Insurance

Rabbit Care เผยปรากฏการณ์ “Revenge Travel” พร้อมรับมือนักท่องเที่ยว

10/01/2023

หลังการประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้หลายประเทศกลับมาเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง ผู้คนทั่วโลกเริ่มกลับมาเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Revenge Travel” หรือ “การเที่ยวล้างแค้น” เป็นปรากฏการณ์ที่ผู้คนทั่วโลกปลดปล่อยความรู้สึกที่อัดอั้นจากการไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศมาเกือบ 3 ปี ในรูปแบบของการกลับมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยกันอย่างคึกคักอีกครั้ง นอกจากนี้ ข้อมูลจาก MSIG ประกันภัย หนึ่งในพาร์ทเนอร์หลักของแรบบิท แคร์ พบว่าจำนวนวันเดินทางเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวชาวไทยต่อหนึ่งทริปในปีนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่า 50% โดยประมาณ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะกำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศอีกครั้ง วันนี้เรารวบรวมจุดหมายปลายทางยอดฮิต 5 ลำดับแรกโดยอ้างอิงจากสถิติยอดการซื้อประกันการเดินทางผ่าน Rabbit Care ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายนในปีนี้ พบว่า ผู้คนซื้อประกันการเดินทางในกลุ่มประเทศเชงเก้นหรือประเทศในทวีปยุโรป เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี และ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น มากที่สุดเป็นลำดับที่ 1 สำหรับลำดับที่ 2 คือ ประกันการเดินทางในประเทศเกาหลีใต้ ลำดับที่ 3 คือ ประกันการเดินทางในประเทศสิงคโปร์ ลำดับที่ 4 คือ ประกันการเดินทางในประเทศญี่ปุ่น และลำดับที่ 5 คือ ประกันการเดินทางในประเทศอเมริกา รายชื่อประเทศยอดฮิตเหล่านี้อาจกำลังเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลาย ๆ คน และเพื่อที่จะเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง Rabbit Care ขอแชร์เช็คลิสต์ 5 ข้อ ที่จะช่วยให้ทุกคนได้เตรียมตัววางแผนทริปอย่างรอบคอบเพื่อความพร้อมก่อนออกเดินทาง 1. ศึกษาเงื่อนไขของประเทศที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวและเตรียมเอกสารให้พร้อม แม้หลายประเทศจะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากหลายพื้นที่ทั่วโลก แต่บางประเทศก็ยังคงมีเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศ นอกเหนือจากการเตรียมเอกสารสำคัญสำหรับยืนยันตัวตน เช่น หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต และวีซ่าแล้ว ควรศึกษาข้อมูลของประเทศที่จะเดินทางไปท่องเที่ยว และจัดเตรียมเอกสารตามเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศปลายทาง โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสถานทูตหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2. ตรวจเช็คสภาพอากาศ และจัดเตรียมของใช้ที่จำเป็นก่อนออกเดินทาง […]

การตลาดวันละตอน

แยกกันให้ขาด ขีดเส้นแบ่งระหว่าง “ประกันภัย” และ “ประกันชีวิต” ให้ออก

14/03/2022

จากข่าวต่าง ๆ ที่ออกมาในช่วงนี้ หลายคนอาจจะยังสับสนและยังแยกกันไม่ออกระหว่างบริษัทประกันภัย และประกันชีวิต เพราะผลิตภัณฑ์บางตัวก็คล้ายกัน แล้วมันจะแยกออกจากกันได้ยังไง ลองมาอ่านกันดูแล้วคุณอาจจะอ๋อ “ประกันภัย” ต่างจาก “ประกันชีวิต” อย่างไร? หลังจากในช่วง 2-3 ปีผ่านมา เชื่อว่าหลายคนก็คงได้มีประสบการณ์ในการซื้อประกันกันอยู่พอสมควร แต่ก็ยังแยกกันไม่ออกใช่ไหม ว่า ประกันที่เราซื้อ เป็นประกันภัย หรือประกันชีวิต วิธีสังเกตก็ง่าย ๆ เลย คือ 1. ประกันชีวิต ก็ตรงตัวเลยว่ามีหน้าที่ในการคุ้มครอง “ชีวิต” ของเรา หมายความว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเรา คนข้างหลัง (ผู้รับประโยชน์) ก็จะได้รับเงินชดเชยตามมูลค่า ที่เราเรียกว่า “ทุนประกันภัย” ตามที่ทำประกันไว้อย่างแน่นอน แต่โดยส่วนมากสัญญาของประกันชีวิตก็จะมีระยะเวลาที่ค่อนข้างยาวนาน เช่น 10 ปี 20 ปี เป็นต้น 2. ประกันภัย แล้ว “ประกันภัย” ล่ะ…คืออะไร ? “ประกันภัย” ก็จะคล้าย ๆ กับประกันชีวิต […]

Bambinun*

FWD ปล่อยแคมเปญ Celebrate Living ด้วยหนัง Musicumentary และการทำ Personalized Ads ด้วย Data

FWD ขายประกันด้วย Data จนเกิดเป็นหนังแบบ Musicumentary

10/05/2021

วันก่อนการตลาดวันละตอนได้มีสิทธิ์เข้าไปร่วมฟังถึงที่มาที่ไปแคมเปญใหม่ของประกัน FWD ที่ชื่อว่า Celebrate Living หรือการใช้ชีวิตแบบมีความสุข โดยแคมเปญใหม่นี้เค้าบอกว่าสร้างจาก Data การทำ Survey และ Interview คนมาหลักพันคน จนสุดท้ายออกมาเป็นหนัง Musicumentary เรื่องใหม่ และการทำ Media Journey ที่ครอบคลุม รวมไปถึงการทำ Personalization Ads ด้วยการใช้ Geofencing Technology ช่วยด้วย อ่านถึงตรงนี้แล้ว ใครอยากรู้ FWD มี Tactics ในการทำแคมเปญนี้ยังไง ลองไปดูกันค่ะ หนังประกันปกติที่เราจำได้ในหัวเป็นอย่างไรบ้างคะ? ถ้าไม่ขายโต้งๆ เอาฮา ก็คือการหยิบยกเรื่องชีวิตคนธรรมดา หาเช้ากินค่ำ ไม่ก็จนแต่สู้ชีวิตมา Normalized หรือ Romanticized จนเกิดเป็นกระแสเรื่องความเหลื่อมล้ำในวันนี้ เพราะจริงๆ แล้วความจนเหล่านั้นเป็นปัญหาที่ประเทศควรแก้ไข มากกว่าที่จะหยิบภาพคนจน คนธรรมดาขึ้นรถเมล์คันเก่าคันเดิมสู้ชีวิตมาทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ แล้วกลายเป็นฮีโร่หรือมีความสุขพอเพียงนั่นเองค่ะ ขยับมาดูหนังของ FWD ที่ล่าสุดทำจากการ Survey และ Focus Group คนหลักพันคนแล้ว จะเห็นได้เลยว่าภาพ Romanticized เหล่านั้นหายไป เหลือแต่ความสุขที่เกิดจากอะไรบางอย่างเล็กๆ แทน โดย FWD เรียกมันว่า Micro Moments ค่ะ จริงๆ ต้องบอกว่าการวิเคราะห์เรื่อง Moments ที่เปลี่ยนไปเป็นอะไรที่เพลินรู้สึกประทับใจในตัวแบรนด์มาก ทั้งจาก Data เรื่องของ Happiness Index ของคนไทยที่ลดลงทุกปีๆ ไปจนถึง Data การเปรียบเทียบบทสัมภาษณ์ของ Consumers ตั้งแต่หลายปีก่อนของแบรนด์ถึงวันนี้ ที่ทำให้แบรนด์รู้ว่า Macro Moments ในวันนู้นมันไม่เหลือแล้ว เหลือแต่ Micro Moments ที่คนให้ความสำคัญมากขึ้นแทน อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจตั้งคำถามว่า แล้วอะไรมันคือ Macro กับ Micro Moments ละ? คำตอบก็คือ Macro Moments เป็นความสุขที่เกิดจากอะไรใหญ่ๆ เหมือนก่อนมี COVID19 ความสุขของคนส่วนมาก จะเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยาก นานทีมีครั้งนึง หรืออะไรพิเศษๆ เช่น งานรับปริญญา งานแต่งงาน วันเกิด ตั้งครรภ์ ฯลฯ […]

Plearn Wisetwongchai

6 New Normal Insurance เพราะเมืองไทยประกันภัยเข้าใจชีวิตวิถีใหม่ ที่ต้องการประกันรูปแบบใหม่

03/08/2020

เมื่อเมืองไทยประกันภัยหนึ่งในบริษัทประกันที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน และด้วยความที่อยู่มานานก็ทำให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะปรับตัวตามความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาของคนไทยอยู่ทุกช่วงนั่นเองและด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดที่ถือว่าเป็น Big Impact จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ที่ส่งผลกระทบไปทุกหย่อมหญ้า ตามมาด้วยภาวะใหม่ที่เรียกว่า New Normal หรือชีวิตวิถีใหม่ที่ส่งผลถึงเรื่องการเงินของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนไทยหันมาตระหนักใส่ใจถึงเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของชีวิตมากขึ้น และนั่นก็ทำให้ประกันคือปัจจัยที่ 5 ของผู้คนในวันนี้ ในวันที่เราได้เรียนรู้จากวิกฤตโควิด19 แล้วว่าชีวิตนั้นบอบบางกว่าที่เคยเชื่อกันเมื่อเราเจอแค่ไวรัสชนิดใหม่ตัวเล็กๆ ที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาแต่กลับสามารถทำอันตรายเราได้ถึงชีวิตภายในระยะเวลาไม่กี่วัน ดังนั้นแม้เศรษฐกิจจะแย่ลงแค่ไหน แต่การมีประกันติดตัวไว้ก็ทำให้เราอุ่นใจได้เป็นอย่างมาก เพราะไม่มีใครรู้หรอกครับว่าชีวิตวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น แต่ที่แน่ๆ ถ้าเรามีประกันอยู่กับตัว ต่อให้เกิดอะไรขึ้นในวันพรุ่งนี้เราก็ยังเหมือนมีเบาะนิรภัยมารองรับไว้อย่างแน่นอน แต่โจทย์สำคัญของธุรกิจประกันภัยคือเราจะทำอย่างไรในวันที่กำลังซื้อหดตัวลงอย่างมาก และก็น่าจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าปีที่กำลังซื้อของผู้คนจะกลับมาอยู่ในระดับเดิมก่อนโควิด19 จะระบาด ดังนั้นทางบริษัทเมืองไทยประกันภัยเลยเลือกที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ เพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เมื่อลูกค้ามีความต้องการประกันในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น แต่ไม่สามารถจ่ายได้ในราคาเต็มเท่าเดิม จนกลายมาเป็น New Normal Insurance กับ 6 ประกันที่เข้าใจและตอบโจทย์ลูกค้าในช่วงชีวิตวิถีใหม่หลังโควิด19 ครับ กลายเป็นที่มาในการออกสินค้าประกันแบบฉีกกฎเดิมๆ ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่หรือ New Normal ที่กลายมาเป็น New Normal Insurance 6 รูปแบบจากเมืองไทยประกันภัยนั่นเองครับ 6 New Normal Insurance จากเมืองไทยประกันภัยที่คิดไวทำไวจาก Insight ผู้บริโภคยุคใหม่หลังโควิด19 ลองดูกันนะครับว่าจากทั้งหมดที่เล่ามาถึงสินค้าประกันในรูปแบบใหม่ New Normal Insurance จากเมืองไทยประกัยภัยนั้นมีข้อไหนบ้างที่ตอบโจทย์และตรงใจ ถ้าอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม สำหรับประกันรถยนต์ชั้น 1 คลิก https://bit.ly/type1-everydaymkt ประกันรถยนต์ 2+ 3+ Care คลิก https://bit.ly/2plus3plusCare_everydaymkt ประกันเดินทางในประเทศ TA ปันสุข คลิก https://bit.ly/punsook_everydaymkt ประกันอุบัติเหตุ PA Simple คลิก https://bit.ly/PA-Simple_everydaymkt ประกันสุขภาพ Health Mini คลิก https://bit.ly/HealthMini_everydaymkt ได้เลยนะครับ Advertorial

Nattapon Muangtum

AXA ใช้ของรอบตัวกระตุ้นให้คนเห็นความสำคัญของประกันสุขภาพ จน Traffic เพิ่มขึ้น 30%

13/03/2019

เมื่อคนส่วนใหญ่คิดว่าประกันสุขภาพไม่สำคัญ ลองมาดูกลยุทธ์และไอเดียดีๆจาก AXA เยอรมัน ที่ใช้ของรอบตัวมากระตุ้นให้เห็นความสำคัญจนได้ กับแคมเปญที่ชื่อว่า AXA – The Most Expensive Everyday Items Ever Situation เข้าใจผิดคิดว่ารัฐคุ้มครอง จากผลสำรวจชาวเยอมันพบว่าค่าใช้จ่ายเรื่องประกันสุขภาพเพิ่มเติมจากประกันชีวิตนั้นอยู่อันดับที่ 34 ทำให้ไม่แปลกที่ยอดขายประกันเพิ่มเติมสุขภาพส่วนนี้ต้องหาทางเพิ่มยอดให้ได้ และพอสำรวจลึกลงไปก็พบว่าเพราะคนส่วนใหญ่ “คิดไปเอง” ว่าถ้าเจ็บป่วยอะไรประกันของรัฐก็คุ้มครองหมดนั่นแหละ แต่ความเป็นจริงแล้วไม่เลยครับ แถมถ้าเจ็บเพราะอุบัติเหตุพวกนี้ทีค่าหมอรักษานั้นแพงอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้นทาง AXA ต้องหาวิธีที่จะให้คนทั่วไปรู้ว่าอุบัติเหตุเป็นเรื่องใกล้ตัว แถมยังมีค่าใช้จ่ายราคาแพงที่รัฐไม่คุ้มครอง ทำประกันเพิ่มไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่อย่างนั้นจะหมดตัวเองตอนที่ต้องไปหาหมอนะ Strategy เอาของรอบตัวมาสะกิดให้คิดถึงประกัน AXA กับเอเจนซี่ Publicis Conseil เลยเกิดไอเดียถ้าอย่างนั้นเอาของง่ายๆรอบตัวที่ทุกคนเห็นอยู่ทุกวันมาทำให้คนรู้ว่าถ้าของพวกนี้ทำให้เจ็บตัวไปหาหมอที มีเจ็บเจียนตายเพราะค่าหมอแน่ๆ เช่น ถั่วพิชตาชิโอที่ชอบเอามาแทะกินเวลาดูบอลนั้นแม้ปกติจะถุงละแค่ 3 ยูโร หรือราวๆ 100 บาท แต่รู้มั้ยว่าถ้าพลาดกัดฟันหักทีต้องเสียค่าหมอถึง 2,200 ยูโร หรือกว่า 80,000 บาทเชียวนะ หรือ น้ำแร่แพ็ค 6 ขวดนี่ถ้าพลาดตอนยกแล้วเจ็บหลัง […]

Nattapon Muangtum

มาดู Campaign ที่ทำให้คนเข้าใจ ว่า”ยา” มากไปก็ใช่ว่าจะดี

22/04/2018

Campaign ที่ทำมาเพื่อแก้ปัญหาทำอย่างไรถึงจะให้คนสั่งยาแค่พอดีๆ ลองมาดูเคสของบริษัทประกันแห่งหนึ่งใน UAE กัน ว่าเค้ามีวิธีอย่างไรให้ลูกค้าลดการสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะราคาแพงเป็นว่าเล่นทุกครั้งที่ป่วย ความเชื่อคือปัญหาความเชื่อผิดๆที่มักเชื่อกันไปว่า ยา กินไว้ยังไงก็ดีมากกว่าเสีย แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้ากินมากเกินไปกลับมีแต่ข้อเสียมากกว่าข้อดี แต่ที่คนส่วนใหญ่ไม่ตระหนักเพราะไม่มีความรู้ด้านนี้ และผลลัพธ์ของข้อเสียก็ไม่ได้เห็นผลทันทีเสียด้วย ผลเลยกระทบไปถึงบริษัทประกัน Daman บริษัทประกันสุขภาพในประเทศ UAE ที่รับทำประกันสุขภาพให้กับบรรดานายจ้างหรือเจ้าของบริษัท ที่ต้องทำประกันกลุ่มหรือประกันสุขภาพให้กับพนักงานทุกคนตามข้อบังคับของกฏหมายแรงงานที่นั่น ที่ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายในการขอเคลมมากขึ้น เพราะคนขอยาปฏิชีวนะราคาแพงเป็นว่าเล่น เพราะปัญหานี้ไม่ใช่ของฉันพนักงานไม่ได้รับรู้ถึงปัญหาการจ่ายเบี้ยประกันนี้ด้วย เพราะพนักงานได้รับสิทธิตามกฏหมายและคนส่วนใหญ่แล้วก็มักจะคิดคล้ายๆกันว่า มีประกันแล้วก็ต้องใช้เคลมให้คุ้ม เอายาไว้ก่อน บางทีแค่จามนิดๆ หรือเป็นไข้นิดหน่อยก็ขอยาปฏิชีวนะไว้ก่อนแล้ว ทั้งที่ความจำเป็นไม่ต้องใช้ขนาดนั้นเลย และเมื่อมีการขอเคลมมากขึ้น ก็ต้องมีการจ่ายเบี้ยเพิ่มขึ้นตามปกติ แต่ปัญหาที่ตามมาคือผู้ใช้ประกันตัวจริงไม่ได้รู้สึกว่ามีผลกระทบอะไร เพราะผู้ที่ต้องจ่ายเบี้ยประกันต่อไปก็คือนายจ้างตามเดิมทำอย่างไรให้พนักงานผู้ใช้สิทธิประกันสุขภาพของตัวเองลดการสั่งยาปฏิชีวนะที่ไม่จำเป็นลงได้ เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดๆ ขนม..คือสิ่งที่รับรู้เหมือนกันทั่วโลกว่ายิ่งกินยิ่งไม่ดีกันมาแต่ไหนแต่ไร ทางเอเจนซี่ผู้ดูแล Daman เลยใช้สิ่งนี้มาสื่อสารให้คนเข้ากับว่าก็เหมือนกับยาปฏิชีวนะ ด้วยการเอายามาใส่ในแพคเกจที่หน้าตาล้อเลียนขนมดังๆ ทำให้คนเห็นภาพชัดเจนว่า ยาก็เหมือนขนม ถ้ากินมากเกินไปโดยไม่จำเป็นก็เกิดผลที่ไม่ดีได้เหมือนกัน ผ่านการจัดกิจกรรมจริงๆที่ห้างดังใน UAE และยังผ่านสื่อต่างๆรอบตัวผู้คนไม่ว่าจะสื่อสิ่งพิมพ์ หรือออนไลน์ ผลก็คืออัตราการเคลมค่ารักษาประกันภัยจากเดิมที่เพิ่มขึ้นทุกปี กลายเป็นปีที่ทำนั้นลดลงเป็นปีแรก และผลสุดท้ายก็ดีต่อทุกฝ่าย นั่นคือทางผู้คนเองก็มีสุขภาพที่ดีขึ้นในระยะยาว เพราะไม่ต้องรับยาปฏิชีวนะมากเกินไป ทางนายจ้างเจ้าของบริษัทเองก็เสียค่าเบี้ยประกันให้พนักงานลดลง และทาง Daman ก็ลดการค่าเคลมกับยาและการรักษาพยาบาลที่ไม่จำเป็นด้วย เคสสุขภาพเบาๆแต่ใกล้ตัวเราทุกคน แม้ต้นเรื่องจะอยู่ไกลถึง […]

Nattapon Muangtum

Groupama ถ่ายทอดคุณค่า “ความปลอดภัย” ในรูปแบบ Google Map

14/03/2018

Groupama บริษัทประกัยภัยทางรถยนต์และการเดินทางในประเทศฝรั่งเศษ เปลี่ยนการค้นหาเส้นทางที่เร็วที่สุด หรือสั้นที่สุด บทกูเกิ้ลแมพ ด้วยการส่งมอบเส้นทางที่จะ “ปลอดภัยที่สุด” ให้คุณแทน พฤติกรรมของคนใช้รถสมัยนี้มักคุ้นกับ Google Map เป็นอย่างดี แต่ฟีเจอร์ของกูเกิ้ลแมพนั้นจะเน้นประสิทธิภาพในการเดินทาง ไม่ว่าจะสั้นที่สุด หรือเร็วที่สุด หรือประหยัดที่สุดจากการไม่ใช้ทางด่วน …มาวันนี้บริษัทประกัน Groupama เสนอทางเลือกใหม่ให้ผู้ขับรถด้วยการ ช่วยค้นหาเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดให้คุณ แล้วเส้นทางที่ว่ามาจากไหน มาจากข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุในแต่ละเส้นทาง เมื่อเอามารวมกันก็จะได้เป็นข้อมูลที่มีคุณค่า ให้คุณหลบเลี่ยงเส้นทางที่มีความเสี่ยงผ่านเวปได้ เพราะการเดินทางเร็วคงไม่มีความหมายถ้าไม่ปลอดภัยต่อชีวิต ผลลัพธ์ของแคมเปญนี้มีคนเห็นมากกว่า 13 ล้านครั้งในสัปดาห์แรก และ impression จากมีเดียด้วยเป็นมากกว่า 30 ล้าน impression รวมเป็นมีเดียกลับคืนมามูลค่ากว่า 5.5 ล้านยูโร และมีผู้มาใช้งานคำนวนหาเส้นทางที่ปลอดภัยมากถึง 3.5 ล้านครั้งในสัปดาห์แรก สุดท้ายคือมีคนแชร์ออกไปสูงกว่า 2แสนครั้ง ทั้งหมดนี้จะเห็นว่า คุณค่า ที่แบรนด์มอบให้ ถ้ารู้จักต่อยอดก็สามารถถ่ายทอดมาในรูปแบบใหม่ๆที่ไม่ลดทอนคุณค่าได้ ไม่แน่ว่าอีกหน่อยบริษัทประกันนี้อาจปรับรูปแบบธุรกิจแทนที่จะแค่ขายประกันรถยนต์ เป็นการขายการใช้งานเพื่อหาเส้นทางที่ปลอดภัยนี้ก็ได้ครับ.ลองดูคลิปของแคมเปญนี้ได้ที่นี่ครับhttps://www.youtube.com/watch?v=_EHF5OnoVTY

Nattapon Muangtum

Swann Insurance สร้าง Inconvenience Stores ให้หนุ่มๆได้ออกไปเที่ยวไกลบ้าน

06/02/2018

เมื่อบริษัทประกันภัยรถมอเตอร์ไซค์ สร้างร้าน “ไม่สะดวกซื้อ” เพื่อกระตุ้นให้หนุ่มที่มีรถ ได้ขับรถออกไปข้างนอกบ้าง Swann Insurance บริษัทประกันรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์ สร้างเหตุผลให้เจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดทิ้งไร้แรมปีในโรงรถที่บ้าน ได้ขับออกไปไกลๆสัมผัสเส้นทางและประสบการณ์ใหม่ๆเสียที เพราะถ้าไม่ขับคนก็จะไม่ต่อประกัน ดังนั้นการสร้างเหตุผลให้คนได้ขับ ก็ทำให้คนได้มีเหตุผลที่ต้องต่อประกันนั่นเอง Inconvenience Stores ร้านไม่สะดวกซื้อนี้มีอยู่ 4 สาขากระจายอยู่ทั่วประเทศออสเตเรีย โดยเฉลี่ยแล้วต้องขับรถราวๆ 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงร้าน และขับรถกลับอีกสองชั่วโมง โดยของที่ขายก็ไม่ใช่ของพิเศษอะไร เป็นของทั่วไปเท่านั้นเอง เพียงแต่อาจจะมีส่วนลดเล็กๆน้อยๆ (ซึ่งก็เล็กๆน้อยๆจริงๆ) เพราะแค่ 10% สำหรับลูกค้า Swann Insurance ผลลัพธ์ที่ได้ในเปิดตัววันแรกมีคนขับไปเพื่อไปซื้อของที่ร้านนี้ถึง 50 คนแล้ว แม้จะดูเล็กน้อยมากแต่ลองคิดดูซิว่าคนที่ยอมขับไปขนาดนั้นจะเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คนรอบตัวฟังอีกนานแค่ไหน เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วจะพบว่า การท้าทาย เป็นหัวใจหลักของแคมเปญนี้ ที่ทำมาเพื่อท้าทายโดยเฉพาะคุณผู้ชายที่เป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ที่มีเงินและซื้อมาจอดทิ้งไว้ในโรงรถ เพราะจากผลสำรวจพบว่ากว่า 50% ของเจ้าของรถแทบไม่ได้ขับออกไปไหนเลยในปีที่ผ่านมา แม้จะดูว่าเหตุผลในการขับรถมอเตอร์ไซค์กว่า 600 กิโลเมตรเพื่อไปซื้อของเป็นเรื่องไร้สาระมาก แต่เชื่อเถอะครับในความคิดของผู้ชายเรื่องไร้สาระนี่แหละ ที่ท้าทายได้ดีนัก เพราะสุดท้ายมันคือการ “ทำได้แล้ว” ในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ และการร่วมสนุกกับแคมเปญนี้ก็ไม่ได้ยากจนถึงขั้นที่ทำไม่ได้ แค่จะทำมันให้ได้หรือเปล่าเท่านั้นเอง ลองดูคลิปของแคมเปญนี้ดูนะครับ ผู้ชายๆน่าจะเก็ตไอเดียอะไรแบบนี้ได้ไม่ยากhttps://www.youtube.com/watch?v=9wQZJxCVMb4

Nattapon Muangtum

Manulife เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและนำมาทำเป็นการตลาด

01/12/2017

วันนี้ #การตลาดวันละตอน นำอีกหนึ่ง Case Study ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการวางกลยุทธ์การตลาดด้วยการศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคมาฝากกันครับ บอกเลยว่าเป็นเคสที่สามารถแทรกซึมและทำให้ผู้บริโภคเปิดประตูรับแบรนด์ได้แบบเต็มใจและไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลย มาดูกันครับว่าเขาทำได้อย่างไร Manulife ออกแบบกระถางต้นไม้เสริมดวงให้ชีวิตยืนยาว เมื่อบริษัทประกันชีวิต Manulife ที่ประเทศสิงค์โปรมีจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องการปกป้องและดูแลชีวิตของผู้คน เลยไม่หยุดอยู่แค่สินค้าอย่างประกัน แต่ยังทำวัตถุที่จับต้องได้ของแบรนด์ให้เข้าไปอยู่ในบ้านของคนด้วย กระถางเครื่องเคลือบเซรามิค ปัญหาของผู้คนในสิงค์โปรเวลานี้คือการเจ็บป่วยด้วยโรคจากยุง ทั้งโรซิกก้า และโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนนึงของปัญหาก็มาจากแหล่งน้ำขัง และแหล่งน้ำขังที่ทุกบ้านมีก็อยู่ในจานรองกระถางต้นไม้ที่นิยมปลูกกันในบ้านแทบทุกบ้าน ไม่ว่าจะด้วยต้องการบรรยากาศสีเขียวในบ้าน หรือเพื่อเสริมโชคราง กลับกลายเป็นเพิ่มโอกาสให้ยุงมาแพร่พันธุ์ในบ้านตัวเองซะอย่างนั้น สร้างจุดขาย เพื่อตอบโจทย์ Pain Point ผู้บริโภค Manulife หยิบทั้งปัญหาที่เกิด กับพฤติกรรมผู้บริโภค มาผสมกับจุดขายของแบรนด์ที่เป็นการปกป้องดูแลชีวิต จนได้ไอเดียออกมาเป็นกระถางเครื่องเคลือบที่สามารถป้องกันยุงทั้งหลายไม่ให้มาวางไข่ที่กระถางต้นไม้ได้ ด้วยเทคโนโลยีบางอย่างที่สามารถไล่ยุงไม่ให้อยากเข้าใกล้แหล่งน้ำขังที่จานรองกระถางจาก Manulife นี้ ก็เลยช่วยให้ลูกค้าของ Manulife เองมีชีวิตที่ปลอดภัยขึ้น สิ่งสำคัญของแคมเปญนี้คือการที่คนเปิดรับแบรนด์ให้เข้าไปอยู่ในบ้านของตัวเอง และที่สำคัญยังสามารถเป็น media ที่สร้าง brand recall ให้เจ้าของบ้านที่เห็นทุกครั้งให้นึกถึงแบรนด์ให้บ่อยๆ แล้วทีนี้ถ้าจะทำประกันครั้งหน้าถ้าไม่ใช่ Manulife ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วล่ะครับ ถ้าอยากเห็นเบื้องหลังและเรื่องราวเต็มๆ ของกระถางต้นไม้ไล่ยุงใบนี้ กดลิงก์เข้าไปดูคลิปสั้นๆ ให้เข้าใจเต็มๆ ได้เลยครับ […]

Nattapon Muangtum

ประกันสุขภาพ 4.0 ยิ่งดูแลสุขภาพดีเท่าไหร่ เบี้ยประกันยิ่งถูกลงเท่านั้น

27/10/2017

ประกันสุขภาพ 4.0 วันนี้ให้คุณมากกว่า การรับประกันสุขภาพ แต่ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพของคุณด้วย เห็นข่าวเกี่ยวกับประกันสุขภาพที่น่าสนใจว่า บริษัทประกันเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่มี smart watch หรือจะบอกว่า wearable ล้ำๆ ต่างๆ อย่างพวก apple watch สามารถนำมาลดเบี้ยประกันได้ แต่ไม่ใช่แค่ซื้อใส่โก้เก๋เฉยๆ นะครับ แต่ต้องไปออกกำลังกายเอาสุขภาพที่ดีมาแลกกับค่าลดเบี้ย ถ้าถามว่าเพราะอะไรก็ต้องบอกว่าโดยหลักการของธุรกิจประกันคือ การคำนวนความเสี่ยงของแต่ละคนที่จะเสียชีวิตออกมาเป็นตัวเลข แล้วก็ออกมาเป็นเบี้ยประกันที่ต่างกัน หรือถ้าพูดง่ายๆในภาษาชาวบ้านๆ คือ ถ้าดูท่าว่าน่าจะตายเร็วด้วยการใช้ชีวิตไม่เฮลตี้เท่าไหร่ ก็ต้องจ่ายเบี้ยแพงกว่าชาวบ้านคนที่ดูกินคลีนสุขภาพดีกว่าพอสมควร แต่ไหนแต่ไรมาเรามักจะใช้วิธีไปตรวจสุขภาพหาความเสี่ยงโรคต่างๆ ก่อนจะทำประกันสุขภาพกัน แล้วก็คำนวนเบี้ยตายตัวออกมาให้จ่าย แต่มาวันนี้บริษัทประกันเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ออกกำลังกายตามที่กำหนด เหมือนช่วยกันลดความเสี่ยงไปด้วยกันตรงที่บริษัทประกันก็มีโอกาสที่จะจ่ายค่ารักษาให้เราลดลง เพราะเรามีสุขภาพที่ดีขึ้น บริษัทประกันก็เลยเอาส่วนที่ลดตรงนี้มาเป็นลดเบี้ยหรือคืนเงินให้ก็แล้วแต่ อนาคตในการตรวจวัดสิ่งต่างๆ จะเข้มข้นและหลากหลายมากขึ้น ไม่แน่ว่าอีกหน่อยออฟฟิศคงสามารถตรวจได้ว่าเรานั่งหน้าคอมทำงานจริงๆ หรือเรากำลังมั่วแต่ไถฟีดเฟซบุ๊คแล้วช็อปเสื้อผ้าในไอจีกันแน่ ว่าแล้วขอไปหา apple watch มาใส่ลดเบี้ยก่อนนะครับ Credit Thumbnail & More info: https://www.macrumors.com/2017/10/23/john-hancock-vitaly-apple-watch-offer/ https://www.johnhancockinsurance.com/vitality-program/apple-watch.html ติดตามเรื่องราวการตลาดวันละตอน สดใหม่ทุกวันได้ที่ : https://everydaymarketing.co/

Nattapon Muangtum

1 2