Always Read the Label การตลาด Haleon แคมเปญเทคโนโลยี AI ที่เชื่อมต่อโลกให้ผู้พิการทางสายตา

จุดเริ่มต้นที่ทำให้ Haleon ผู้ผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพ และ Microsoft ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี จับมือกันตัดสินใจสร้างแคมเปญที่ชื่อว่า ‘Always Read the Label’ ผ่านฟีเจอร์ใหม่บนแอป Seeing AI ที่ช่วยให้คนตาบอด ‘อ่าน’ ฉลากยาได้อย่างอิสระ กับแคมเปญ การตลาด AI ที่ช่วยผู้พิการทางสายตาจาก Haleon & Microsoft

เคยคิดไหมว่าการอ่านฉลากยาอาจเป็นเรื่องยากกว่าที่เราคิด ?

วันนี้อยากชวนทุกคนลองหลับตา แล้วนึกภาพจินตนาการว่าเราหยิบขวดยาขึ้นมา รู้แค่ว่าขวด ๆ นี้มันคือยา แต่ไม่รู้ว่าคือยาอะไร ไม่รู้ว่าต้องกินยาตอนไหน ก่อนหรือหลังอาหาร ? หรือส่วนผสมในยานั้นมีอะไรที่เราแพ้หรือเปล่า? แน่นอนว่าสำหรับคนทั่วไปที่สามารถมองเห็นได้ปกติอาจจะมองว่า ‘ก็เป็นเรื่องง่าย ๆ นิ ฉลากก็มีให้อ่าน’ แต่สำหรับผู้พิการทางสายตา การอ่านฉลากยาอาจเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเขา

วันนี้เราจะมาดูที่มาของแคมเปญนี้กัน ว่าทำไมถึงทำ ทำอะไร และเบื้องหลังกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ พร้อมกับบทเรียนที่นักการตลาดควรจดจำ

ทำไม Always Read the Label ถึงเกิดขึ้นกัน?

ต้องบอกว่าปัญหาของผู้พิการทางสายตาไม่ใช่แค่เรื่องของการมองไม่เห็นเท่านั้นแต่ยังเป็นการ ‘ขาดโอกาสในการเข้าถึงข้อมูล’ อีกด้วย ซึ่งถ้ามองในกรณีของยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพสามารถหมายถึง ความเสี่ยง ต่อชีวิตได้เลยนะ ทาง Haleon เองซึ่งเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านสินค้าเพื่อสุขภาพอยู่แล้วได้มองเห็นว่าถ้าจะช่วยกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ สิ่งแรกที่ควรทำคือควรเริ่มจากการเข้าใจของปัญหาตรงนี้ก่อนแล้วถึงจะสามารถช่วยกลุ่มลูกค้านี้ได้

การตลาด AI Haleon Microsoft Seeing AI 

เลยตัดสินใจจับมือกับ Microsoft สร้างแคมเปญที่ชื่อว่า ‘Always Read the Label’ ผ่านฟีเจอร์ใหม่บนแอป Seeing AI ที่ช่วยให้คนตาบอด ‘อ่าน’ ฉลากยาได้อย่างอิสระนั่นเองต้องบอกว่าตอนเปิดตัวแคมเปญก็ไม่ได้มาแบบเงียบ ๆ นะ ทางแบรนด์เองเขาเลือกเปิดตัวใน วันสายตาโลก (World Sight Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 13 ตุลาคม เป็นวันสำคัญที่สามารถดึงความสนใจของสื่อและคนทั่วไปได้ไม่น้อยและแบบพอดีเป๊ะ เหมือนเป็นการส่งข้อความบอกว่า ‘เราใส่ใจคุณจริง ๆ นะ’ ต้องบอกว่าเป็นวันสำคัญที่มีความหมายสำหรับกลุ่มเป้าหมายนี้เลย

แคมเปญ Always Read the Label นี่ทำอะไรนะ ?

หัวใจของแคมเปญ Always Read the Label นี้ก็คือการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในแอปที่ชื่อว่า Seeing AI 

@haleon

Exciting news! Our collaboration with @microsofton the Seeing AI app has earned us three merit awards at The One Show. We’re also proud finalists in the Disability Smart Technology Award from the Business Disability Forum. Through working with Microsoft to improve the functionality of the free Seeing AI app, we’ve turned Haleon barcodes in the UK and USA into Access Codes. These are innovative barcodes that allow you to accurately hear the product packaging information read aloud, to help ensure that everyone can always access the label details, including those with a visual impairment. #AI #accessibility #digitalhealth #Tech #healthtech #health #innovation

♬ original sound – Haleon – Haleon

ที่ช่วยให้ผู้พิการทางสายตาสามารถเข้าถึงข้อมูลบนฉลากยาได้โดยตรงผ่าน Seeing AI 

การตลาด AI Haleon Microsoft Seeing AI 

ซึ่งวิธีการทำงานของฟีเจอร์นี้ก็ง่ายมาก ๆ 

  1. ผู้ใช้เพียงแค่ Download และเปิดแอป Seeing AI จากนั้นก็สแกนบาร์โค้ดบนผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เราต้องการอยากรู้ได้เลย
  2. แอปจะใช้ AI แปลงข้อมูลบนฉลากให้กลายเป็นเสียงพูด เช่น
    • ชื่อผลิตภัณฑ์
    • คำแนะนำการใช้ยา เช่น ควรใช้ก่อนหรือหลังอาหาร
    • ส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้

เป็นอะไรที่สะดวกและง่ายตอบโจทย์มากบอกเลย

การตลาด AI Haleon Microsoft Seeing AI 

อีกทั้งฟีเจอร์นี้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์กว่า 1,500 รายการ ของ Haleon ด้วยนะ เช่น ยาแก้ปวด วิตามิน และยาสีฟัน ครบจบในแอปเดียวจริง ๆ ซึ่งในระยะแรกเริ่มเปิดของแคมเปญนี้ให้บริการที่แรกที่ สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา (ร่วมกันผลักดันประเทศไทยให้มีแบบนี้บ้าง)

ถึงตรงนี้ผู้อ่านก็อาจจะสงสัยกันใช่ไหมคะว่า ทำไมฟีเจอร์นี้ถึงสำคัญ?
คำตอบก็คือเพราะเจ้าฟีเจอร์นี้สามารถช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้พิการทางสายตาในการใช้ยา และลดความเสี่ยงในการใช้ยาผิดประเภท ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้นั่นไงละ

กลยุทธ์การตลาดเบื้องหลังแคมเปญนี้

ตรงนี้ชวนผู้อ่านมาทำความเข้าใจกันกับแคมเปญนี้กัน ต้องบอกว่างานนี้ไม่ได้ประสบณ์ความสำเร็จสำเร็จแค่ฟีเจอร์อย่าเดียวนะ แต่เพราะการวางแผนการตลาดที่ครอบคลุมและลงตัวที่แบบคิดมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น

การเลือกเปิดตัวในวันสายตาโลกของแคมเปญนี้ ถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับแคมเปญได้อย่างดีเลย เพราะวันสำคัญนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เป็นที่น่าสนใจของสื่อและสังคม ช่วยให้คนที่ไม่รู้รู้จักได้เข้าถึง หรือคนที่รู้จักอยู่แล้วยิ่งเข้าใจและตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนี้

แน่นอนค่ะว่าโลกการใช้เทคโนโลยี AI ทุกวันนี้เติบโตและพัฒนาอยากรวดเร็วมาก การที่แคมเปญดึงเอา AI เข้ามาในรูปแบบที่ใช้งานง่ายและตอบโจทย์ปัญหาในชีวิตประจำวันตรงนี้ถือเป็นอะไรที่ว้าวมาก ๆ เลย \

AI Prompt: A visually impaired person struggling to read a medicine label, using a mobile scanning app, with a soft, warm focus on the interaction between the person and the screen, documentary photography style.

เพราะช่วยให้แคมเปญไม่ใช่แค่ ‘ล้ำ’ แต่ ‘ใช้ได้จริง’ ดูไม่เป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับผู้พิการซึ่งต้องบอกว่าเป็นจุดแข็งที่สร้างความประทับใจให้กับทั้งผู้ใช้และวงการการตลาดมาก ๆ เลย

ต้องบอกว่าโฆษณาของแคมเปญนี้ไม่ได้ทำให้ผู้พิการทางสายตารู้สึกด้อยโอกาสนะคะ แต่เป็นการเลือกเรื่องมาเล่าเรื่องในแบบที่น่ารักผ่านการ์ตูนที่เข้าใจง่ายและน่าชวนติดตาม 

การตลาด AI Haleon Microsoft Seeing AI 

มีการใช้เพลงและเนื้อหาที่เข้าใจง่ายทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุก และเข้าใจในสิ่งที่ของแคมเปญจะสื่อได้ในทันที ตรรงนี้เป็นอะไรที่น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ส่วนตัวผู้เขียนเองนั่งดูเพลิน ๆ เข้าใจตั้งแต่การดูครั้งแรกแบบไม่มีการวนคลิปเปิดซ้ำเลย

แพลตฟอร์ม Facebook และ Instagram ถือเป็นช่องทางหลักที่ช่วยผลักดันให้แคมเปญสามารถเข้าถึงคนได้ในวงกว้าง ผลลัพธ์จาก Click Through Rate หรือ CTR (อัตราการคลิก) บน Facebook เพิ่มขึ้นมากถึง 30% และบน Instagram เพิ่มขึ้น 130% ตัวเลขแบบนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ 

เป็นการสร้างการรับรู้ได้ดีเลยทีเดียว

เคยได้ยินคำว่า ‘สะพานเชื่อมสังคม’ กันไหมคะ?

สำหรับเทคโนโลยีที่ดีส่วนตัวมองว่าไม่ควรเป็นแค่เครื่องมือที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นสำหรับบางคน แต่ต้องเป็น ‘สะพาน’ ที่เชื่อมโยงคนทุกกลุ่มให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้อย่างเท่าเทียมกันด้วย ซึ่งฟีเจอร์ในแคมเปญ Always Read the Label ใน Seeing AI ถ้าให้เปรียบเทียบก็คงเปรียบเทียบเป็น สะพานนั้นเองค่ะ 

เพราะสามารถช่วยลดช่องว่างระหว่าง ‘คนที่มองเห็น’ กับ ‘คนที่มองไม่เห็น’ ด้วยการทำให้ผู้พิการทางสายตารู้สึกว่า ‘พวกเขาไม่ได้ถูกลืม’ หรือ ‘ถูกละเลย’ นะ (แต่เป็น ส่วนหนึ่งของสังคมที่เท่าเทียม)

ส่วนตัวมองว่าแคมเปญนี้ยังแสดงให้เห็นว่า การลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่แค่เรื่องของนโยบายรัฐหรือองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้นนะคะ แต่แบรนด์และเทคโนโลยีเองก็มีบทบาทสำคัญที่ช่วยสร้างผลกระทบในระดับชีวิตของคนได้จริงนะ และยิ่งกว่านั้นผู้เขียนยังมองอีกว่ายังเป็นการส่งข้อความสำคัญถึงแบรนด์อื่น ๆ ว่า ‘เทคโนโลยีควรเป็นของทุกคน’

สรุป 

ทำไม Always Read the Label ถึงน่าจดจำ?

ต้องบอกว่าแคมเปญ Always Read the Label ไม่ได้แค่สร้างฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้ผู้ใช้ได้ใช้งานแต่ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตคนกลุ่มหนึ่งที่มักถูกมองข้าม มันไม่ได้แค่ช่วยให้ผู้พิการทางสายตา ‘อ่าน’ ฉลากยาได้เท่านั้นนะคะ แต่แคมเปญนี้ยังบอกกับเราว่า เทคโนโลยีที่ดีไม่ใช่แค่เจ๋ง แต่ต้องมีหัวใจด้วย กับควรมองว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีควรเป็นสิ่งที่ช่วยให้คนทุกกลุ่มในสังคมมีชีวิตที่ดีขึ้น และไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เล็กหรือใหญ่ก็สามารถมีส่วนช่วยลดช่องว่างในสังคมได้นะ

และคำถามที่สำคัญที่อยากฝากไว้ก่อนจบบทความนี้สำหรับทุกคนคือ
‘สิ่งที่เรากำลังสร้างในวันนี้ จะช่วยให้ใครในสังคมมีชีวิตที่ดีขึ้นได้บ้างกันนะ?’

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ แคมเปญ การตลาด AI ที่ช่วยผู้พิการทางสายตาจาก Haleon & Microsoft


สำหรับผู้อ่านที่น่ารักทุกคนที่อยากติดตามข่าวสารทางการตลาด และไม่อยากพลาดแหล่งรวมความรู้ดี ๆ ที่อัปเดททุกวัน สไตลด์การตลาดวันละตอนทางผู้เขียนเองก็มีช่องทางแนะนำเพิ่มเติมให้ผู้อ่านทุกท่านแวะไปทักทายพูดคุยกันได้สามารถติดตามได้ไม่ว่าจะเป็นจาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึง เว็บไซต์ Twitter Instagram และ YouTube ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะการตลาดวันละตอนขอเป็นอีกหนึ่งแหล่งความรู้ที่ไม่ว่าจะเพศไหน อายุเท่าไหร่ ก็สามารถเเวะเข้ามาอัพเดทความรู้กันได้แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ see you ka‪ ʕʽɞʼʔʕ•̫͡•ʔ‬

อ้อนแอ้น น้องคนเล็กแห่งบ้านการตลาดวันละตอน ชื่นชอบเล่าเรื่องและการเขียนบทความ ในอนาคตอยากพัฒนาตัวเองเพิ่มเติมในด้านของ Data Research & Marketing Content Creator ค้าบบ ปล.ขอฝากเนื้อฝากตัวรักเอ็นดูหนูด้วยนะคร้าบบ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *