ใครจะไปคิดครับว่าถ้าแบรนด์มา Live แค่ครั้งเดียวจะมีคนให้ความสนใจ จนหน้าเพจของแบรนด์เกิด engagement กันอย่างคึกคัก ดึงทั้งลูกเพจเก่า-ใหม่เข้ามาดูได้อย่างน่าสนใจ แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้วจากมหกรรม Live มาราธอนกับงาน LEO Fest From Home ที่เขาประกาศจัดงาน Live ที่น่าจะใหญ่ที่สุดและยาวนานที่สุดในประเทศไทย เพราะขนมาถึง 14 Influencer คนดังจากทุกสายทั้งเพลง เที่ยว อาหาร ดูดวง เรื่องลี้ลับ ฯลฯ ที่มาประโคมความมันตั้งแต่บ่าย 2 ถึงตี 2 ให้สมกับคำว่า #มันส์มาราธอน กันเลยทีเดียว
เพราะจากช่วง Social distancing ที่หลายคนยังคงต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาตินั้น ทำให้อุณหภูมิความเหงากดดันเข้ามาในใจเรามากขึ้นทุกที และนั่นเองที่น่าจะเป็นตัวแปรให้มหกรรมการ Live มาราธอน 12 ชั่วโมงของ LEO Fest From Home ครั้งนี้ประสบความสำเร็จแบบที่น่าจะยังไม่เคยเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย เพราะมียอดคนเข้าชมสูงตลอดทุกรายการในการ Live ครั้งนี้
และที่พีคกว่านั้นคือมีการคอมเมนท์คุยกันในโพส Live นั้นแบบสดๆ เกิดขึ้นกว่า 14,000 ครั้ง อันนี้เท่าที่ผมเห็นนะครับ ไม่ได้เป็นยอดสรุปสุดท้าย ยังไม่นับการแชร์อีกกว่า 7,000 แชร์ ที่ผมเห็นตัวเลขด้วยตัวเองตอนที่วงแคลชขึ้นเล่นคอนเสิร์ต และแน่นอนครับว่าพอถึงตอนจบ Live ยอดแชร์ต้องพุ่งขึ้นกว่านี้ไปอีกมาก ถ้าใครได้อยู่ในการ Live ครั้งนั้นแบบผมก็คงจะคิดว่าหลุดเข้าไปอีกโลกกับ LEO Fest From Home แน่ๆ เพราะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่พีคมากคือตอนที่วง Clash กำลัง Live อยู่มีคนเข้ามาชมพร้อมกันกว่า 7.2 พันคน นับว่าเป็นมหกรรมงาน Live ที่ปังไม่แพ้ใครในไทยแน่ๆ
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ยอด Engage ในเพจ LEO Thailand สูงขึ้นเรื่อยๆ น่าจะเป็นเพราะแบรนด์กล้าที่จะเล่นกับความ Interactive ต่างๆของการ Live บนออนไลน์ ต่างจากหลายๆแบรนด์ที่จะสื่อสารแบบ One-way communication ทางลีโอเลือกที่จะให้คนดูสามารถกำหนดได้เองว่าอยากเห็นคอนเทนท์ออกมารูปแบบไหนทั้งผ่าน Function ที่ Facebook มีอยู่แล้ว เช่น การโหวตผ่าน Poll ง่ายๆ ให้เลือกหัวข้อที่อยากฟังในรายการเที่ยวกันมันส์ดี และการเสริมเพิ่มเติมด้วยกิมมิคอื่นๆที่ได้สร้างให้คนเกิด Virtual experience เช่น คอมเมนท์ด้วย Emoji ในช่วงเวลาที่กำหนด แล้วจะเกิด Effect ขึ้นบนหน้าจอ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ดูไม่ซับซ้อน แต่ก็ได้สร้าง Experience ใหม่ๆให้กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดี เรียกได้ว่าครั้งนี้ลีโอได้ยกระดับมาตรฐานการ Live ไปอีกขั้นแล้ว
แต่สุดท้ายที่เด็ดสุดที่ผมต้องขอคารวะใจ LEO Fest From Home เลย คือพวกเขาเลือกที่จะลบวิดีโอการ Live ครั้งนี้ออกไปแบบทันทีทันใดที่ Live จบ เพราะพวกเขาต้องการให้ทุกคนที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการ Live ครั้งนี้ได้ดูกันอย่างจุใจ และได้รู้สึก Exclusive กับ Social Experience ในแบบที่เป็น Digital Urgency จริงๆ ครับ
ถ้ามองย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงที่คนส่วนใหญ่เริ่ม Work From Home และร้านผับบาร์ต่างๆถูกระงับไม่ให้เปิด ซึ่งเป็นผลกระทบมาจากวิกฤต Covid-19 ทางแบรนด์ LEO ก็ไม่เคยหยุดนิ่ง แต่ได้ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับพฤติกรรมและข้อจำกัดต่างๆของกลุ่มเป้าหมาย เช่น คอนเสิร์ตที่ส่งตรงจากบ้านศิลปินอย่าง LEO Live Muzik, ผับออนไลน์สำหรับสายแดนซ์อย่าง LEO Live EDM และผับออนไลน์สำหรับคนชอบดนตรีสดอย่าง LEO Night Live ตลอดจนมาถึง Festival ใหญ่ครั้งนี้อย่าง LEO Fest From Home เรียกได้ว่าเป็นการตอกย้ำถึงความมันส์ของแบรนด์ โดยยกกิจกรรมที่ตอนนี้ยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ มาอยู่บนออนไลน์ สร้างให้คนเกิดประสบการณ์ความสนุกร่วมกับแบรนด์ จัดว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่น่าจับตามองเลยนะครับ
ปล. ถ้าใครที่พลาดความมันส์มาราธอนไป ทาง LEO ใจดีนำรายการต่างๆ มารีรันให้ชมย้อนหลังกันด้วย และถ้าไม่อยากพลาดความมันส์กับ LEO อีกในครั้งหน้า ให้เกาะเพจเค้าแน่นๆ กด See first เพจ LEO Thailand ไว้รอได้เลยครับ > https://www.facebook.com/LEOTH/