้วเกิดได้รับอันตรายจากสารเคมีนี่นา
แต่ในวันนี้แบรนด์ผงซักฟอก Ariel เห็นความสำคัญในปัญหาที่ทุกคนต้องเจอ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้พิการหรือทุพพลภาพ ที่ไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานได้อย่างสะดวก ด้วยความตระหนักถึงปัญหานี้ Ariel จึงทำการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ผงซักฟอก ให้ครอบคลุมผู้ใช้งานที่มีความหลากหลาย โดยยังคงปลอดภัยต่อเด็ก และใช้วัสดุที่มีความยั่งยืนมากขึ้น ผ่านกล่องที่เรียกว่า ‘EcoClic’
ทำไมแบรนด์ถึงเลือกกล่อง ‘EcoClic’
อ้างอิงจาก Urban Creature ที่ได้อธิบายถึง Universal Design ว่าคือการออกแบบเพื่อการใช้งานอย่างคุ้มค่าและมีประโยชน์สูงสุดสำหรับทุกคน ทั้งผู้สูงอายุ เด็ก ผู้พิการ ผู้บาดเจ็บ รวมถึงคนที่มีข้อจำกัดด้านร่างกายต่าง ๆ แม้กระทั่งสตรีมีครรภ์ พร้อมทั้งเอื้อความสะดวกให้ใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นและเสมอภาคกัน
VIDEO
นับตั้งแต่คณะกรรมการด้านความปลอดภัยสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐอเมริกาออกการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยในปี 2555 แบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคต้องได้รับรองว่าบรรจุภัณฑ์น้ำยาซักผ้าสามารถป้องกันเด็กได้
แต่ประเด็นก็คือบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันความปลอดภัยของเด็กนั้น มักทำให้ผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ หรือผู้ที่มีปัญหาด้านความคล่องตัวของร่างกาย ไม่สามารถเข้าถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ได้นั่นเอง
Ariel แบรนด์ผงซักฟอกของ Procter & Gamble จึงเกิดตระหนักถึงความจำเป็นในการที่จะต้องออกมาสร้างความเปลี่ยนแปลง ออกแบบและปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ จึงทำการแก้ไขการออกแบบกล่องใส่ผงซักฟอกใหม่
เพื่อให้แน่ใจว่ารูปแบบการใช้งานของกล่องเหล่านี้ จะเป็นกล่องที่ยังคงปลอดภัยต่อเด็ก ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้ที่มีความบกพร่องทางความคล่องตัวยังสามารถเข้าถึงการใช้งานได้ และเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
การออกแบบให้เป็น EcoClic แบบใหม่ คือเป็นระบบเปิดที่ใช้ปุ่มคลิกง่าย ๆ สองปุ่ม ที่วางอยู่ด้านข้างของกล่อง ต้องกดพร้อมกันเพื่อเปิดฝา ถูกพัฒนาโดย Landor & Fitch ในเมือง Hamburg ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการเปิดที่ยุ่งยากซึ่งมักจะสร้างปัญหาให้กับผู้ทุพพลภาพ
ซึ่งการกดปุ่มทั้งสองด้านพร้อมกันเพื่อเปิดฝา ถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากหากเป็นมือของผู้ใหญ่ แต่กับมือเล็ก ๆ ของเด็กน้อย เรียกได้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว ซึ่งก็ถือว่าสามารถป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับเด็ก ๆ ได้ดีอยู่เหมือนเดิม และเพื่อให้มั่นใจว่ากล่องนั้นปิดแน่นปลอดภัยสำหรับเด็ก เมื่อเปิดแล้ว ตอนปิดกล่องจะมีเสียงคลิก เพื่อส่งสัญญาณว่าปิดฝาสนิทและถูกต้องแล้ว
นอกเหนือจากการปรับปรุงการเปิดปิดบรรจุภัณฑ์เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ที่มีความบกพร่องด้านการเคลื่อนไหวแล้ว ยังมีรหัส QR ของ NaviLens แบบสัมผัสที่ช่วยให้ผู้ใช้งานที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้
รหัส QR สามารถสแกนผ่านแอป NaviLens ที่จะให้คำอธิบายแบบเสียงของผลิตภัณฑ์ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถอ่านบรรจุภัณฑ์ได้
และยังมีการทำบรรจุภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนมากขึ้น เป็นกระดาษแข็งแบบใหม่ที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร ทำจากเส้นใยรีไซเคิล 70% และได้รับการรับรอง FSC
มีการใช้เวลา 4 ปีในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และได้รับการทดสอบจากผู้บริโภคมากกว่า 2,000 รายทั่วยุโรป รวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครอง คนที่ใช้มือทั้งสองข้างได้อย่างปกติชำนาญ และคนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา โดยกล่อง EcoClic มีจำหน่ายทั่วยุโรปสำหรับแบรนด์ Ariel ของ P&G และแบรนด์ Lenor, Fairy, Dash และ Bold
เรียนรู้จากแคมเปญ Ariel กล่อง EcoClic ช่วยเหลือผู้พิการ
การไม่ละเลยกลุ่มลูกค้าที่ทุพพลภาพ
การออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์แบบใหม่นี้คงไม่เกิดขึ้นเลย หาก Ariel ไม่ได้คำนึงถึงลูกค้าทุกคนด้วยใจจริง ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมากที่แบรนด์มองเห็นและให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มนี้ และไม่ทอดทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลัง แต่กลับหาทางพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์การใช้งานและวิถีชีวิตของเขามากขึ้น
อย่างในรายงานปี 2022 เมื่อถามถึงอุปสรรคที่พบในการซื้อของในร้านค้า 33% ของผู้บริโภคที่มีความทุพพลภาพอธิบายว่า ผลิตภัณฑ์มีความไม่เหมาะสม หรือทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานได้
ดังนั้นนอกเหนือจากการปรับปรุงการเปิดปิดใช้งานบรรจุภัณฑ์แล้ว การเพิ่มรหัส NaviLens QR ทำให้การซื้อผลิตภัณฑ์เป็นประสบการณ์ที่สะดวกยิ่งขึ้น สำหรับผู้มีความบกพร่องทางการมองเห็น เรียกได้ว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพตลอดการใช้งาน ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าให้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะช่วยดึงดูดใจลูกค้า แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ ไม่ทอดทิ้งหรือละเลยลูกค้าทุกคน ซึ่งก็จะนำไปสู่การสร้าง Loyalty ในระยะยาวได้
All-in-1 ไม่ใช่แค่ดีต่อผู้พิการ แต่ดีต่อทุกคน
สิ่งสำคัญเลยก็คือการเปลี่ยนแปลงการออกแบบโดยเน้นไปที่การช่วยเหลือผู้พิการ จะสามารถส่งผลดีต่อคนอื่น ๆ ตามมา
เพราะการเปลี่ยนระบบล็อคป้องกันเด็กที่ซับซ้อนสำหรับการออกแบบ EcoClic ในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ที่มีปัญหาด้านความคล่องตัวสะดวกสบายขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการใช้งานที่ยุ่งยากสำหรับทุก ๆ คนอีกด้วย เพราะปกติกล่องจะเปิดยากมากอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
ในการให้สัมภาษณ์ กับ Packaging Europe ในปี 2022 Samantha King รองประธานฝ่าย R&D ของ P&G Fabric Care Europe กล่าวว่า “ความปลอดภัยของเด็กเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งเสมอเมื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับผลิตภัณฑ์ซักผ้า” แต่เรายังต้องการให้ชุดใหม่นี้ใช้งานง่ายขึ้นสำหรับผู้ใหญ่ทุกคน ซึ่งก่อนหน้านี้ถือเป็นเรื่องท้าทาย’
ดังนั้นบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ที่เข้าถึงทุกคนได้ง่ายขึ้นของ Ariel นี้ จึงสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างกว่าผู้ที่มีความพิการเท่านั้น แต่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานของคนทุกคนให้ดีขึ้นได้
รวมถึงในปัจจุบันการแสดงจุดยืนว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกมนุษย์ ก็มีอิทธิพลต่อการที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อหรือไม่อีกด้วย แบรนด์ที่ให้คุณค่า ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ก็จะช่วยขับเคลื่อนให้คนมารู้จักและให้ความสนใจ หรือได้รับการสนับสนุนแบรนด์มากขึ้นได้
บรรจุภัณฑ์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
กระแสสินค้ารักษ์โลก หรือ Green Marketing ต่าง ๆ ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสำคัญกัน ซึ่ง Ariel ก็มีโอกาสที่จะโดดเด่นในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน เพราะการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของ Ariel ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของแบรนด์ที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยให้ผู้บริโภคได้เป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนความยั่งยืนมากขึ้น
อย่างการศึกษา ล่าสุดของ McKinsey พบว่า ความคิดริเริ่มด้านความยั่งยืน ในช่วงปี 2017-2022 แบรนด์อุปกรณ์ซักรีดที่กล่าวถึงด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน มีการเติบโต และครองส่วนแบ่งยอดขายโดยรวม โดยยอดค้าปลีกมากกว่า 70% มากกว่าแบรนด์ที่ไม่ได้กล่าวถึงอีกด้วย
ตัวอย่าง Universal Design กับแคมเปญผงซักฟอกที่ใส่ใจทุกคน
เป็นยังไงกันบ้างคะ ตัวอย่าง Universal Design กับแคมเปญผงซักฟอก Ariel EcoClic ที่ใส่ใจทุกคน ให้ความสำคัญและคำนึงถึงความหลากหลายของคน จนออกมาเป็นไอเดียการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่เข้ามาช่วยให้ชีวิตของทุกคนง่ายขึ้นได้จริง ๆ สำหรับใครที่อ่านแล้วเกิดปิ๊งไอเดียใหม่ ๆ ก็สามารถนำไปต่อยอดหรือปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองกันได้นะคะ
และทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอน ที่ เว็บไซต์ Facebook Instagram Twitter Youtube และ Blockdit ได้เลยค่า
บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ
Source